ถ้านึกถึงชาวนา คุณนึกถึงอะไร

ถ้านึกถึงชาวนา แก้วจะนึกถึงคนปลูกข้าว.. ทุ่งนา.. กองฟาง.. ควาย.. วิถีชีวิต..ภูมิปัญญาชาวบ้าน.. และวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวนา 

มีอะไรอีกมากมายที่เกี่ยวข้อง..สอดคล้อง..และนำความคิดให้ไหลเลื่อนตามไป...

ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินชึวิตที่เปลี่ยนไปในยุคปัจจุบัน.. การประกอบอาชีพเกษตรเชิงพานิชย์.. ปัญหาของชาวนา.. และปัญหาเรื่องผลผลิตไม่ดี..

ไม่ว่ายุคใด..สมัยใด..เราก็ยังได้ยินคำว่าเกษตรกรผู้ยากไร้.. เนื่องจากปัจจัยต่างๆในการแก้ปัญหา   ยังคงไปไม่ถึงชุมชน ...

แก้วยังคงหวังว่า..สักวันหนึ่ง..ชาวนาไทย..จะมีชีวิตที่ดี..มีความสุขในการทำนา และมีสุขภาพที่ดี...

ขอเชิญเพื่อนๆ พี่น้องชาวบ้านสวน ร่วมออกความคิดเห็น.. ตามที่ท่านคิด  แก้วจะนำเสนอความเห็นของทุกท่าน เพื่อส่งความเรียงไปประกวด

เพื่อได้โอกาสรับเลือกที่จะได้ไปค่ายทัศนศึกษา เป็นตัวแทนพี่น้องบ้านสวน ที่จะนำความรู้กลับมาถ่ายทอด

ถึงแม้ไม่ได้รับเลือก แก้วก็ยินดีที่เกษตรกรคนสำคัญ จะได้อ่านบทความจากชุมชนพอเพียงของเรา...

นึกถึงตอนเป็นเด็ก ชีวิตวัยเด็กที่แทบไม่ได้ใช้เงินในการหาซื้ออาหาร ทุกอย่างมีในท้องทุ่งนา ปลาผักอาหารหลากหลายตามฤดูกาล  และตอนนี้เมื่อไม่มีโอกาสทำนา ก็คิดถึงพี่ๆที่ยังทำนาแล้วแบ่งข้าวมาให้หุง และนึ่ง อยู่ตลอดเวลาโดยน้องสาวอย่างย่าวรรณไม่เคยร้องขอ ตลอดเวลาที่กลับมาใช้ชีวิตใกล้บ้าน เป็นคนโชคดีที่สุดคนหนึ่งที่มีพี่น้อง ลูกหลานรักใคร่ จวบจนถึงปัจจุบัน และก็โชคดีที่สุดอย่างหนึ่งคือยังมีคุณแม่ เป็นจุดศูนย์รวมใจของลูกหลาน ทุกครั้งเมื่อทุกคนกลับรวมกัน นับแทบไม่ไหวเลยค่ะ เอ๊ะมันเกี่ยวกับชาวนามั้ยคะน้องแก้ว

 

 

ขอบคุณ ญาอ้ายเผด็จศึก ที่ให้ยืมรูปจากทุ่งนา มหาสารคาม

 ชมรมศิลป วัฒนธรรมอิสานจุฬา

www.isan.clubs.chula.ac.th

นึกถึงนี่เลยค่ะ  ท้องทุ่งสีเขียว นึกถึงความเร่งรีบ ตื่นแต่เช้า นึ่งข้าว

ปิ้งปลา ตำแจ่ว แล้วเร่งรีบ หาบตะกร้า คอนกระบุง  บ้างก็จูงควาย บ่าแบกไถ

รีบให้ทันฝนฟ้า ถ้าชักช้าฝนหมดปลูกข้าว ถอนกล้า ดำนาไม่ทัน ก็อดกัน ในปีหน้า

ลูกอิสานกันดารแท้ แต่บ่อเหี่ยวทางน้ำใจเด้อ
หากแหม่นใหลหลั่งรินปานฝนแต่เมืองฟ้า
มาเด้อพวกพี่น้อง สานสัมพันธ์ให้มันแก่น
ให้ยืนยาวแนบแน่นพอปานปั้นก้อนข้าวเหนียว เด้อพี่น้อง

ชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติ พูดถึงชาวนาก็คิดถึงความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกัน ช่วยเหลื้อซึ่งกันและกัน อันนี้อิ๋วพูดถึงครอบครัวของอิ๋ว เอง เพราะพ่อและแม่ไม่ค่อยสบาย 2-3 วันที่แล้วโทรไปหาพ่อเห็นบอกว่า ทั้งน้า ทั้งอา บ้านใกล้เรือนเคียงมาช่วยดำนา ถอนกล้า ทำอาหารเลี้ยวคนที่ทาช่วยวันเดียวเสร็จ ค่ะ ( พ่อดำนาช้ากว่าคนอื่น ๆ เพราะ ปัญหาเรื่องสุขภาพทำเองไม่ได้ค่ะ แต่คนมาช่วยเพรียบค่ะ

ทุกวินาทีมีค่า ถ้าเรามีความหวังเราจะไม่เคยพ่ายแพ้

 ชาวนาอุตส่าห์ทำงานหนัก หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน ให้ข้าวแก่ผู้คนถ้วนหน้า แต่ว่าชาวนาได้ผลตอบแทนคือการถูกชวนให้สูบยาเส้น แล้วพัฒนามาเป็นบุหรี่ พอไม่มีเงินก็กลับไปสูบยาเส้นใหม่ น่าเสียดาย หากชาวนาจะได้รู้อีกสักนิดว่ายาเส้นราคาไม่ได้ถูกกว่าบุหรี่เลยค่ะ เพราะว่าเมื่อสูบเข้าไปแล้ว ปัญหาตามมามากมาย ทั้งผู้สูบ ทั้งคนรอบข้างที่รัก ลูก เมีย ที่ต้องสูบบุหรี่มือสองที่มีพิษภัยรุนแรงพอกับมือหนึ่ง ตามมาด้วยภาวะสุขภาพที่ทรุดโทรมและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับสุขภาพ โรคมะเร็ง โรคระบบหัวใจหลอดเลือด อัมพาต ลูกเมียต้องลำบาก ประเทศชาติเดือดร้อน เมื่อป่วยไข้แล้วจะดำเนินชีวิตอย่างไร ไปได้ถึงจุดของความพอเพียง ...อย่างนี้น่ะค่ะ แม้เปลี่ยนมาเป็นยาเส้น ผลที่ได้ไม่ต่างกัน...อยากบอกชาวนาอย่างนี้น่ะค่ะว่า ชาวนาคะ ขอบคุณมากนะคะที่ให้ข้าวกิน อย่าสูบเลยนะคะ ทั้งบุหรี่หรือยาเส้นก็ตาม ...

พ่อเป็นชาวนาโดยกำเนิด หรือเกิดเป็นลูกชาวนานั่นเอง

เราก็เป็นหลานชาวนา แต่ทำนาไม่เป็น อายพ่อจัง

ทั้งๆที่พ่อก็พยายามจะสอน แต่ตอนนี้ถึงจะไม่มีพ่อสอนแล้ว

อีกไม่นานลูกคงจะตามรอยพ่อ คือเป็นเกษตรกร

อย่างแน่นอนค่ะ

ถ้าให้ตอบจากใจจริงๆนะ..แก้ว..

นึกถึงชาวนานึกถึงอะไร..นึกถึงกระดูกสันหลังผุๆ แม้จะมีหน้าที่ผ่อนพยุงร่างกายให้ตั้งตรง แต่กระดูกสันหลังผุๆนี้แทบจะไม่สามารถสนองตอบหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ได้..เพราะถูกเอารัดเอาเปรียบ..ไร้สิทธิไร้เสียง..มีแต่คนมาตักตวงผลประโยชน์จากความไม่รู้..จากความไม่เท่าทัน..หลอกใช้ความสัตย์ซื่อ ความจริงใจ ความศรัทธามาสร้างปราการผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้กับความมั่งคั่งและเกียรติยศชื่อเสียงของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์

ผมไม่ค่อยเห็นภาพ..ชาวไร่ชาวนายิ้มแย้ม..ภาพที่เห็นส่วนใหญ่เป็นภาพของความเครียด ความกลัดกลุ้ม ทั้งจากเรื่อง..น้ำท่วม..แมลงลุย..ปุ๋ยแพง..แล้งฝน ต้องทุกข์ทนกับหนี้สินทั้งชาติ..มองนาปีมีแต่หนี้กับซัง..มองนาปรังมีแต่ซังกับหนี้..ชีวิตชาวนาวนเวียนอยู่อย่างเนี่ย..

(ขอโทษนะ..ที่มองแบบร้ายไปหน่อย..ผมยืนยันว่านึกถึงชาวนา..ผมนึกถึงอย่างนี้จริงๆ

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

นึกถึงชาวนาเจ้ก็นึกถึงควาย  (จิง ๆ นะ ) เมื่อก่อนชาวนาทำนาไม่เห็นต้องลงทุนมากมายเหมือนสมัยนี้ จะลงทุนก็แต่แรงงานในการเดินตามหลังควายมีอถือคันไถ หน้าเก็บเกี่ยวก็ลงแขกไหว้วานกัน สมัยนี้ไม่ค่อยเห็นบรรยายกาศแบบนี้แล้ว

     ถ้าพูดถึงชาวนาเราก็จะนึกถึง "ข้าว" เพราะสมัยก่อนชาวนาจะปลูกข้าวเพียงอย่างเดียว จะทำนาข้าวเพียงอย่างเดียว หรือจะบอกว่าผูกขาดหน้าที่ปลูกข้าวไว้แต่เพียงผู้เดียวก็ว่าได้

     และสิ่งที่แม่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ..เมื่อใดที่กินข้าวไม่หมดจานบ้าง กินข้าวทิ้งๆขว้างๆบ้าง แม่ก็มักจะพูดว่า "สงสารชาวนาเขาบ้าง..กว่าจะได้ข้าวมาให้เรากินแต่ละเม็ด  ชาวนาต้องเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน??" จนทุกวันนี้...อูจะกินข้าวหมดจานทุกเม็ดมาโดยตลอดเลย

MSN/MAIL/HI5 : Tongau_oomsin[at]hotmail[dot]com

นึกถึง...

ถ้าตอน  หว่านข้าว(นาหว่าน)  ก็นึกถึง  เลนตม  แบบว่ายกเท้าไม่ขึ้น  ติดหนึบๆ    

ถ้าตอนถอนกล้า  ก็นึกถึงตอนเอากล้าฟัดกับเท้า  เอาดินออก  แต่ดินขึ้นหัว  บางทีเข้าตา

ถ้าตอนดำนา  ก็นึกถึงปลิง   กลัวมากๆ  โดนเกาะ  ก็วิ่งไปร้องไป  หัวคันนาเตียนเลย  หลุดตอนไหนก็ไม่รู้

 ถ้าตอนเกี่ยวข้าว   ก็นึกถึง  เอาซังมาทำปี่  เป่ากันจนแก้มป่อง   แล้วก็นอน  บนซัง ใต้ต้นข่อย  สบาย

นึกถึงกองฟาง นึกถึงดอกชบาที่ทัดหูทองกวาว นึำกถึงสีสันของเสื้อผ้า แล้วก็เพลง....เอ่อระเหยลอยมา...ลอยมา...แล้วก็ลอยไป..........

เดี๋ยวถ้านึกออกอีกจะเข้ามาเขียนต่อนะจ๊ะ....คุณแก้ว..Tongue out

เวลาพบกันสั้นนิดเดียว

หน้า