ข้าวเหม่าพาชม

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ข้าวเหม่า (หมาชรา ตามที่สัตวแพทย์ท่านเรียก) เป็นลูกสาวของแม่แหม่มค่ะ บ้านเรามี 2 คน และหมา 1 ตัว แม่แหม่มของหนูเป็นคนตีนดอยจังหวัดพะเยา ใช้ชีวิตตามกระแสสังคมแปะ ออกจากบ้านมาเรียนมหาวิทยาลัยในเชียงใหม่ เรียนจบก็เข้ามาหางานทำที่กรุงเทพฯ ด้วยกระเป๋าเสื้อผ้า 1 ใบ กับตุ๊กตาหมีเก่า ๆ 1 ตัว บอกกับตัวเองว่า ต้องหางานทำ ได้งาน ทำงาน พรมลิขิตขีดเขี่ยให้มาเจอกับคนรัก ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน ชีวิตคู่เริ่มต้นด้วยติดลบ ไม่มีเงิน ไม่มีบ้าน ฟันผ่า อดทน ขยัน อดออม รักกัน ทะเลาะกัน  10 ปี ผ่านไป มีบ้าน มีรถ มีอาชีพการงานที่พอจะดูแลครอบครัวเล็กๆ ของเราได้ รวมหนูด้วยค่ะ แต่ชีวิตในเมือง หัวใจมันแห้งเหลือเกิน โหยหาความเอื้ออาทร จริงใจ ตรงไปตรงมา พูดจาห้วน ๆ  ตามแบบชีวิตในชนบทที่ได้ละทิ้งมานาน สิ่งที่ทำแล้วพอจะช่วยให้หายคิดถึงชีวิตเดิม ๆ นั้นได้คือการได้ปลูกผัก ให้มือได้เลอะดิน ให้เท้าได้สัมผัสดินบ้าง นั้นคือสิ่งเล็ก ๆ อีกอย่างที่เรียกว่าความสุข ในบ้านหลังเล็ก ๆ นี้ค่ะ เป็นความในใจของแม่แหม่มล้วน ๆ ค่ะ


ข้าวเหม่าค่ะ ถึงจะบึกบึนแต่หนูเป็นผู้หญิงนะค่ะ


ผักสวนครัวบ้านเราค่ะ



ความเห็น

มีผักหลายอย่างนะคะ Laughing

เป็นกำลังใจให้คับ สู้ สู้ Sealed


ใจเป็นประธานคับ


ใจสู้เสียอย่าง ทุกอย่างก็ง่ายคับ

NONT..

หากแม่แหม่มพาข้าวเหม่าไปอยู่เสียที่ชนบท..ข้าวเหม่าคงได้เดินท่องไปทั่วหมู่บ้าน..แล้วก็มีแต่คนที่รู้จักรู้ใจ..เรียกชื่อ..ลูบหัวให้อาหาร..แต่นี่มันเมืองกรุง..ที่เขาว่าศิวิไลซ์..ข้าวเหม่าเลยได้แต่ขังตัวเองอยู่แต่ในบ้าน..หากหลุดออกมาคงอาจโดนจับ..โดนรถชน..โดนตี..โดนระแวงว่าจะทำร้ายคนอื่น..ข้าวเหม่าอยู่เมืองกรุงก็ได้แต่แหงนมองตึกสูงในกรอบที่กำหนด..ความรู้สึกของข้าวเหม่าก็ไม่ได้ดูดีกว่าแม่แหม่มเท่าไรนัก..แต่ยังโชคดีอยู่บ้างที่พอมีที่และมีพื้นดินให้ย่ำเดิน..

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

คุณตั้มพูดเหมือนตาเห็นเลยค่ะ เป็นอย่างนั้นจริง ๆ


 


คุณชัยค่ะ ที่เห็นเป็นไม้เลื้อยนั่นคือถั่วพูค่ะ แต่บ้าใบเหลือเกิน


 

แบบนี้หัวใจพอเพียงกำลังติดปีกแล้ว


เห็นผักงามงามแล้วชื่นใจค่ะ

ผักสวยจังค่ะ ต้องลอกค่ะ

#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#

หน้า