ปริญญาวิชาชีพกับปริญญาชีวิต
ปริญญาใบที่หนึ่ง
"ปริญญาวิชาชีพ"
เราจะต้องทำมาหากินเป็น
กินอิ่ม นอนอุ่น พูดง่าย ๆ
ล้วงไปในกระเป๋าแล้วมีเงินใช้
อยากจะนอนมีบ้านเป็นของตัวเอง
แค่นี้คือปริญญาวิชาชีพ
แต่"ปริญญาวิชาชีวิต"
ซึ่งเป็นปริญญาใบที่สองที่พ่อแกบอกไว้
แกบอกว่าผมสอบตกโดยสิ้นเชิง
ผมเป็นดอกเตอร์จากอเมริกาได้ปริญญาวิชาชีพ
แต่ปริญญาวิชาชีวิตสอบตก
เพราะอะไร
เพราะทำงานจนป่วยตาย
หลังจากที่ผมทำงานได้สัก 4-5ปี ผมได้รับโอกาสดีครั้งสำคัญของชีวิตที่ได้พบกับบุคคลที่เป็นผู้ที่บัดนี้ผมถือเป็นแบบอย่างในการดำเนินขีวิตและแนวคิด ท่านมีความชาญฉลาดทั้งยังมีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตที่เรียบง่ายอย่างยิ่ง ท่านผู้นั้นคือ แม่ของภรรยาผมเอง (ขอบคุณแม่เปรี้ยวที่อำนวนโอกาสนี้ให้) หลังจากได้มีโอกาสเจอท่านและเริ่มได้พูดคุยกันมากขึ้น ผมคิดกับต้วเองว่าเป็นโอกาสที่ดีมากของชีวิตที่ได้เจอท่าน ทำให้สามารถย่นระยะเวลาทางความคิดที่จะต้องใช้ชีวิตเพื่อที่จะให้ได้มาซึ่งประสบการณ์ก่อนจะตกผลึกเป็นความคิดเช่นนี้
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ความคิดเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตกำลังปั่นป่วน เนื่องจากแนวความคิดเดิมกับรูปแบบความคิดแบบใหม่ที่กำลังพัฒนาตัวขึ้นมาและมีทีท่าว่าจะมีอิทธิพลครอบงำมากขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากนั้นผมได้อ่านบทความจากหนังสือเล่มหนึ่ง บทความนั้นวันนี้ได้ค้นหานำมาฝากกันที่นี่ แม้ว่าจะไม่ใช่เนื้อต้นฉบับ แต่เนี้อใหญ่ใจความก็ยังเหมือนเดิม
http://www.thai-ireland.com/documentnew/certlife.pdf
ผมยังคิดกลับไปอีกว่า ทำไมการศึกษาของเราไม่เคยบอกเรื่องนี้ ๆ กับผู้เรียนสักนิด พาให้นึกถึงคำของท่านพุทธทาสที่เคยกล่าวถึงการศึกษาของไทยว่า เหมือนกับ หมาหางด้วน ความลึกซื้งของคำกล่าวของท่าน คงไม่อาจเข้าถึงได้ทั้งหมด กระนั้นแม้แต่เพียงน้อยที่เราซึบซาบมาได้ ก็ทำให้หูตาเราสว่างขึ้นมาได้บ้างตามที่ท่านได้ให้แสงส่องชี้ให้เห็นทาง
วันนั้นทำให้ผมมานั่งคิดว่า
อะไรสำคัญสำหรับชีวิต และเราควรจะต้องรู้อะไร ทำอะไรบ้างต่อไป
- บล็อกของ happyfarmer
- อ่าน 7432 ครั้ง
ความเห็น
happyfarmer
16 กันยายน, 2010 - 02:04
Permalink
ยินดีครับ วันนี้น้องตองอู
ยินดีครับ วันนี้น้องตองอู ขวาหัน เอ๊ยหันขวาครับ
เป้าหมายสูงสุดของเกษตรกรรม ไม่ใช่การเพาะปลูกพืชผล แต่คือการบ่มเพาะ ความสมบูรณ์แห่งความเป็นมนุษย์.... มาโซโนบุ ฟูกูโอกะ
bnakorn
15 กันยายน, 2010 - 12:20
Permalink
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
happyfarmer
16 กันยายน, 2010 - 02:01
Permalink
ยินดี ๆ ครับ
ยินดี ๆ ครับ เป็นสังคมย่อมเกิดการแบ่งปันครับ
เป้าหมายสูงสุดของเกษตรกรรม ไม่ใช่การเพาะปลูกพืชผล แต่คือการบ่มเพาะ ความสมบูรณ์แห่งความเป็นมนุษย์.... มาโซโนบุ ฟูกูโอกะ
มานี มานะ วีระ ชูใจ
15 กันยายน, 2010 - 14:04
Permalink
ต้องทบทวน
ผมคงต้องมานั่งทบทวนอีกครั้ง...
ที่นี่เหมือนมีครูนะ...ผมรู้สึกอย่างนั้น...
เรื่อยๆหนุกๆแต่..ซึมซับแบบไม่รู้ตัว...
ความหลากหลายไม่ได้ทำให้งุนงง...
แต่เป็นโอกาสของทางเลือกที่สวยงาม...
ขอบตุณครับ...
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
happyfarmer
16 กันยายน, 2010 - 01:59
Permalink
เช่นกันครับ
เช่นกันครับ ผมว่าที่นี่ดูเป็นชุมชนดี อบอุ่น จริงใจ
เป้าหมายสูงสุดของเกษตรกรรม ไม่ใช่การเพาะปลูกพืชผล แต่คือการบ่มเพาะ ความสมบูรณ์แห่งความเป็นมนุษย์.... มาโซโนบุ ฟูกูโอกะ
ตั้ม
15 กันยายน, 2010 - 14:50
Permalink
ชีวิตที่แบ่งส่วน
อ่านเรื่องนี้ของท่าน ว. แล้วคิดถึงตอนที่นั่งบนยอดภูดูตะวันตกดิน (เขาค้อ) สมัยกำลังจะจบ ป.ตรี นั่งคุยกะเพื่อนซี้คนนึง..คุยกันเรื่องราวของวันข้างหน้า..ที่ยังไม่รู้ว่าจะออกหัวหรือก้อย..ผมบอกว่า..ผมจะวางแผนที่จะแบ่งชีวิตเป็นสามช่วงแห่งสาม ส. คือ..แสวงหา..สะสม..และสนองตอบ
ช่วง 25 ปีแรก (ตั้งแต่เกิด)..ผมจะเรียกมันว่าช่วงแสวงหา ก็คือการสั่งสมความรู้ ประสบการณ์ชีวิต ลองผิดลองถูก..หากมองในเชิงเศรษฐศาสตร์ ช่วงนี้คือช่วงของการลงทุน..หากมองในเชิงกสิกรรมช่วงนี้คือการเพาะกล้า..จะยังไง..เรียนต่อโท..หรือไม่เรียน..ยังไงก็ขอให้อยู่ในช่วงนี้..เป็นช่วงแห่งการใช้จ่ายที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีรายได้ตอบแทน..
ช่วงที่สอง 25 ปีถัดมา..ถือเป็นช่วงสะสม..ช่วงนี้ทำงาน.สร้างครอบครัว..เก็บเงิน..ไม่สนว่างานจะหนักหรือจะลำบากอย่างไร..มีธงและมีเป้าอยู่..ต้องทำให้ได้..ยามที่อ่อนล้า..ก็บอกกับตัวเองว่ายังไปไม่ถึงยอดเขา..จะปีนลงหรือกลิ้งลงไม่ได้เด็ดขาด..ทำงานพร้อมกับดูแลตัวเอง คนรอบข้าง เพื่อข้ามให้พ้นช่วงที่กำหนด..ช่วงนี้คือช่วงที่มีทั้งจ่ายและรับแต่ต้องให้รับมากกว่าจ่ายเพื่อการออมระยะยาว
ช่วงสุดท้ายอีก 25 ปี (ถ้าอยู่ถึง 75) ผมตั้งเป้าว่าจะหยุดทำงานและให้รางวัลกับชีวิตที่ผมเรียกว่าสนองตอบความต้องการที่สุดของชีวิต ใครจะเกษียน 60 ผมไม่สน..ผมขอแค่ 50 นี้..แต่ว่าต้องมีเงินเก็บตามเป้า เป็นเงินเก็บที่ไม่ต้องเอาออกมาใช้แต่อาศัยดอกผลของมันมาเป็นค่าใช้จ่ายยามเกษียน..
เกือบไม่ได้ตามแผนที่วางไว้..เพราะวิกฤติปี 40 แต่ในวิกฤติกลับมอบโอกาสที่สามารถร่นระยะเวลาให้กับชีวิตได้ วันนี้เป็นช่วงที่สามของชีวิตที่ก้าวข้ามเลขห้า..สามารถทำได้มากกว่าแผนที่วางไว้..ไม่ใช่เพราะเก่ง..แต่เพราะใช้เงินเป็น หาช่องทางได้ และโชคอำนวย..ที่เหลือต่อจากนี้ก็คือรางวัลของชีวิต..แต่ก็ยังคงประมาทไม่ได้..ถ้าโชคดียังมีต่อ..ผมคงไปถึงเลข 75 อย่างสมบูรณ์ของสังขารตามที่หวังไว้..(แต่แม้ไม่ถึงก็ถือได้ว่าคุ้มแล้ว..มาถึงยอดเขา..ชื่นชมกับภูมิทัศน์และอากาศที่เย็นสบาย สัมผัสกับความยินดีในการย่างเหยียบของยอดขุนเขา อีกสักพักก็จะลงดอยได้อย่างสบายใจไร้กังวล)
หันหลับมามองคนรอบข้าง..คนแรกคือเพื่อนที่คุยกันบนยอดเขาค้อ..ตอนนี้เป็นนักธุรกิจที่ยังคงดำเนินธุรกิจส่วนตัวหลายร้อยล้าน..มากกว่าผมเยอะ..แต่ยังคงเหนื่อยหอบกับการขี่หลังเสือ..เขาสัญญากับผมว่าไม่เกินอีก 5 ปี..เขาจะลงจากหลังเสือให้ได้..พร้อมท่องเที่ยวหรือจะไปปลีกวิเวกกับผมตามที่ฝันกันไว้..ผมก็ได้แต่ภาวนาว่า..ความฝันเขาน่าจะเป็นจริงและใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยสุขภาพที่ไม่สร้างปัญหาให้กับตัวเค้า..
ย้อนกลับไปที่ ดร.อภิวัฒน์ คนนี้นับเป็นคนเก่งที่น่าเสียดาย..ยังไม่ทันได้เก็บเกี่ยวกับผลผลิตที่อุตส่าห์หว่านกล้าไว้..อีกทั้งยังไม่สามารถอยู่ดูแลคนรอบข้างได้ทั้งๆที่มีศักยภาพสูงส่ง..
นั่นสิ..ปริญญาวิชาชีพ..บางครั้ง.ก็ไม่ได้สนองตอบคำตอบของชีวิต..ได้เท่ากับ..ปริญญาชีวิต..
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
happyfarmer
16 กันยายน, 2010 - 01:56
Permalink
พูดถึงบนเขาคู้เมื่อ 25
พูดถึงบนเขาค้อเมื่อ 25 ปีที่แล้ว พี่แค่ 25 แต่คิดอะไรได้ขนาดนั้น ย่อมไม่ธรรมดา ยิ่งไม่ธรรมดา ที่สามารถทำได้ และโชคดียิ่งที่พี่ยังสามารถดำรงชีวิตอยู่ในช่วงที่ 3 ของตัวเองได้ การวางแผนชีวิตของพี่ คล้าย ๆ กับของ ดร เทรูโอะ ฮิหงะ เขาเป็นใครก็คงไม่สำคัญนักในที่นี้ แต่นับว่าเวปเราโชคดีมาก ที่มีผู้มีประสบการณ์ล่วงหน้าที่มีปัญญาเลิศล้ำหลาย ๆ ท่าน คอยชี้แนะน้องๆ หลาน ๆ ที่เดินตามกันไปในทางสายชีวิตครับ
เป้าหมายสูงสุดของเกษตรกรรม ไม่ใช่การเพาะปลูกพืชผล แต่คือการบ่มเพาะ ความสมบูรณ์แห่งความเป็นมนุษย์.... มาโซโนบุ ฟูกูโอกะ
ann
1 ตุลาคม, 2010 - 20:35
Permalink
ขอบคุณเรื่องราว ดี ๆ
ขอบคุณเรื่องราว ดี ๆ ค่ะ
ปริญญาวิชาชีพ กับ ปริญญาชีวิต..เรียนรู้กันต่อไป
....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....
ป้าเล็ก..อุบล
1 ตุลาคม, 2010 - 22:33
Permalink
ขอบคุณ
ข้อมูลนี้ ตรงกับใจ ที่กำลังจะทำ แต่ทำยังไม่ได้ ก็อันไหนหนัก ก็ถอยแล้ว แต่ก็เป็นคนที่ลุยงานเต็มที่ ตอนนี้ก้าวออก 50 % ตั้งแต่มาเจอบ้านสวน อันนี้ สารภาพเลย บ้านสวน ทำให้ มองเห็นชีวิต กำลังเตรียมตัว ทุกด้าน ให้พร้อม ที่จะอยู่ให้มีความสุข ทุกวันนี้ ชีวิต การงาน ยังยุ่งมากมาย แทบไม่มีวันหยุด
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
หน้า