กระเจี๊ยบแดง มากกว่าน้ำกระเจี๊ยบ
สืบเนื่องจากได้เคยสนทนา กับพี่แจ้วเกี่ยวกับกระเจี๊ยบแดง(นานพอสมควรแล้ว) ทำให้ทราบว่าบางคนคิดว่ากระเจี๊ยบแดงนั้นสามารถทานได้เฉพาะผล ที่นำไปทำน้ำกระเจี๊ยบเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วกระเจี๊ยบแดงสามารถนำไปทานได้มากกว่าการทำน้ำกระเจี๊ยบ วันนี้เลยขอถือโอกาสนำข้อมูลเกี่ยวกับกระเจี๊ยบแดงมาฝากครับ
ข้อมูลแรกจาก เว็บไซต์ครัวพรรณไม้
ดอกกระเจี๊ยบ
|
![]() ชื่อวิทยาศาสตร์Hibiscus sabdariffa ชื่อวงศ์Malvaceae ชื่อสามัญRosella, Red Sorrel, Jamaica Sorrel ชื่อท้องถิ่นภาคเหนือเรียก ผักเก็งเค็ง ส้มเก็งเค็ง เงี้ยว แม่ฮ่องสอนเรียก ส้มปู จังหวัดตากเรียก ส้มตะแลงเครง ภาคกลางเรียก กระเจี๊ยบ กระเจี๊ยบเปรี้ยว ทั่วไปเรียก กระเจี๊ยบแดง ลักษณะทั่วไปกระเจี๊ยบแดง เป็นพืชสมุนไพรที่เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 3–6 ศอก ลำต้นและกิ่งก้านมีสีม่วงแดง ใบมีหลายแบบด้วยกัน ขอบใบเรียบ บางทีก็มีรอยหยักเว้า 3 หยัก สีของดอกเป็นสีชมพู ตรงกลางดอกมีสีเข้มมากกว่าขอบนอกของกลีบ กลีบดอกร่วงโรยไป กลีบรองดอกและกลีบเลี้ยงก็จะเจริญเติบโตขึ้นอีกเกิดเป็นสีม่วงแดงเข้มหุ้มเมล็ดเอาไว้ภายใน การปลูกใช้เมล็ดปลูก ควรปลูกในหน้าฝน พรวนดินก่อนปลูก ขุดหลุมปลูกหลุมละ 2-3 เมล็ด ระยะห่างของหลุมประมาณ ½-1 เมตร พอต้นอ่อนงอกออกมาแล้ว ให้ถอนต้นที่อ่อนแอกว่าออกไปเอาต้นที่แข็งแรงไว้ รดน้ำ ใส่ปุ๋ย พรวนดิน กำจัดวัชพืชออกให้หมด สรรพคุณทางยารสเปรี้ยวของดอกกระเจี๊ยบทำให้ชุ่มคอ ช่วยย่อยอาหาร หล่อลื่นลำไส้ นำกลีบเลี้ยงและกลีบรองมาตากแห้ง บดเป็นผงละเอียด ชงกับน้ำร้อนครั้งละ 1 ช้อนชา ดื่ม 3 เวลา เช้า กลางวันและเย็น แก้อาการขัดเบา เป็นยากัดเสมหะ นอกจากนี้ยังสามารถลดไขมันในเลือดได้อีกด้วย รายการอาหารแกงส้มกระเจี๊ยบ ยำดอกกระเจี๊ยบ น้ำกระเจี๊ยบแดง กระเจี๊ยบเชื่อม กระเจี๊ยบแช่อิ่ม แยมดอกกระเจี๊ยบ แกงส้มดอกกระเจี๊ยบเครื่องปรุง- กุ้งนาง ½ ก.ก. เครื่องปรุงน้ำพริก- พริกแห้ง 5 เม็ด วิธีทำนำมากุ้งผ่าหลังเอาเส้นดำออก นำดอกกระเจี๊ยบมาแกะกลีบหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำเครื่องน้ำพริกแกงส้มโขลกให้ละเอียด ใส่กุ้ง 2 ตัวโขลกให้เข้ากัน ใส่น้ำ 3 ถ้วยตวงในหม้อ นำน้ำพริกที่โขลกแล้วละลาย ขึ้นตั้งไฟพอเดือดใส่น้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาล ชิมให้รสเปรี้ยว เค็ม หวาน รสเปรี้ยวอ่อนๆ เพราะดอกกระเจี๊ยบมีรสเปรี้ยวอยู่แล้ว ใส่ดอกกระเจี๊ยบ ใส่กุ้งสดที่เหลือต้นจนสุก ยกลงรับประทานได้ ยำดอกกระเจี๊ยบเครื่องปรุง- กลีบดอกกระเจี๊ยบ 2 ถ้วยตวง วิธีทำใส่กุ้ง (ปอกเปลือกลวกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ) น้ำปลา มะนาว หอมหัวใหญ่ กระเทียมซอย พริกเหลือง กลีบกระเจี๊ยบ (ซอยละเอียด) ลวกพอสุก คลุกให้เข้ากัน จัดใส่จานโรยผักชี น้ำกระเจี๊ยบแดงเครื่องปรุง- ดอกกระเจี๊ยบแดงสด 1 ถ้วยตวง วิธีทำดอกกระเจี๊ยบแดงสด ล้างน้ำให้สะอาด ตัดเอาแต่รอบนอก กลีบสีแดงส่วนกลางแข็งไม่ใช้ หั่นใส่ถ้วย 1 ถ้วยตวง ใส่น้ำ 6 ถ้วยตวง ลงในหม้อ ตั้งไฟต้มให้เดือดจนกระเจี๊ยบเปื่อย จึงกรองด้วยผ้าขาวบางเอากากออกใส่น้ำตาล เกลือ ต้มแล้วจะเหลือประมาณ 5 ถ้วยตวง ตักใส่แก้ว ใส่น้ำแข็งทุบ ดื่มเป็นเครื่องดื่ม หรือแช่ตู้เย็นไว้ดื่ม ดอกกระเจี๊ยบแช่อิ่มเครื่องปรุง- ดอกกระเจี๊ยบแดงสด 20 ดอก วิธีทำนำกระเจี๊ยบแช่ในน้ำปูนใส ใส่เกลือแช่ไว้ 1 คืน แล้วนำมาแช่น้ำเปล่า 1 คืน ให้คืนความเค็มสงขึ้นจากน้ำ เคี่ยวน้ำตาลกับน้ำให้เป็นน้ำเชื่อมแล้วทิ้งไว้ให้เย็น ใส่กระเจี๊ยบลงแช่ค้างคืน สงขึ้นตากแดด แล้วนำน้ำเชื่อมไปอุ่น แล้วจึงแช่กระเจี๊ยบในน้ำเชื่อม ทำประมาณ 4 วัน จนกระเจี๊ยบใสกรอบ จึงนำมารับประทานได้ แยมดอกกระเจี๊ยบเครื่องปรุง- ดอกกระเจี๊ยบสด ½ ก.ก. วิธีทำฉีกดอกกระเจี๊ยบเป็นกลีบๆ แกะเอาเมล็ดออก นำกลีบดอกกระเจี๊ยบสดมาต้มกับน้ำ แล้วกรองเอาแต่น้ำ 2 ถ้วยตวง ผสมกับน้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง ใส่หม้อเคี่ยวจนเหนียวเป็นวุ้น ใส่ขวดที่ล้างด้วยน้ำร้อน คว่ำจนแห้ง ใส่แยมกระเจี๊ยบเก็บไว้ในตู้เย็น สำหรับทาขนมปังรับประทาน |
ข้อมูลที่สอง แกงกระเจี๊ยบ จากเว็บไซต์เพื่อการศึกษาภูมิปัญญามอญ
แกงกระเจี๊ยบ
องค์ บรรจุน
กระเจี๊ยบ
กระต๊าด
เครื่องปรุง
กระเจี๊ยบ (ใบกระเจี๊ยบแดง), กระต๊าด (กระเจี๊ยบมอญ),
ปลาย่าง กุ้งสด, พริกแห้งเม็ดใหญ่, หอม, กะปิ, เกลือ, น้ำปลา
วิธีปรุง
ย่างปลา แกะเอาแต่เนื้อ ล้างใบกระเจี๊ยบ กระต๊าด ให้สะอาด เด็ดกระเจี๊ยบเอาเฉพาะใบอ่อน หั่นกระต๊าดออกเป็นแว่นพอคำ ใส่ภาชนะเตรียมไว้
เครื่องปรุง พริกแห้ง (แช่น้ำ ทำให้โขลกง่าย) หอม กะปิ เกลือ (ปรุงรส และทำให้พริกแหลกไว) ปลาย่าง โขลกรวมกันให้ละเอียด ละลายเครื่องแกงกับน้ำพอควร ใส่หม้อตั้งไฟจนเดือดพล่าน
นำกุ้ง กระต๊าดลงหม้อ ตามด้วยใบกระเจี๊ยบ คนให้ทั่ว หากต้องการใหมีรสเปรี้ยวมาก ให้ตั้งไฟเคี่ยวนานขึ้น หรือฉีกใบกระเจี๊ยบให้ขาดก่อนลงหม้อ ปรุงรสด้วยน้ำปลาตามชอบ
- บล็อกของ witlessness
- อ่าน 21923 ครั้ง
ความเห็น
ยายอิ๊ด
22 กันยายน, 2010 - 10:45
Permalink
ขอบคุณค่ะ
ได้หลายอย่างจริงๆค่ะ..วิเศษแล้วละอย่างนี้ต้องลองค่ะ
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
witlessness
22 กันยายน, 2010 - 12:57
Permalink
ลองดู ยายอิ๊ด
ลองดูครับยายอิ๊ด เผื่อจะได้เมนูอาหารเช้าเป็นขนมปังทาแยมกระเจี้ยมเสริฟพร้อมน้ำกระเจี๊ยบครับ
lekonshore
22 กันยายน, 2010 - 10:57
Permalink
ได้หลายอย่างจริงด้วยคุณวิทย์
ได้หลายอย่างจริงด้วยคุณวิทย์
ขอบคุณค่ะทานแต่น้ำกระเจี๊ยบกับ
ทานสด ๆ
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
witlessness
22 กันยายน, 2010 - 13:10
Permalink
ด้วยความยินดีครับ
ด้วยความยินดีครับคุณเล็ก จริงๆ แล้วยังสามารถไปประยุกต์อะไรได้อีกนะครับ
9wut
22 กันยายน, 2010 - 10:58
Permalink
ว้าว
ว้าว สุดยอดเลยครับ
ดีเลยเพิ่งได้เมล็ดมา เป็นแรงกระตุ้นให้ปลูกได้เยอะเลย
วิธีลงรูปประจำตัว |การใช้งานเว็บบ้านสวน |การแทรกรูป |การแทรก VDO
witlessness
22 กันยายน, 2010 - 13:01
Permalink
ปลูกเลยครับคุณวุฒิ
ปลูกเลยครับคุณวุฒิ กระเจี๊ยบแดงมีประโยชน์เยอะมาก ครับ และยังมีเมนูกระเจี๊ยบอีกหลายอย่างครับ ฝีมือสืบค้นข้อมูลขั้นเทพอย่างคุณวุฒิคงหาได้ไม่ยากครับ
คนยอง
22 กันยายน, 2010 - 11:04
Permalink
ต้องลอง
ผมมีอยู่ 6 ต้นกำลังโต
เดี๋ยวต้องลองบ้าง..
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ วิทย์
witlessness
22 กันยายน, 2010 - 12:50
Permalink
พี่คนยอง ปักกระเจี๊ยบ
พี่คนยองครับ กระเจี๊ยบ 6 ต้นของพี่ ขยายพันธุ์โดยไม่ต้องรอเมล็ดก็ได้นะพี่ พี่ลองตัดกิ่งที่ไม่อ่อนไม่แก่เกินไป ตัดเป็นท่อนให้มีตาสักสองสามตาไปปักไว้ที่ดินชื้นๆ หรือจะปักทั้งกิ่งเลยก็ได้ครับ หากมีน้ำยาเร่งรากอาจแช่น้ำยาเร่งรากหรือจุ๋มก่อนก็ได้ครับ
กุ้งบางบัวทอง
22 กันยายน, 2010 - 11:38
Permalink
ขอบคุณข้อมูลค่ะ
ตกกะใจนึกว่าเข้ามาเวปทำอาหาร แหม! ผู้ชายก็สนใจทำอาหารด้วย เก่งจริง...กุ้งชอบฝักกระเจี๊ยบต้มจิ้มน้ำพริกค่ะ
มีความสุขกับการที่ได้ให้มากกว่าการที่ได้รับ
witlessness
22 กันยายน, 2010 - 12:52
Permalink
คุณกุ้ง
ฝักกระเจี๊ยบที่ต้อมจิ้มน้ำพริก เรียกกระเจี๊ยบเขียวครับ (บ้านผมเรียกกระต๊าด) ส่วนข้อมูลนี้เป็นกระเจี๊ยบแคงครับ
หน้า