ส่งการบ้านลุงพูนค่ะ

หมวดหมู่ของบล็อก: 

วันนี้หนุมาส่งการบ้านลุงพูนดึกไปหน่อยนะคะ  มะพร้าวที่คั้นมาจากตลาดแล้ว เวลาคั้นเค้าใส่น้ำลงไปคั้นด้วยค่ะ แต่ก็กำชับแม่ค้าอยู่ว่าให้ใส่น้ำน้อยๆๆค่ะ  หนุฝากแม่ค้าซื้อมาจากตลาด 3 กิโลค่ะ  ซื้อมาเช้าวันศุกร์ค่ะ แต่โชคไม่ค่อยดีที่วันศุกร์ที่ๆหนุอยู่อากาศไม่ร้อน และท้องฟ้าออกจะครึ้มๆนิดหน่อยแต่ เลยทำให้ไม่มีแดด ( ตรงคอนโดที่หนูพักอยุ่นะคะ )  พอเย็นๆๆฝนก็ตกอีก แวะไปสังเกตุการณ์ แอบตกใจนิดหน่อยค่ะ เห็นถุงมะพร้าวบวมๆๆ ก็เลยถามลุงพูนลุงพี สรุปว่า ลุงพูนบอกว่า ถุงเค้ามีการขยายตัวของเค้าได้ แต่ก็แนะนำว่าถ้ากลัวถุงจะระเบิดก็ให้เปิดปากถุงไล่ก๊าซในถุงออก(เรียกก๊าซถูกรึเปล่าไม่ค่อยแน่ใจค่ะ Innocent) แล้วก็นำไปเข้าตู้เย็นค่ะ   ตอนเช้าก็ค่อยตักส่วนที่แยกระหว่างชั้นของน้ำเปรี๊ยวกับข้างบนออก แล้วตั้งทิ้งไว้ข้างนอกเพื่อให้ชั้นบนเกิดการแยกตัวของน้ำมันค่ะ แต่แคทไม่ได้เอาเข้าตู้เย็นเพราะตู้เย็นมีของเต็มตู้ค่ะ Sealed  เลยไว้ข้างนอกแทนซึ่งลุงพุนก็บอกว่าไว้ข้างนอกก็ได้ ไม่เป็นไรค่ะ สวนลุงพีบอกว่ามะพร้าวที่ซื้อมาจากตลาดอาจจะไม่สะอาดเท่าที่ควรเลยเกิดการบวมของถุงค่ะ  วันที่2ในเช้าวันเสาร์ก็อากาศดีทั้งวันไม่ร้อน+ฝนตกอีก เห้อๆๆ เหมือนฟ้าแกล้งกันค่ะ ลองทำครั้งแรกอากาศไม่เป็นใจเอาซะเลย Tongue out วันที่ 2 เริ่มเห็นการแยกชั้นของน้ำมะพร้าวเป็น3ชั้นบ้างแล้วค่ะ เริ่มเห็นน้ำมันใสๆๆบ้างเล็กน้อย อืมบอกตัวเองเดี๋ยวกลางคืนค่อยมาดุอีกทีค่ะ น่าจะมีการแยกชั้นของน้ำมันมากขึ้น พอกลางคืนค่อนข้างดึก(มากค่ะ)  เจาะน้ำเปรี้ยวออกจากถุงแล้วแยกเก็บไว้ค่ะ ใส่ขวดโหล แบ่งเป็น 2 ขวด คือ น้ำเปรี๊ยวกับส่วนบนที่เค้าแยกชั้นกันค่ะ น้ำมันก็ยังแยกตัวให้เห็นชั้นใสๆๆได้น้อยอยู่ ยังค่ะยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เก็บไว้อีกวันดีกว่า Laughing  เข้าวันที่3ค่ะ วันอาทิตย์ตอนบ่าย เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงให้เห็นมากขึ้นค่ะมีการแยกชั้นในส่วนของน้ำมันใสๆๆเยอะกว่าเมื่อวาน เพราะวันนี้อากาศค่อนข้างจะมีแดดนิดหน่อยค่ะ เดี๋ยวรอเย็นๆๆค่อยแยกน้ำมันส่วนที่ใสออกค่ะ ประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง แคทเริ่มปฎิบัติการทำการบ้านเพื่อที่จะได้มาส่งลุงพูนค่ะ ประมาณว่าออกจะงกไปนิดตักส่วนที่เป็นไขข้นๆๆระหว่างน้ำมันติดมาบ้างเลยทำให้น้ำมันส่วนที่ใสได้ไม่ใสอย่างที่เห็นตอนแรกค่ะ ตักกรองบนผ้าขาวบางที่ทบกัน 4 ชั้นค่ะ แต่ก็ยังออกขุ่นๆนิดหน่อย ยังไม่ใสเท่ากับการบ้านของลุงพีที่ทำส่งลุงพูนค่ะ คิดว่าพรุ่งนี้ของแคทคงจะใสกว่านี้ค่ะ แล้วค่อยทำการกรองอีกครั้ง แคทจะได้เอาไปใส่ขวดโหลสวยๆๆที่ซื้อมาวันนี้ และก็จะนำไปนึ่งเพื่อไล่น้ำที่อาจจะยังมีปะปนในน้ำมันอยู่บ้างค่ะ พรุ่งนี้ใส่ขวดโหลสวยๆๆแล้วจะนำมาโชว์อีกครั้งนะคะ วันนี้เอามาให้ดูบ้างบางส่วนก่อนค่ะ เป็นการบ้านที่ตั้งใจมาส่งลุงพูนค่ะ (อ้อ น้ำเปรี้ยวของมะพร้าวในขวดโหลฝาดำแคทตั้งใจจะเอาไปทำน้ำหมักมะพร้าวค่ะ ส่วนอีกโหล ในขวดกาแฟฝาเหลีองที่ดูข้นๆๆ คือส่วนที่เเกิดการแยกตัวระหว่างชั้นของน้ำมันส่วนใสค่ะ  แคทตั้งใจว่าจะเอาไปเคี่ยวเพื่อทำน้ำมันมะพร้าวแบบสกัดร้อนค่ะ (พอดีได้ไปอ่านเจอที่เว็บเพื่อนบ้านเค้าบอกว่านำมาสกัดร้อนได้ค่ะก็เลยว่าจะลองทำดูสักหน่อยค่ะเพราะไม่รุ้จะเอาไปทำอะไรดี เพราะถ้าเอาไปทำสบู่คงยากเกินไปสำหรับแคทเพราะอุปกรณ์ในการทำสบู่ไม่มีเลยค่ะ  แต่ถ้าใครมีวิธีที่จะเอาไปทำอย่างอื่นได้อีกช่วยแนะนำด้วยนะคะ แคทตั้งใจว่าพรุ่งนี้ค่อยทำค่ะ น่าจะเป็นตอนเย็นๆ เพราะคืนนี้ดึกมากแล้วค่ะ Smile



รูปข้างบนนี้ คือน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่กรองแล้วได้แค่นี้ค่ะ มะพร้าวที่คั้นแล้วจากตลาด 3 โล แคททำได้แค่ 300 มิลลิลิตรเองค่ะ และยังไม่ใสเท่าที่ควรค่ะ อันนี้ต้องขอความรู้เพิ่มเติมจากลุงพูนค่ะ 



ส่วนรุปที่2 นี้ แคทขอเรียกว่า  3 พี่น้องละกันค่ะ เพราะคือส่วนที่แยกออกมาจากมะพร้าวที่คั้นแล้วในถุงเดียวกันค่ะ ขวดที่ 1 ที่มีทรวดทรงองค์เอวนั้นได้มาจากการเกิดแยกชั้นของระหว่างน้ำมันสกัดเย็นตรงกลางค่ะ ตรงกลางคือผลงานที่ได้ค่ะ  ส่วนอีกขวดที่เห็นเยอะกว่าเพื่อนคือน้ำเปรี้ยวที่เจาะแยกออกมาจากถุงค่ะ


ลุงพูนช่วยตรวจการบ้านให้หนูด้วยนะคะ ว่าใช้ได้มั้ยคะ?   Yell

ความเห็น

รายงานเพิ่มเติมค่ะ วันนี้ที่ขวดฝาสีเหลืองเค้ามีน้ำมันใสๆๆแยกชั้นอีกค่ะ แต่ก็ไม่เยอะเท่าไหร่


ความจนมีอย่างน้อยสามแบบ
(๑) จนเพราะไม่มี (จนวัตถุเงินทอง)
(๒) จนเพราะไม่พอ (มีวัตถุเงินทองแต่ไม่รู้จักพอ)
(๓) จนเพราะไม่เท่า (มีทุกอย่างแต่ยังเปรียบเทียบกับคนอื่นที่ มีเหนือกว่า)

ระหว่างที่รอคอยท่านอาจารย์พูนมาตรวจการบ้าน ผมขออนุญาติเป็นคอมเม้นเตเตอร์ไปก่อนนะครับ


ก่อนอื่นเลยผมต้องขอชมว่าหนูแคทมีพรสวรรค์และเส้นเสียงที่ดีมาก ผมคิดว่าหนูจะต้องมีอนาคตที่ยาวไกลแน่ๆ........... อ้าวไม่ใช่ไม่ใช่ AF9 นี่นา   


งั้นเปลี่ยนเป็นชมว่าหนูแคทมีความตั้งใจสูงมาก และทำการบ้านจนเป็นผลสำเร็จ และที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งแบบผมต้องขอคาราวะ คือส่งการบ้านแบบนักวิทยาศาสตร์ โดยการรายงานผลการทดลองที่แท้จริงเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติ เปิดประเด็นเพื่อศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเมื่อปรากฏผลการทดลองต่างไปจากทางทฤษฎี


 จากผลการทดลองของหนูแคท และคำถามจากพ่อค้ากะทิคั้นสดที่ยังคงดังก้องอยู่ในโสตประสาท ทำให้ผมตั้งใจที่จะทำการทดลองและก็หาความรู้เพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ทไปด้วย และได้ไปเจอเอกสารงานวิจัยเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันมะพร้าวเข้าชิ้นหนึ่งจึงถึงบางอ้อ ว่าปัจจัยที่เป็นตัวแปรที่ทำให้มีน้ำมันน้อยคงเกิดจากที่ ขบวนการหมักแบบธรรมชาตินี้ต้องการอุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 35-40 องศา และความชื้นไม่เกิน 75% ชึ่งในวันที่ทำหนูแคทบอกว่าอากาศเย็นและฝนตก


ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดฟองขึ้นมาคือ ความสะอาดของการคั้นกระทิและอุปกรณ์พร้อมภาชนะ นอกจากแบคทีเรียและยีสต์จากสภาพแวดล้อม ตัวการที่ยับยั้งขบวนการหมักแบบธรรมชาติก็คือ สารตกค้างจากการชำระล้างภาชนะด้วยผงซักฟอกก็เป็นได้ (เวลาผมทำไวน์ จะล้างภาชนะด้วยน้ำสะอาดโดยใช้น้ำยาซักล้างน้อยที่สุดและต้องมั่นใจว่าล้างออกหมดจริงๆ) ส่วนครีมที่อยู่ในขวดทางซ้ายมือหนูแคทสามารถนำไปแยกน้ำมันด้วยความร้อนได้ครับ น้ำมันที่ได้ไม่ควรนำมาบริโภค แต่สามารถใช้ประโยชน์เป็นเครื่องสำอางค์ประทินผิวได้ครับ

พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง

ค่ะ ลุงพี พอได้อ่านคอมเม้นของลุงพี เลยนึกขึ้นได้ค่ะ ว่าผ้าขาวบางที่แคทใช้แคทจะใช้น้ำยาสำหรับซักผ้าแบบเหลวทุกครั้งค่ะ ส่วนเรื่องของน้ำยาล้างจานแคทคิดว่าปลอดภัยพอสมควรค่ะ เพราะเป็นน้ำยาล้างจานของแอมเวย์ที่ฝากเพื่อนซื้อค่ะ น้ำยาล้างจานตัวนี้ค่อนข้างปลอดภัยอยู่บ้างพอสมควรค่ะ เพราะสามารถแช่สารพิษที่ตกค้างจากผักและผลไม้ได้ค่ะ ส่วนน้ำมะพร้าวที่ซื้อมาแคทคิดว่าน่าจะไม่สะอาดพอค่ะ เพราะไม่ได้ไปซื้อที่ตลาดเองเลยไม่เห็นว่าสะอาดมากน้อยแค่ไหนค่ะ แม่ค้าน่าจะซื้อมาจากตลาดคลองเตยค่ะ แคทว่าครั้งหน้าแคทจะออกไปซื้อเองดีกว่าค่ะ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปซื้อที่ตลาดตอนเช้าของห้วยขวางน่าจะสะอาดกว่านี้ค่ะ เพราะตลาดคลองเตยเค้าเริ่มขายกันตั้งตี 1 มั้ง แคทไม่แน่ใจค่ะ (แคทเคยไปตอนเกือบๆตี 2 กับพี่ๆที่พักเก่าค่ะ แต่นานมากแล้วค่ะ ) ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะลุงพี เห็นทีน้ำมันมะพร้าวขวดนี้คงได้เอาไว้ใช้ทาผิวหมักผมเท่านั้น

ความจนมีอย่างน้อยสามแบบ
(๑) จนเพราะไม่มี (จนวัตถุเงินทอง)
(๒) จนเพราะไม่พอ (มีวัตถุเงินทองแต่ไม่รู้จักพอ)
(๓) จนเพราะไม่เท่า (มีทุกอย่างแต่ยังเปรียบเทียบกับคนอื่นที่ มีเหนือกว่า)

เรื่องความปลอดภัยของน้ำยาล้างจาน ลุงหมายถึงล้างน้ำยาออกไม่หมดน่ะครับ ลุงต้องล้างถังหมักไวน์ด้วยน้ำเปล่าสี่ห้าครั้ง เพื่อให้หมดคราบน้ำยาจริงๆ เพราะมีผลในการยับยั้งขบวนการหมักจริงๆ เคยทำแล้วยีสต์ไม่ทำงาน ใส่ยีสต์เพิ่มก็ได้ออกมาไม่ดี ถังนั้นเลยต้องทิ้ง


ส่วนการซื้อกะทิคั้นสดนั้น ไม่จำเป็นต้องไปแต่เช้ามืดหรอกครับ หาดูร้านที่เค้าขูดสดๆ คั้นกะทิสดๆตอนลูกค้าไปสั่งก็พอ เรื่องใส่น้ำลุงว่าไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ แต่ก็ตัดประเด็นเรื่องสิ่งปนเปื้อนในน้ำไปได้ส่วนหนึ่ง

พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง

ไปเที่ยวตรังสองคืนแล้วไปหาดใหญ่ เพิ่งกลับมาถึงสวน เปิดบ้านสวนฯเข้ามาดู ก็พบการบ้าน นักเรียนเอามาส่ง เลยต้องรีบตรวจ

ขอบคุณลุงพี และคนอื่นๆที่มาช่วย share ประสบการณ์

ถึงแม้ว่าผมเคยทำน้ำมันแบบนี้มาเกือบ 10 ปี หลังจากที่ได้เรียนรู้มาจาก อ.คมสัน หุตแพทย์ ก็กลับมาลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ วิธีการของผมก็ยังใช้การหมักตามธรรมชาติ ในขณะที่ความก้าวหน้าในการทำน้ำมันขยายตัวไปมาก โดยเฉพาะกรรมวิธีการผลิต ดังนั้น คำอธิบายของผมจึงอยู่บนพื้นฐานของการหมัก

การแยกออกมาของน้ำมันมะพร้าวจากกะทิ โดยวิธีการนี้ ต้องอาศัยจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในธรรมชาติ ซึ่งก็มีทั้งตัวดีและตัวร้าย แต่โดยทั่วไป มักจะมี ตัวดี มากกว่าตัวร้าย ปัจจัยที่สอง คือ อุณหภูมิ ปกติก็ใช้อุณหภูมิห้อง หรือใช้ความร้อนตามธรรมชาติ จากแสงแดด หลังจากได้กะทิมาแล้วตากไว้สัก 1 แดด คือตั้งแต่เช้า จนเย็น น้ำมันก็จะแยกตัวออกมาเป็นชั้นให้เห็น

เมื่อเห็นชั้นน้ำมันแล้ว หรือภายใน 1 วัน (สัก 12 ชม.ก็พอสำรับวันที่แดดจัด) ให้แยกน้ำมัน กับน้ำออกจากกัน ง่ายๆก็คือ เจาะถุง ปล่อยให้น้ำไหลออกทางด้านล่าง พอน้ำออกเกือบหมด ก็รับน้ำมัน(และกากหรือขี้มัน)ใส่ภาชนะไว้ น้ำจะเอาไปทำน้ำหมัก หรือเอาไปรดกองปุ๋ยหมักแบบของลุงพีก็ได้ครับ

น้ำมันที่แยกออกมาได้นี้อาจจะขุ่น เพราะเวลาเราบีบน้ำมันออกจากถุง เศษขี้มันจะรวมตัวกับน้ำมันอีกครั้ง ทำให้ได้น้ำมันที่ขุ่น เราต้องตั้งไว้อย่างนี้ อย่าไปรบกวนเขา อีกสักวันหรือสองวัน พอตกตะกอนในก็เอามากรอง แต่ห้ามกรองด้วยผ้าขาวบาง หรือผ้าอื่นๆ เพราะจะทำให้ผลผลิตลดลงอย่างฮวบฮาบ ลองใช้กระดาษกรองที่หาได้ง่ายๆ บางๆ ไม่ต้องรองหลายชั้น รองชั้นบางๆ แต่กรองหลายครั้ง

เรื่องตู้เย็น นี่เป็นการแยกน้ำออกจากน้ำมัน ได้ดีกว่า การตัดถุงปล่อยน้ำออก เพราะน้ำมันจะแข็งตัวเร็ว พอเปิดถุงออกมา ยกน้ำมันออกมาได้เป็นก้อนๆ แล้วมาตั้งให้น้ำมันหลอมละลาย โดยใช้ความร้อนจากธรรมชาติ

คงอธิบายได้มากพอสมควร ติดขัดประเด็นไหน ลองถามใหม่ครับ

หน้า