โคลนถล่มบ้าน และนี่คือข่าวร้าย แต่ก็ยังโชคดี(บ้านหลังแรกในชีวิต)
สาเหตุที่ไม่สามารถทนอยู่สะเดาต่อไปได้เนื่องจากได้รับโทรศัพท์จากคนที่เช่าบ้านว่าขณะนี้บ้านน้ากำลังจะ เอนมาทับ บ้านหลังที่เขาเช่าอยู่เนื่องจากดินชุ่มน้ำจนบ้านน้าคลอนตอนประมาณ4ทุ่มคืน วันที่1ก่อนเกิดพายุและรูปนี้ถ่ายจากหน้าบ้านและรูปต่อไปคือสาเหตุของโคลน ถล่มในครั้งนี้ค่ะ
ดินบนภูเขาชุ่มน้ำมากประกอบกับมีการถางเพื่อปลูกยางพาราและสตอ มีการใช้น้ำยาฆ่าตอไม้เก่าออกทำให้ไม่มีรากไม้ไว้อุ้มน้ำ เพราะยางพารารากจะตื้นมากแค่เกาะหน้าดินเฉย ๆ ช่วยอะไรไม่ได้เลยดินถล่มครั้งนี้กลืนบ้านเรือนของเพื่อนบ้านใกล้เคียงไป 5หลัง คร่าชีวิตของเพื่อนบ้านไป 5 คน เด็ก 3 คนผู้ใหญ่อีก 2 คนซึ่งอยู่ในบ้านเพียงเวลาแค่ชั่ววินาทีเดียวเท่านั้น มีเสียงดังคลืนแล้วทุกอย่างก็สงบไม่มีใครสามารถออกมาช่วยเหลือกันได้เพราะเป็นช่วงที่พายุลง ไฟฟ้าดับ ทั้งลมทั้งฝน ฟ้าร้อง ฟ้าลั่น ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ทุกอย่างมาพร้อมกันหมดออกจากบ้านกันไม่ได้ลมตีเข้า(เพื่อนบ้านบอกเล่า)และความโชคดีที่บอกทุกคนคือทุกอย่างจบลงเว้นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวของเล็กที่ให้เขาเช่าอยู่ไว้ให้ซึ่งล้อมรอบไปด้วยโคลน และเศษปรักหักพังของบ้านผสมดินโคลน และนี่คือภาพของสภาพที่เหลือในวันรุ่งขึ้นหลังจากขับรถกลับจากสะเดา ก็ขับรถต่อไปยัง อ.สิงหนคร บ้านหัวเขาซึ่งเป็นบ้านหลังเก่าที่ให้เขาเช่าอยู่ แต่ปัจจุบันเล็กอยู่ อ.เมือง
สภาพบ้านหลังติดกันครึ่งหลังหายไป แต่ของเล็กยังอยู่ครบแค่มีโคลนมาโอบตรวจดูภายในโครงสร้างแตกร้าวหมดเลย
ป่าหลังบ้านเล็กซึ่งไม่ได้ไปทำร้ายมันเลยยังอยู่สภาพเดิมแต่โดนเพราะน้ำมันหักเหมุมเมื่อเจอสิ่งกีดขวาง
รถแม็คโฮ ช่วยกันขุดหาศพจนพบทั้งหมด หายไปติดอยู่อีกฝั่งคลอง 2ศพ
ถ่ายหน้าบ้านซึ่งทางเดินระหว่างบ้านเต็มไปด้วยโคลนและเศษบ้านติดกันกระแทกจนโครงสร้างหลังคาเสียหายสงสัยเอาโคลนออกจะยุบหรือเปล่า
รถของบ้านข้าง ๆ จอดไว้ในโรงโคลนพาไปในคลองคนละฝั่งถนน
และนี่ก็บ้านเพื่อนบ้านที่เหลือหลังละซีก อีก 3 หลัง คนแก่นอนจมในโคลนแต่รอดหวุดหวิด
อีกรูปนะค่ะสภาพ
แบบนี้เรียกความโชคดีบนความโชคร้ายหรือเปล่าค่ะ
- บล็อกของ lekonshore
- อ่าน 17992 ครั้ง
ความเห็น
lekonshore
4 พฤศจิกายน, 2010 - 10:54
Permalink
น้องบี บี
เหมือน ๆ กันค่ะเป้นกำลังใจให้กันและกันจ้า
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
chai
3 พฤศจิกายน, 2010 - 17:52
Permalink
พี่เล็ก
ต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่เสียชีวิตด้วยนะครับ
เห็นแล้วสะเทือนใจมากเลยครับ เป็นกำลังใจให้
ทุกๆคนนะครับ
ทำความดีนะครับ จะได้มีความสบายใจ msn/krawmovie@hotmail.com
lekonshore
4 พฤศจิกายน, 2010 - 10:27
Permalink
น้องชัย
ขอบคุณมาก ๆ น้องไม่เป็นไรแล้วค่ะ
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
ข้าวเหม่า
3 พฤศจิกายน, 2010 - 17:55
Permalink
เห็นภาพแล้วเศร้าใจค่ะ
เห็นภาพแล้วเศร้าใจค่ะ เวลาธรรมชาติเอาคืนนี่มันโหดร้ายและรุนแรงเสมอเลยค่ะ แม่ข้าวเหม่ายังห่วงอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะทางภาคเหนือตอนนี้กระแสปลูกยางพาราแรงเหลือเกิน กลัวว่าพันธุ์ไม้ประจำถิ่นจะสูญพันธ์เสียหมด ลูกหลานทางเหนือต่อไปอาจจะรู้จักแต่ต้นยางพาราก็ได้น่ะค่ะ
lekonshore
4 พฤศจิกายน, 2010 - 10:26
Permalink
ข้าวเหม่า
ขบอคุณค่ะ ยังงัยก็ระวังไว้ก็ดีค่ะ เป็นห่วง
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
ann
3 พฤศจิกายน, 2010 - 18:00
Permalink
แค่พริบตา....
........................
เห็นแล้ว.ใจหาย..
เป็นกำลังใจ นะคะ.....
....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....
lekonshore
4 พฤศจิกายน, 2010 - 10:24
Permalink
น้องแอน
ชั่วพริบตาจริง ๆน้อง
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
มานี มานะ วีระ ชูใจ
3 พฤศจิกายน, 2010 - 18:11
Permalink
รู้ใช่ไหมว่าผมจะบอกอะไร..
..........................................
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
lekonshore
4 พฤศจิกายน, 2010 - 10:22
Permalink
มานี มานะ
รู้ค่ะ รู้ เข้าใจ ขอบคุณมาก
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
sothorn
3 พฤศจิกายน, 2010 - 18:13
Permalink
เห็นแล้วเศร้า
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับพี่เล็ก
ฟังจากพี่เล็กเล่าเมื่องานไม่คิดว่าจะขนาดนี้
หน้า