ที่มา...ที่ไป..(2) ภาคต่อ..ของอดีตของชายหนุ่ม

หมวดหมู่ของบล็อก: 

    “มาแต่ ที่ใดรึพ่อหนุ่ม..ใยมิเข้าไปในเรือน”  สุ้มเสียงอ่อนโยนของหญิงวัยกลาง คุณท้าวคุรุเล็ก แห่งบ้านอุบล ที่กำลังพูดคุยอยู่กับแม่นายจันทร์ แห่งสุพรรณบุรี แลแม่นายแก้ว แห่งทุ่งบางกะปิ กล่าว เชิญชวนชายหนุ่มที่ยืนนิ่งครุ่นคิดเฝ้ามองผู้คนหลากหลายที่วนเวียนเข้าออก เรือนใหญ่ประหนึ่งดังมีงานมหรสพใหญ่

ที่มาภาพ : http://www.starwoodcenter.com/board/Question.asp?GID=2111

     ชายหนุ่มไม่ตอบได้แต่ก้าวตามไปอย่างไม่แน่ใจนัก  เสียงอึกทึกจากการสนทนาวิสาสะทำให้ชายหนุ่มรับรู้ถึงสายใยยึดโยงดุจปราการป้อมค่าย ซึ่งจำเป็นยิ่งนักในยามนี้  รัตนโกสินทร์ศก ๑๔ (พศ.2338)   ยามที่บ้านเมืองต้องการความเหนียวแน่นต่อการรุกรานของพม่าที่หวังจะรุกล้ำดินแดนสยามประเทศ ชายหนุ่มรีรอ ด้วยมิรู้จะย่างเข้าได้กลวิธีใด

“อ้าว..นั่นคุณหลวงปริศนา พนาพันธ์ นี่..เชิญด้านนี้นะเจ้าคะ”  แม่หญิงโส แห่งบ้านวิมานบุรี กล่าวขณะเดินลอดชายมะเฟืองขนาดเขื่องข้างเรือนอย่างกุลีกุจอ  แม่บุญพา..แม่ดวง..แม่อิ๊ด..แม่ทราย..แม่บุ๋ม ..มีใครอยู่ด้านในบ้าง มารับคุณหลวงหน่อยเร้ว

“นายบ้านโส ไปอยู่เสียที่ใด แขกเหรื่อออกมากมาย เดี๋ยวท่านเจ้าคุณพูน  เจ้าคุณบุญลือ จะตามมาชั่วเคี้ยวหมากแหลกนี่ แล้วนี่..มีผู้ใดมากันแล้วบ้าง” เสียงขุ่นหลวงไถ่ถามอย่างห่วงใยมิได้แฝงเร้นตำหนิแต่ประการใด 

“คุณพระสาย  พระพายลิ่ว (นามเดิมสายลมลอย)  คุณหลวงนุ วิษณุศิษย์   คุณพระภักดี อัฐศตวรรษนพ (นามเดิม pakdee 809 ) มากันรึยัง “ คุณหลวงเอ่ยถาม

“มากันครบแล้วเจ้าคะ  ยังมี จมื่นป้อม ปราการแกร่ง ขุนแผน แสนศักดา หมื่นไม้ หอมขจาย แล มาดามแอน  ครูสอนภาษาที่ทรงภูมิแลมีหัวใจสยามอย่างเต็มภาคภูมิ มา รอกันพร้อมสรรพ” คุณท้าวแจ้ว แพ้วทางพัทลุง หนึ่งในแม่หญิงสยามผู้มีความรอบรู้เกินกว่าหญิงใดในยุคสมัยนั้น เอื้อนตอบก่อนร่วมเข้าหารือ

“เออ..คุณหลวงขอรับ..คุณหลวงพอจะรู้จักชายหนุ่มกำยำ ที่สะพายย่ามแลดาบคู่ คนนั้นมั๊ยขอรับ กระผมเห็นยืนนิ่งเหมือนมีความใน มาหลายเพลาแล้วขอรับ ” นายบ้านโส  ผู้คุ้มกฎแห่งบ้านสวนรัตนโกสินทร์ แม้มิได้มียศฐาเยี่ยงผู้อื่น แต่เป็นที่รู้กันว่า นี่คือข้าหลวงใหญ่ที่ได้รับความไว้วางใจให้ดูแล แต่ที่ต้องเร้นกายเพื่อสืบความเคลื่อนไหวในฐานะนายบ้านที่มีคุณูปการต่อบ้านสวนรัตนโกสินทร์

“เป็นสหายใหม่ของกระผมเอง เห็นเป็นคนมีฝีมือ เมื่อครู่ได้ปะดาบกับพวกโจรปล้นเสบียง” เห็นเป็นคนใสซื่อ ฝีมือดี กระผมเลยชักชวนให้เข้าร่วม”  ขุนเกษตร บุรีรมย์ (นามเดิมน้อย บุรีรัมย์) รายงานก่อนความแคลงใจจะลุกลาม

ตูม..ตูม.....เสียงปืนใหญ่จากเรือรบของกองเรือพม่าที่ยกกันมาเป็นแพเลียบลำน้ำในคลอง  ทุกคนรีบรุดเข้าเรือนเพื่อเตรียมการมีเพียงชายหนุ่มที่ยังคงยืนกระชับดาบคู่ จนเจ้าคุณพูนที่เพิ่งจะเข้ามา ต้องขยับมือยั้งดาบของชายหนุ่ม พลางตบบ่า จูงมือชายหนุ่มให้ก้าวเข้าเรือนใหญ่

“เก็บดาบของเจ้าเสียก่อน  เดี๋ยวหากมันขึ้นฝั่งได้ คงได้ประดาบตะลุมบอน”

 

กริ๊ง....กริ๊ง....กริ๊ง....เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น .. พร้อมเสียงเล็กแหลมเสียดโสดประสาทของใครคนหนึ่ง

“มามะมานี่...เข้ามาสิ..น้องก้อย น้องแอน ครูกัญน์   คุณกิ่ง คุณกลอย คุณแดง คุณพา คุณอิ๋ว คุณมาย คุณแป๋ว ทุกคนอยู่พร้อมหน้า อยากเห็นตัวจริงเป็นๆของนาย..เข้ามาเร้ว”  เป็นเสียงแปร๋นของเอ๋ ที่ทิ้งต้นกล้ามาร่วมชุมนุมกล่าวทัก จนปลุกให้ชายหนุ่มตื่นจากภวังค์ เลือนภาพเหตุการณ์ที่ผ่านมาสองร้อยกว่าปีให้จางหาย เขารู้สึกว่าภาพวันนี้ช่างเหมือนภาพเหตุการณ์ในอดีตที่เพิ่งผ่านพ้น..ชายหนุ่มดีใจที่เขาคิดไม่ผิด..อย่างน้อย..มาอยู่นี่ก็ได้กินของฟรี แถมได้ของกลับ้านเต็มรถตู้เหมือนใครบางคน

ความเห็น

ดูภาพบ้านย่าวรรณแล้วน่าจะเอามาทำเป็นโรงละครเล็ก..บรรยากาสดี..แต่ไกลโลด..

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

สุดยอดไปเลยพี่ตั้ม จินตนาการเหลือล้น

ตีตั๋วรอชมภาค 3 ต่อเลย...

ไม่เห็นหน้าเต็มๆ จินตนาการไม่ออกว่าจะให้บทไหนดี..ต้องดึงมาเล่นด้วย

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

ผมว่าคนบ้านสวนมีอะไรแอบอยู่เยอะ...มีแพลมๆมาทีละนิดๆ วันนี้มีนักเขียนบทเพิ่มมาอีกคน เยี่ยมครับพี่..ทำเป็นหลายอย่างจัง

พี่ว่าดมก็มีอะไรดีๆเยอะ..แสดงหน่อย..ช่วยเพิ่มสีสันให้บ้านสวนหน่อย

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

ของ มานี ชูใจ   เขียนแบบร่วมสมัยอ่านแล้วเหมือนเห็นสรพงษ์ ชาตรี ที่เล่นหนังใหม่ๆ 

ของ พี่ตั้ม       ป๊าดดดดดด (เสียงอุทาน บ่แม่นเสียงตด)  ขนพี่น้องเรานุ่งโจงกระเบนเป็นแถบๆ(สาวๆแอบเซ็กวี่เปลือยไหล่อิอิ)

อ่าน 2 Blog รู้อายุคนเขียนเลยอ่ะว่าใครแก่กว่า  55555

สนุกดีค่ะ  เอาอีก  เอาอีกLaughing

ฉันจะปลูก ผัก ให้ลูกทาน

จินตนาการบรรเจิดจิงนะเรา..ทนไม่ไหวแล้วนะ..ป๊าดดดด....(อันนี้ไม่แน่ใจว่าเสียงอะไร..คิดเอาเอง) ต้องตอบ...อย่างนี้ต้องตอบ..ช่างจินตนาการอย่างนี้..ถ้าพี่เขียนย้อนยุคไปยุคหิน..เธอต้องจินตนาการตัวละครในบ้านสวนแบบไม่มีเสื้อผ้าแน่เลย...กบว.หั่นแน่..ติดเรตอาร์..ป๊าดดดดดด...(อีกแล้ว)

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

กริ๊ง...กริ๊งๆ..เสียงโทรศัพท์ดังขี้น..ทำให้ภาพที่เห็น200กว่าปีนั่นจางหายไป

กะผมได้อ่านเรื่องราวในคล้านี้รู้สึกดีจริงๆที่ได้หรับรู้ความสามัคคีของบ้านสวนแห่งนั้นผู้บันทึกเรื่องนี้คงจะเป็นเจ้าวังในชิมิ....ฮาLaughing

ผู้เขียนเป็นแค่ทนายหน้าหอเท่านั้น..อิ..อิ..มิใช่เจ้าวังแต่ประการใด

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

อิจฉาพี่ตั้มที่ได้ดูแลพ่อแม่ได้นาน   อายุยืนทั้งคู่เลยนะคะ  พ่อกุ้งเสียตั้งแต่อายุ54  ไม่ได้เห็นกุ้งรับปริญญาอีกแค่ปีเดียวเอง  sadมากCry

มีความสุขกับการที่ได้ให้มากกว่าการที่ได้รับ

หน้า