สวนครัวพอเพียงในบ้านหลังที่สอง

ขอเปลี่ยนจากกระทู้มาเป็นบล็อกตามคำแนะนำของน้องดวงค่ะ

มาตามสัญญาแล้วค่ะพี่น้อง

      หลังจากนำเสนอสวนผักที่บ้านแล้ว ก็อยากนำเสนอในที่ทำงานบ้าง โดยยายจ่อยเสนอโครงการสวนครัวพอเพียงในบ้านหลังที่สอง ..เราทุกคนคงไม่ปฏิเสธนะคะว่าที่ทำงานเปรียบได้กับบ้านหลังที่สองของเราเพราะเราใช้เวลาที่นี่ถึง 1ใน 3 ของวันทีเดียว

      ก่อนอื่นต้องบอกว่า องค์กรเราปวารณาตัวเองเป็น Green Office มีกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่ช่วยลดภาวะโลกร้อน อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี 2548 และในปี 2553 เป็นต้นมาที่เราเริ่มดำเนินการได้หลายกิจกรรม ครอบคลุม ที่นี่เรามีบุคลากรประมาณ 200 คน มีเนื้อที่ 35 ไร่ แต่ว่าก็เป็นตึกเสียส่วนใหญ่ ..งานก็เคร่งเครียดเพราะต้องดูแลผู้ป่วยวันละ 300-400 คนทีเดียวค่ะ หลายท่านอาจสงสัยว่าเราทำอย่างไร ตามมาดูเร้วๆๆๆ

หลังจากขออนุมัติดำเนินการจากผู้อำนวยการแล้ว เราเริ่มประชาสัมพันธ์หาผู้เข้าร่วมโครงการ และสามารถจับจองพื้นที่ปลูกได้ตามใจชอบใครมาก่อนได้ก่อน แนวคิดคือต้องใช้หลักการแบบพอเพียง แบ่งปัน และใช้เกษตรอินทรีย์ และ

เตรียมแปลงปลูกด้วยการไถพรวนเบื้องต้น และต่อก๊อกน้ำ ตามจุดต่างๆ พื้นที่เลือกด้านหลังโรงพยาบาล เนื้อที่ประมาณ 2 งาน

ก่อนเริ่มดำเนินการหนึ่งเดือน ทีมงานเตรียมน้ำหมักชีวภาพไว้รองรับโครงการ ได้เศษพืชผักจากงานโภชานาการ มาหมักค่ะ

และเตรียมปุ๋ยหมัก ซึ่งได้จากการหมักมูลสัตว์รวมกับเศษหญ้าของงานสนาม และน้ำหมักชีวภาพเราเอง

เริ่มต้นในเดือนพฤศจิกายน อากาศเริ่มเย็น ฝนน้อยลง ใช้เวลาช่วงหลังเลิกงาน จับจองพื้นที่ใครมัน หลายแผนกช่วยกันค่ะ มีเด็กนักเรียนมาร่วมด้วยตามเคย ยุ่งจังเลย

หว่านเมล็ดพันธุ์ให้เป็นต้นกล้าเล็กๆเพื่อแยกเปลูกเป็นแปลงๆไป

ผักที่ปลูกเลือกที่ชอบอากาศเย็น คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้ง ผักชีจีน ลาว ฝรั่ง ผักกาดขาว เขียวปลี บวบ ฟักทอง หอม กระเทียม ผักกาดหอม แตงกวา แมงลัก โหระพา พริก มะเขือ และอื่นๆอีกมากมายแล้วแต่ว่าเราชอบกินอะไร ก็ปลูก รวมทั้งปลูกพืชยืนต้นอื่นที่กินได้ตลอดปี เช่น ข่า ตะไคร้ แค โสน กล้วย มะพร้าว มันเทศ โอ้ย นับไม่ไหวค่ะ

ทุกวันเจ้าหน้าที่จะลงมาดูแลแปลงผักตัวเอง ตามที่ว่าง ส่วนใหญ่มักเป็นก่อนเข้าทำงาน พักเที่ยงและหลังเลิกงาน

เก็บวัชพืช กำจัดเพลี้ย แมลงต่างๆ

บ้างก็มารดน้ำ ผสมน้ำหมักชีวภาพด้วย (คนนี้กล้วแดดจ้า)

ส่วนคุณน้าท่านนี้ ถึงแม้จะเป็นคนงาน แต่ความรู้เรื่องเกษตร ยายจ่อยยกปริญญาเอกให้เลย เราได้เรียนรู้หลายอย่างจากน้าละออ ปลูกอะไร งามทุกอย่าง จริงๆ

ส่วนพี่สาวคนนี้ก็เช่นกัน แม้จะเป็นแม่บ้าน แต่ด้วยใจรักด้านเกษตร พี่หมุนใส่ใจและดูแลเหมือนลูก ถามอะไรรู้ทุกอย่าง แปลงผักพี่หมุนงามมากค่ะ

ส่วนคนนี้ อยากรู้ทุกเรื่อง แต่ไม่เก่งซักเรื่อง เอาแค่เป็นเป็ด บินเรี่ยๆพื้น แต่ว่าสามารถเรียกคนเข้าร่วมโครงการได้เยอะนะค้า

ผลผลิตเมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือนเศษ เริ่มเก็บกินได้แล้ว

หลากหลายอย่างปรากฏให้เห็น และบ้านหลังน้อยสีชมพู นั้นคือบ้านหลังที่สองของยายจ่อยค่ะ

ดูกันจะๆ แตงกวาปลอดสารพิษ เก็บรอบที่สองแล้วค่ะ หวานกรอบจริงๆ

ผักจากสวนเราเองสดๆ น่ากินมั้ยคะ ยังคิดเมนูไม่ออกว่าทำอะไรดี

หลังเลิกงานก็เก็บผักกลับบ้าน ก่อนกลับอวดกันซักนิดนึง

พักเที่ยงเราก็เก็บผักมาทำแจ่วฮ้อนกินกัน ประหยัดค่ะ ซื้อแต่น้ำแจ่วฮ้อน 50 บาท เนื้อหมู 100 บาท ผักเราเอง อิ่มท้อง อิ่มใจและมีรอยยิ้มกันทั่วหน้า

เราได้รับสิ่งดีดีมากมายจากการทำกิจกรรมนี้ ความรัก เอื้ออาทร แบ่งปันพันธุ์ผัก สามัคคี ช่วยเหลือ แลกเปลี่ยนเรียนรู้...ได้ผ่อนคลาย ได้สุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่ดีกลับมา แม้จะเป็นกิจกรรมเล็กๆ แต่ถือว่าคุ้มและภาคภูมิใจเหลือเกินที่สองมือเราทุกคน มีส่วนช่วยโลกใบนี้รวมทั้งทำให้บ้านหลังที่สองของเราน่าอยู่ยิ่งขึ้น

ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่เป็นแรงบันดาลใจและติดตามผลงานยายจ่อย และปีใหม่นี้ขอให้ทุกท่านมีความสุข สุขภาพแข็งแรงค่ะ