"น้ำ..."

หมวดหมู่ของบล็อก: 
Keywords: 

“น้ำ...”


น้ำ เป็นของเหลวชนิดหนึ่ง เป็นสิ่งจำเป็นของชีวิต โลกมนุษย์มีน้ำประกอบสามในสี่ ชีวิตคนก็ดุจเดียวกับโลกใบหนึ่ง  รอบตัวมีน้ำอีกมาก


   เรื่องราวของน้ำถูกจารึกไว้ในนิทานอีสป ลาโง่ผู้ปรารถนาจะมีเสียงไพเราะเช่นเดียวกับจิ้งหรีดด้วยการกินน้ำค้าง และสุดท้ายต้องหมดแรงล้มลงขาดใจตาย


น้ำฝน... ก็ใช่ หลายวันนี้ฝนตก เวลาเดินตากฝนพร้อมร่มเราจะรู้สึกเหมือนเราเป็นสายฝน แต่เวลาที่เดินท่ามกลางสายฝนเราก็ได้เรียนรู้ว่าเรานี่แหละคือน้ำฝน ดูเป็นหนึ่งเดียวเสียเหลือเกิน


น้ำตา... อีกละ เป็นทางออกเรื่องง่ายๆแต่ดีมากในการแก้ปัญหาเบื้องต้นสำหรับใครบางคน โดยไม่ต้องบอกใครก็ได้ ทำไม่ยากเพราะว่าเป็นการระบายความทุกข์ที่ท้นออกมา บางทีก็ทะลักราวกับทำนบพังหรือเขื่อนแตก ในคำสอนทางศาสนา กล่าวถึงน้ำตาว่าหากเอาน้ำตาแต่ละชาติมารวมกันจะมีมากกว่าสี่มหาสมุทร ...ช่างมากมายเสียจริงความทุกข์ของคนเรา  แต่ก็ไม่ค่อยได้รู้ว่าเมื่อทุกข์แล้ว จะทำอย่างไรให้น้ำตานี้เหือดแห้งถาวร ไม่ต้องปาดน้ำตากันบ่อยๆ


น้ำใจ... แค่นิดเดียว ถ้ามีให้แก่กันคงไม่เดือดร้อน ชลอการเข้ากลียุคให้ช้าลง ในขณะที่โลกนี้ดุจเดียวกับเตาหลอมเหล็ก หยดน้ำเล็กๆหยดลงไปก็อันตรธานหายไปรวดเร็ว ถ้าได้ช่วยกันหยดน้ำใจบ้าง หวังไว้ว่าสักวันโลกน่าจะสุขเย็นกว่านี้บ้าง


น้ำเย็น... ใช่ซินะ เวลาที่เหนื่อยร้อนมาแต่ไกล ขอเธอเป็นน้ำเย็นสักแก้วหรือไม่ต้องเต็มแก้วก็ได้ ...เป็นน้ำเย็นสักหยดก็ชื่นใจ ต่อชีวิตไปได้อีกสักอึดใจหนึ่ง


....อีกบทเรียนของชีวิตจากก้อนหินกับน้ำ  ชีวิตบางทีก็มีจังหวะเข้ามา เหมือนเราขว้างก้อนหินลงน้ำ  รอยน้ำแตกออก มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในรอยแยกของน้ำ เวลาผ่านไป รอยแยกก็กลับคืนเป็นปกติ   สิ่งที่เหลือคือประสบการณ์ที่กลายเป็นทรงจำ...ดีๆ...


 


และยังมีอีกหลายน้ำ...


 


...อยากบอกอีกน้ำสุดท้าย คือ “น้ำฟ้า”...


(จาก http://www.212cafe.com/boardvip/view.php?user=cm99&id=1154 )


 


.. น้ำฟ้า..
คำร้อง/ ทำนอง ครูรัก รักพงษ์


โลกเอย ใยแล้งร้าย..
แทบตาย หลายสิ่งยิ่งซ้ำซ้อน
ยิ่งฟ้าไม่ซื่อดังเก่าก่อน
ต่างคนจึงทนร้อนร่ำพร่ำ

หากเพียงใจฟ้านั้น
หันมาปรานี แค่ขอน้ำ
พรมผืนดินฉ่ำ
พรำน้ำมาให้
อื่นใดตื่นตัวทั่วถึง

โลกคงสุขสันต์สม
อุดมคติที่ฝันซึ้ง
อย่างน้อยน้ำใจได้กึ่งหนึ่ง
จะพึงตรึงเตือนเหมือนหลักแก่น
ดุจดินปองน้ำฟ้า
ฝนนองท้องนา ค่าเหลือแสน
นาแล้งทุกแผ่น แดนร้อนทุกที่
ต่างมีแต่คอยหยาดน้ำ

เป็น... น้ำใจ ไหลเจือเอื้อเผื่อคนยาก
น้ำจากฟ้าจึง
ประหนึ่งผ่อนร้ายคลายช้ำ
เปรียบ .. คนสูงช่วยคนต่ำ
ปั้นเป็นน้ำคำ .. เรียกกันน้ำฟ้า

... เมื่อดินเย็นน้ำฝน
เมื่อคนนั้นก็เย็นน้ำฟ้า
โลกนี้จึงมีความสุขกว่า
ด้วยคุณค่าคือน้ำใจคน
ผู้รวยศักดิ์สูงศรี
แล้วพลีใดใด ไม่หวังผล
ใครละตัวตน
จนพ้นกิเลส
ฆ่าเปรต ได้เป็น เช่นฟ้า...

ไปดาวน์โหลดเพลงนี้ไว้ฟัง ได้ที่นี่ค่ะ...
http://www.bunniyom.com/idx_psu3.html

ความเห็น

อ่านเหนือยนิหน่อยฮ่าๆ..ขอบคุณครับLaughing

คุณ เซฟ อ่านเหนื่อย ดื่มน้ำก่อนนะ มีน้ำเย็น หายเหนื่อยแล้วอ่านต่อนะ

พี่นิกชอบกินน้ำตา 


ประมาณว่าอ่อนแออ่ะ

ไม่ว่าวันนี้มันจะดี....หรือร้าย  จงระลึกไว้เสมอว่า  "แล้วมันจะผ่านไป"...

แล้วใช้น้ำตาเช็ดหัวเขาด้วยหรือเปล่าTongue out

Cry


 

ไม่ว่าวันนี้มันจะดี....หรือร้าย  จงระลึกไว้เสมอว่า  "แล้วมันจะผ่านไป"...

น้ำตาที่รินไหลทุกหยดมีทั้งความหมายและคุณค่าค่ะ คุณนิกกี้ ไม่ว่าจะสุขหรือเศร้า บางทีไม่มีใครก็ได้น้ำตานี่ล่ะค่ะ


ช่วยล้างนัยน์ตาให้สะอาด นี่เป็นข้อแรกที่เห็นกัน


...ขอเป็นกำลังใจแก่กันนะคะ...

พี่ตะวัน  นิกก็เช็ดบ้าง  ไรบ้าง  555


วันนี้นิกจะรอดูรวมพลคนบางกอกน่ะ 


เก็บภาพมาฝากเยอะ ๆ  น่ะ  ...Cry

ไม่ว่าวันนี้มันจะดี....หรือร้าย  จงระลึกไว้เสมอว่า  "แล้วมันจะผ่านไป"...

มีใครบางคน บอกว่า ไม่ว่าวันนี้มันจะดีหรือจะร้าย จำไว้เสมอว่าแล้วมันก็จะผ่านไป


ค่ะ ไม่มีบางคนเหมือนกัน บอกว่า เที่ยงคืนแล้วก็ยังหลับตาไม่ลง เขาก็บอกเสียงเบาๆแต่จริงใจค่ะ บอกว่า "คิดอะไรมาก เดี๋ยวก็เช้าแล้ว"


...ยังไงรวมพลคนบางกอก ไม่ได้ไปด้วย ไม่เป็นไรนะ วันหน้าก็ได้ไป...

ขอมีส่วนร่วมน้องตะวันกับคุณนิกกี้


มีใครบางคนบอกว่า วันที่ร้องไห้ได้กอดเข่าด้วย เป็นวันที่ได้กลับไปอยู่ในท่าเดียวกับที่อยู่ในครรภ์ เป็นท่าที่รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ไม่มีใคร ก็เข่าเรานี่แหละได้ซับน้ำตา

ขอมีส่วนร่วมน้องตะวันกับคุณนิกกี้ วันนี้ ส่วนตัวเองก็อิ่มเลยค่ะ น้ำตาเป็นปี๊บ (ฤทธิ์พริกขี้หนูหรือเปล่าไม่แน่ใจ) แต่ที่แน่ๆ คือ เวลาน้ำตามันรินไหลแบบห้ามไม่ได้ ก็มากจนเราอิ่มไม่อยากกินอะไรเลย


...เป็นกำลังใจแก่กันค่ะ คุณนิกกี้...

หน้า