พระราชดำริฯ กับการปลูกหญ้าแฝก

หมวดหมู่ของบล็อก: 
(วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2546)

“ให้ใช้หญ้าแฝกในการพัฒนา ปรับปรุงบำรุงดิน ฟื้นฟูดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ และแก้ปัญหาดินเสื่อมโทรมดำเนินการขยายพันธุ์ ทำให้มีกล้าหญ้าแฝกเพียงพอด้วย ที่สำคัญต้องไม่ลืมหน้าที่ของหญ้าแฝก ในการอนุรักษ์ดินและน้ำ และเพื่อการรักษาดิน ให้ทุกหน่วยงานและหน่วยงานราชการที่มีศักยภาพในการขยายพันธุ์ ให้ความร่วมมือกับกรมพัฒนาที่ดิน ในการผลิตกล้าหญ้าแฝก และแจกจ่ายกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการให้เพียงพอ”
  
ณ ศาลาเริง วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

หญ้าแฝก

       การชะล้างพังทลายของดินยังเป็นปัญหาใหญ่ในพื้นที่ 4 จังหวัด ในความรับผิดชอบของสำนักงานพัฒนา ที่ดิน เขต 3 ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ น้ำฝนที่ไหลหลากลงมาจากที่ดอนจะพัดพาหน้าดิน ออกไป เกิดความเสียหายให้แก่พื้นที่ปลูกพืชไร่สำคัญ ๆ เช่น มันสำประหลัง อ้อย ข้าวโพด พริก เป็นตัน 
นอกจากทำให้ผลผลิดลดลงแล้ว ยังทำให้แหล่งน้ำต่าง ๆ ตื้นเขินอีกด้วย วิธีง่าย ๆ ในการอนุรักษ์ดิน และ
สามารถดำเนินการเองได้ คือ การปลูกแฝกเป็นแนวระดับขวางความลาดชันพื้นที่ไว้
       หญ้าแฝก เป็นพืชตระกูลหญ้าเช่นเดียวกับ ข้าวโพด ข้าวฟ่าง อ้อย และตะไคร้ พบกระจายทั่วไปหลาย ๆ พื้นที่ ที่พบในประเทศไทยจำแนกออกได้ 2 ชนิดได้แก่ หญ้าแฝกหอม และหญ้าแฝกดอน ในธรรมชาติ
พบว่าแฝกทั้งสองชนิดนี้มีการกระจายตัวได้ดีในสภาพพื้นที่ทั้งที่ลุม และที่ดอน ในดินสภาพต่าง ๆ


ข้อแตกต่าง

  หญ้าแฝกหอม หญ้าแฝกลุ่ม

ลักษณะกอ


  1. เป็นพุ่ม ใบยาวตั้งตรงขึ้นสูง
  2. สูงประมาณ 150-200 ซม.
  3. แตกตะเกียงและแตกแขนงสำต้น


  1. เป็นพุ่ม ใบยาวปลายจะโค้งลงคล้ายกอตะไคร้
  2. สูงประมาณ 100-150 ซม.
  3. ไม่มีการแตกตะเกียงและแขนงลำต้น

ใบ


  1. ยาว 45-100 ซม. กว้าง 0.6-1.2 ซม.
  2. สีเขียวเข้ม หลังใบโค้ง
  3. เนื้อใบเนียน มีไขเคลือบมาก


  1. ยาว 35-80 ซม. กว้าง 0.4-0.8 ซม.
  2. สีขาวซีด หลังใบพับเป็นสันแข็งสามเหลี่ยม
  3.เนื้อใบหยาบ มีไขเคลือบน้อย

ช่อดอกและดอก


  1. ช่อดอกสูง 150-200 ซม.
  2. สีอมม่วง
  3. ดอกย่อยไม่มีระยางค์แข็ง


  1. ช่อดอกสูง 100-150 ซม.
  2. หลากสีตั้งแต่ ขาวครีม ม่วง
  3. ดอกมีระยางค์แข็ง


เมล็ด

 
  ขนาดโตกว่า


  ขนาดเล็กว่า


ราก


  1. กลิ่นหอมเย็น
  2. หยั่งลึก 100-300 ซม.


  1. ไม่มีความหอม
  2. หยั่งลึก 80-100 ซม.

พันธุ์


  กำแพงเพชร 2 , เชียงราย , สงขลา 1 ,
  สงขลา 2 , สงขลา 3 , สุราษฎร์ธานี ,
  ตรัง 1 , ตรัง 2 , ศรีรังกา , เชียงใหม่ ,
  แม่ฮ่องสอน (รวม 11 พันธุ์) 


  อุดรธานี 1 , อุดรธานี 2 , นครพนม 1 , นครพนม 2,
  ร้อยเอ็ด , ชัยภูมิ , เลย , สระบุรี 1 , สระบุรี 2 ,
  ห้วยขาแข้ง , กาญจนบุรี , นครสวรรค์ , ราชบุรี ,
  ประจวบคีรีขันธ์ ,จันทบุรี , พิษณุโลก , กำแพงเพชร

วิธีการปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน

       ก่อนอื่นต้องเตรียมกล้าแฝกเสียก่อน โดยการขุดแฝกทั้งกอขึ้นมาตัดรากให้เหลือ 10 ซม. และตัดต้นให้เหลือ 20 ซม. แยกหน่อแล้วมัดรวมเช่นเดียวกับ
การถอนกล้าข้าว นำไปแช่น้ำให้น้ำท่วมรากประมาณ 5-7 วัน เมื่อเห็นว่ารากแตกออกมาใหม่จึงนำไปปลูก หรือ กล้าแฝกจากการขยายพันธุ์ในถุงพลาสติก และ
อายุประมาณ 45 วัน เริ่มปลูกตั้งแต่ต้นฝนเป็นต้นไป
1. ปลูกหญ้าแฝกขวางความลาดเทของพื้นที่
       1.1 ใช้เครื่องมือง่าย ๆ สามารถปฏิบัติเองได้ โดยใช้สายยางหาระดับแบบช่างไม้ จับระดับเป็นระยะ ๆ พร้อมหลักปักแนว ไปเรื่อย ๆ หรืออาจใช้กล้องส่องระดับก็ได้
       1.2 ใช้รถไถเดินตามหรือไถควายลาก ไถตามแนวไม้ที่ปักไว้
       1.3 ปลูกแฝกระยะ 5-10 ซม. ตลอดแนวที่ไถจะได้แนวหญ้าแฝกหนึ่งแนว จากนั้นสร้างแนวปลูกแฝกใหม่ ปฏิบัติตามขั้นตอน ที่ 1.1-1.3 ระยะห่างของแนวแฝกแต่ละแนว ห่างกันตามแนวดิ่ง 1.50 เมตร
2. ปลูกแฝกในสวนผลไม้ หรือไม้ยืนต้น
       2.1 สร้างแนววงกลมรัศมีประมาณ 2 เมตร รอบ ๆ ลำต้นไม้ผลหรือไม้ยืนต้น พื้นดินแนวครึ่งวงกลม หงายรับความลาดเอียงของพื้นที่
       2.2 ปลูกแฝกระยะประมาณ 5-10 ซม.
       2.3 เมื่อแฝกเจริญเติบโตเต็มที่ เกี่ยวใบแฝกคลุมรอบ ๆ โคนต้น จะช่วยรักษาความชุมชื้นและเพิ่มอินทรีย วัตถุแก่ไม้ผลไม้ยืนต้น หรือใช้เป็นวัสดุทำไพหญ้ามุงหลังคาก็ได้
3. ปลูกแฝกรอบสระน้ำหรืออ่างเก็บน้ำ
       3.1 วางแนวปลูกแฝกเป็นแถวตามระดับ 3 แนวรอบสระน้ำหรืออ่างเก็บน้ำห่างกันแนวละ 20 ซม.
       3.2 แถวล่างสุดปลูกตามแนวระดับน้ำขึ้นสูงสุด

สรุปประโยชน์หญ้าแฝก

       1. ช่วยป้องกันการสูญเสียหน้าดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตะกอนดินที่ถูกน้ำกัดเซาะและพัดพามา โดยจะถูกกอหญ้าแฝกดักไว้เมื่อเวลาผ่านไปหลาย ๆ ปี
จะกลายเป็นขั้นบันไดดินตามธรรมชาติ
       2. ช่วยลดความรุนแรงและความเร็วของน้ำไหลบ่า เมื่อน้ำไหลมปะทะแนวกอแฝกแล้วน้ำจะซึมลงสู่ดิน น้ำบางส่วนจะไหลผ่านแนวกอแฝกอย่างช้า ๆ
       3. ช่วยเสริมความมั่นคงแข็งแรงตามแนวตลิ่ง ฝายกั้นน้ำ ทางระบายน้ำ คลองส่งน้ำ ริมถนนสูง
       4. ใช้เป็นวัสดุคลุมดินรักษาความชุ่มชื้นและควบคุมวัชพืช
       5. ใบนอกจากใช้ทำตับหญ้ามุงหลังคาแล้วยังใช้ทำเครื่องประดับ เช่น กระเป๋า พัด ไม้แขวนเสือ ส่วนรากใช้ทำน้ำมันหอม สบู่ ยาสมุนไพรรักษาโรคบางชนิด เช่น รากบดละเอียดผสมน้ำแก้ไข้ แก้โรคเกี่ยวกับน้ำดี รากต้มดื่มช่วยละลายนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น

"หญ้าแฝก กำแพงชีวิต"

ความเห็น

เคยได้ยิน และ เห็นในเวบ แต่ไม่เคยเห็นตัวเป็นๆซักที หากกลับไปทำสวน คงได้เจอกัน อิอิ

พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า 

ที่ให้ข้อมูลดีๆและเป็นประโยชน์

 

หากไม่ใช่ข้อมูลที่เขียนขึ้นเอง

รบกวนช่วยแจ้งที่มาของข้อมูลด้วยนะคะ

เพื่อการศึกษาเพิ่มเติมค่ะ

 

ขออภัยที่รบกวนนะคะ

 

อยากได้ อยากรู้อะไร

ต้องถามอาจารย์  googel  ครับ

นี้คือผลพลอยได้จากอินเตอร์เน็ตครับ

เพื่อ ชาติ และ องค์ราชันย์

ถ้าไม่ได้เขียนเอง ช่วยบอกที่มาด้วยครับ เป็นการให้เกรดิตเขา