มะขามป้อม
ชาวฮินดูเรียกมะขามป้อมอีกชื่อหนึ่งว่า
"อะมะลา" หรือ "อะมะลิกา" ตามพุทธประวัติ
กล่าวไว้เช่นเดียวกับมะม่วง นั่นคือในคราวที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปเก็บมะม่วงนั้น ทรงเก็บ
มะขามป้อมมาด้วย
สำหรับคนไทย บรรพชนได้นำหลายๆ ส่วนของ "มะขามป้อม" มาใช้ประโยชน์ในหลายๆ ด้าน
อาทิ นำมาใช้เป็นยาสมุนไพรรักษาโรค เป็น
น้ำผลไม้แก้กระหาย เป็นขนมหวานรสอร่อย
ปัจจุบันนี้ "มะขามป้อม" ยังคงทำหน้าที่ของ
ไม้ผลยืนต้นที่ให้ร่มเงาและความชุ่มชื้น รวมถึงเป็นอาหารและยารักษาสรรพโรคให้กับมวลมนุษยชาติ
สรรพคุณมะขามป้อมตามตำรับยาไทยสามารถแก้หวัด ผลมะขามป้อมมีสรรพคุณแก้หวัด แก้ไอได้ดี เป็นที่รู้กันในทุกประเทศที่มีมะขามป้อม จนปัจจุบันมีสิทธิบัตรที่จดในประเทศสหรัฐอเมริกาของตำรับยาที่มีส่วนผสมของมะขามป้อมอยู่ ระบุสรรพคุณในการแก้หวัด แก้ไข้ ซึ่งอาจเนื่องมาจากวิตามินซีหรือสารในกลุ่มแทนนิน อาการเป็นหวัด ไอ เจ็บคอ ปากคอแห้ง ให้ใช้ผลสด 15-30 ผล คั้นเอาน้ำมาจากผล หรือต้มทั้งผลแล้วดื่ม แทนน้ำเป็นครั้งคราว
ตามตำราไทยเชื่อว่าของที่มีรสเปรี้ยวทุกชนิดช่วยละลายเสมหะ และหมอยา พื้นบ้านเชื่อว่ารสเปรี้ยวที่ละลายเสมหะและบำรุงเสียงได้ดีที่สุดคือมะขามป้อม ปัจจุบันมีการศึกษาพบว่าในมะขามป้อมมีสารที่ละลายน้ำได้มีฤทธิ์ละลายเสมหะ และที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร มีการพัฒนายาแก้ไอมะขามป้อมขึ้นทะเบียนยาเป็นยาแผนโบราณเป็นที่นิยมของทั้งผู้ใช้ยาและแพทย์ โดยตำรับยาทำได้ง่ายๆ เพียงแต่นำมะขามป้อมแห้งมาต้มแล้วแต่งรส มะขามป้อมที่จะนำมากินแก้ไอ เจ็บคอ ควรเลือกลูกที่แก่จัดผิวออกเหลือง
เมื่อมีอาการเป็นหวัด ไอ ให้นำมะขามป้อมสดมาเคี้ยวอมกับเกลือทุกครั้งที่มีการไอถ้าไม่ไอแต่ยังมีไข้อยู่ก็ควรอมมะขามป้อมเพื่อให้ชุ่มคอและขับเสมหะ เป็นการป้องกันการไอได้ด้วยการละลายเสมหะ แก้การกระหายน้ำ ใช้ผลแก่จัดมีรสขม อมเปรี้ยว อมฝาด เมื่อกินแล้วจะรู้สึกชุ่มคอ ใช้สำหรับช่วยละลายเสมหะ กระตุ้นให้เกิดน้ำลาย จึงช่วยแก้การกระหายน้ำได้ดี หรือใช้ผลแห้งประมาณ 6-10 กรัม ถ้าใช้ผลสดประมาณ 10 กรัม ต้มกับน้ำดื่ม หรือคั้นเอาน้ำสำหรับดื่ม ขับเสมหะ หรือช่วยระบายของเสียให้ใช้ผลสด 5-15 ผล ต้มหรือคั้นน้ำมาดื่ม
มะขามป้อมมีรสเปรี้ยว ฝาด ขม เช่นเดียวกับสมอไทย จึงสามารถแก้โรคต่างๆ ได้มากเช่นเดียวกันสมอไทย ตำรายาอินเดียยกย่องมะขามป้อมไว้มากว่า เป็นผลไม้บำรุงร่างกายที่ดีมาก ตำราบางเล่มถึงกับกล่าวว่า ถ้าคนอินเดียไม่มองข้ามมะขามป้อม คือเอามะขามป้อมมากินเป็นประจำวันละ 1 ลูก ทุกวัน เขาเชื่อว่าคนอินเดียจะมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงกว่านี้มากนัก ทั้งนี้เพราะมะขามป้อมบำรุงอวัยวะแทบทุกส่วนของร่างกาย คือ บำรุงผม สมอง ดวงตา คอ หลอดลม ปอด หัวใจ กระเพาะ ฯลฯ แก้น้ำเหลืองเสีย ปรับประจำเดือนให้มาปกติ บำรุงเลือด บำรุงกำลัง ช่วยลดความดันเลือดสูง
ปัจจุบันมีการศึกษาพบประโยชน์มากมายของมะขามป้อมในการลดความดัน ลดน้ำตาลและลดไขมันในเลือด การกินมะขามป้อมช่วยควบคุมโรคเบาหวาน ทางอายุรเวท พบว่าการดื่มน้ำมะขามป้อมคั้นสด 1 ช้อนโต๊ะ (15 ซีซี) กับน้ำมะระขี้นกคั้นสด 1 ถ้วย ทุกวันเป็นเวลาสองเดือนสามารถกระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่งอินซูลินและลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ การกินยาตำรับนี้ต้องมีการควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด และยาตำรับนี้ยังลดอาการแทรกซ้อนทางตาจากโรคเบาหวาน
มีงานวิจัยชิ้นหนึ่ง ทดลองให้คนกินยาเม็ดวิตามินซีกับกินมะขามป้อมเปรียบเทียบกันพบว่า วิตามินซีจากมะขามป้อมถูกดูดซึมเร็วกว่าวิตามินซีเม็ด ทั้งนี้อาจเป็นเพราะในมะขามป้อมมีสารอื่นๆ ที่ช่วยพาวิตามินซีเข้าสู่ร่างกายได้รวดเร็ว มะขามป้อมที่ผ่านการต้ม หรือตากแห้งทำให้วิตามินซีลดลง แต่ก็ยังเพียงพอที่จะใช้รักษาโรคลักปิดลักเปิดได้ ถ้าเก็บไว้ไม่เกิน 1 ปี
ส่วนคนที่ท้องผูกเป็นประจำ ไม่ว่าจากสาเหตุใดก็ตาม ถ้าได้กินมะขามป้อมแล้วอาการท้องผูกจะหายไป เนื่องจากมะขามป้อมมีรสฝาด จะทำให้กินยากไปสักหน่อย ควรปรุงรสให้อร่อยด้วยการนำมะขามป้อมมาผ่าแคะเม็ดออก (กินแต่เนื้อ) ประมาณ 10 ลูก ใส่พริก เกลือ น้ำตาลตำพอแหลก กินต่างผลไม้ แต่ควรกินก่อนนอนหรือตอนตื่นใหม่ๆ ในขณะที่ท้องว่า วิธีลดความฝาดของมะขามป้อม ก็คือแช่น้ำเกลือ มีขั้นตอนดังนี้ ล้างมะขามป้อมให้สะอาด ลวกด้วยน้ำร้อน และนำไปแช่ในน้ำเกลือที่เค็มจัดแช่ไว้สัก 2 วัน รสฝาดก็จะลดลง ยิ่งแช่นานรสฝาดก็ยิ่งหมดไป
- บล็อกของ ชวิน
- อ่าน 11133 ครั้ง
ความเห็น
ตองอู
4 ตุลาคม, 2010 - 06:55
Permalink
พี่วิน..^_^..
มะขามป้อม สรรพคุณเยอะเหมือนกัน แต่ขอแบบแปรรูปแล้วดีกว่า ถ้าลูกสดๆคงเปรี้ยวน่าดู..^_^..
MSN/MAIL/HI5 : Tongau_oomsin[at]hotmail[dot]com
ป้าหน่อย
4 ตุลาคม, 2010 - 06:59
Permalink
มะขามป้อม
มะขามป้อม ป้าหน่อยมักคัก
จิ้มพริกเกลือ ตำใส่หัวสิงไค
แซ่บซุแนว บ่อเคยกินกะแม่นแต่
แกงปลาหลดใส่บักขามป้อม นี่ล่ะ
ผู้ได๋เคยกิน เว้าสู่ฟังแหน่ 555
ลูกอิสานกันดารแท้ แต่บ่อเหี่ยวทางน้ำใจเด้อ
หากแหม่นใหลหลั่งรินปานฝนแต่เมืองฟ้า
มาเด้อพวกพี่น้อง สานสัมพันธ์ให้มันแก่น
ให้ยืนยาวแนบแน่นพอปานปั้นก้อนข้าวเหนียว เด้อพี่น้อง
ชวิน
4 ตุลาคม, 2010 - 07:07
Permalink
ตองอู
อย่างแช่อิ่มก้ออร่อย จะรับมัย เดี๋ยวจัดให้
แต่ลูกสด จะแฝดไม่เปรี้ยวเท่าไหร่ ทานแล้วชุมคอ
พอเพียงเพื่อเพียงพอ
jabee_68@hotmail.co.th
tantawan-ตะวัน
4 ตุลาคม, 2010 - 07:25
Permalink
มะขามป้อม
เด็กๆ อย่างหนูไม่รู้จัก อ่านสรรพคุณแล้วน่าสนใจต้องหัดกินบ้างแล้วจ้า
มานี มานะ วีระ ชูใจ
4 ตุลาคม, 2010 - 07:50
Permalink
มะขามป้อม
ปัจจุบันมีสิทธิบัตรที่จดในประเทศสหรัฐอเมริกาของตำรับยาที่มีส่วนผสมของมะขามป้อม
น่าดูชม...
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
chai
4 ตุลาคม, 2010 - 08:14
Permalink
ชวิน
แต่ก่อนตอนเด็กๆเดินไปโรงเรียนจะมีอยู่ต้นหนึ่ง ดกมากชอบขึ้นไปเก็บ
เอาไปแจกเพื่อนกินที่โรงเรียนตอนพักเที่ยง เวลากินตอนแรกจะออก
เปรี้ยวมาก แต่พอกลืนลงคอแล้ว รสหวานจะตามมาทีหลัง
ขอบคุณมากนะครับสำหรับข้อมูลดีๆ
ทำความดีนะครับ จะได้มีความสบายใจ msn/krawmovie@hotmail.com
pomcob
4 ตุลาคม, 2010 - 08:26
Permalink
มะขาม ผมม มม
ขอคืนด้วย ... ถุงนั่นแหละคับ
แฮะๆ
lekonshore
4 ตุลาคม, 2010 - 08:57
Permalink
คุณชวินขอบคุณที่บอกสรรพคุณ ท
คุณชวินขอบคุณที่บอกสรรพคุณ
ทางใต้ไม่ค่อยมี จะถามอยู่พอดี
ว่ามะขามของน้องป้อมเหรอ อิอิ
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
witlessness
4 ตุลาคม, 2010 - 09:03
Permalink
พี่ชวิน
ขอบคุณครับพี่ชวิน ข้อมูลมีประโยชน์มากครับ
แดง อุบล
4 ตุลาคม, 2010 - 09:18
Permalink
คุณชวิน
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ ที่สวนผสมแดงก็ปลูกสองต้นค่ะ
"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"
หน้า