น้ำชุบใบทำมัง

หมวดหมู่ของบล็อก: 

มื้อเที่ยงวันนี้ กินอิ่มแล้ว... เลยเอามาฝากคนชอบน้ำชุบแบบแห้ง ๆ เนื่องจาก ปลาดุกย่างเหลืออยู่ ครึ่งตัว กวาดตู้เย็นมาทำกินดีกว่า วัสดุอื่นพร้อมแล้ว



วัสดุพร้อม


สูตรเฉพาะ ของตัวเองค่ะ นึกอยากกินน้ำชุบใบทำมัง บรรเลงกันเลยดีกว่า รสชาดเหมือนน้ำชุบแมงดา (น้ำพริก)



ผักแกล้ม ทุกบ้านคงมีเยอะแล้วนะคะ... คนบ้านสวนฯ ปลูกผักกินเองกันทุกบ้านเลย...วันนี้ที่บ้านมี ถั่วพู ถั่วฝักยาว อย่างอื่นไม่ได้เก็บ ส่วนลูกแดง ๆ ที่ถ่ายรูปมาด้วย คือลูกหมากหมก.... มาประกอบให้สดใสยิ่งขึ้น จะเก็บไว้แกงสมรมมื้อต่อไปค่ะ



ยืมรูปต้นทำมังของ ผญ. นะคะ....นี่แหละต้นไม้กลิ่นแมงดา


ต้นทำมัง ใบทำมัง ใบมีกลิ่นหอมเหมือนแมงดา จึงใช้แทนกลิ่นแมงดาค่ะ....ตักข้าวสวยร้อน ๆ มาคลุกน้ำชุบใบทำมังกันได้เลยนะคะ... ทำเองกินเอง ชมเองว่า หรอยอย่าบอกใคร....Sealed

ความเห็น

Wow, that plant is amazing! I like to have one, have you got an English name for it?

ผญ. ช่วยตอบให้ทีตะ  พี่ตอบไม่ถูก


:desperate:

นึกว่าเป็นอะไรไป พี่แจ้วเอาไปแปรกับ กูเกิล ได้หม้าย

เพราะชีวิต...คนเรา    เกิดมา....ไม่นาน ก็ต้องตาย
ต้องกลายเป็นความว่างเปล่า
Cr. เ่ท่าที่มี - กางเกง

ทำมังเป็นต้นไม้ที่มีกลิ่นแมงดาอยู่ในสกุล Litsea วงศ์ Lauraceae ไม้ในวงศ์นี้มีอยู่ถึง 400 ชนิด ที่รู้จักกันดี ได้แก่ อบเชย สะทิด ทัง บง ต้นทำมังเป็นไม้หวงห้ามประเภท ข ทำมังพบกระจายในเขตร้อนและ กึ่งร้อนของเอเชีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และอเมริกา คนไทยเรียกต้นไม้ ที่มีกลิ่นแมงดาว่า ทำมังเหมือนกันหมด มีถิ่นกำเนิดและกระจายพันธุ์อยู่ใน ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ตอนล่าง (อำเภอบางสะพานและ บางสะพานน้อย) ชุมพร สุราษฎร์ธานีลงไปจนถึงนราธิวาส ส่วนใหญ่จะขึ้น อยู่ตามที่ชื้นในหุบเขา ตามริมลำธาร ในป่าดงดิบจนถึงในป่าพรุ แต่ไม่ค่อย พบในป่าบนภูเขา

ทำมังเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง 30-44 เมตร ไม่ผลัดใบ เจริญเติบโตค่อนข้างช้ามีทรงพุ่มแบบ พีระมิดค่อนข้างโปร่ง เส้นผ่า- ศูนย์กลางที่โคนต้นประมาณ 30-40 เซนติเมตร เปลือกลำต้นมีสีน้ำตาล จนถึงเทาและมีกลิ่นฉุน มีใบเป็นแบบใบเดี่ยว เรียงสลับหมุนเวียนรอบกิ่งใบกว้าง 3-9 เซนติเมตร ยาว 6-20 เซนติเมตร ก้านใบเรียวยาว 1-2.5 เซนติเมตร แผ่นใบบางเป็นมันลักษณะใบคล้ายใบขนุน เส้นแขนงใบ 4-12 คู่ มองเห็นชัดเจนทางด้านท้องใบ (ด้านล่าง) ปลายใบทู่จนถึงแหลม บนใบมีต่อมน้ำมันและมีกลิ่นฉุน ใบแก่จะฉุนและเผ็ดมากกว่าใบอ่อน ผลมีรูปไข่ยาว 1 เซนติเมตร เมื่อผลแก่มีสีน้ำตาลแดง ภายในผลมีเมล็ด เพียงเมล็ดเดียว
ต้นทำมังมีทั้งต้นตัวผู้และตัวเมีย (dioecious tree) มีดอกแยกเพศ เนื้อไม้แข็งมีกลิ่นฉุน นิยมนำไม้มาทำสากและใช้ในการก่อสร้างทั่วไป ต้นที่มีขนาดใหญ่สามารถนำมาเลื่อยทำไม้กระดานได้ 
http://www.tistr.or.th/t/publication/page_area_show_bc.asp?i1=65&i2=7
http://www.kmutt.ac.th/CRDC_symposium/data/181-184.pdf

กินกับข้าวสวยร้อนๆ  ได้แรงออ๊ก   หวันเที่ยงแล้วเนือยพอดี    หิวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


พี่ไม่เคยกินเลยต้นทำมัง...บ้านพี่ชอบกลิ่นแมงดากันทั้งบ้านถ้าซื้อน้ำพริกต้องมีกลิ่นแมงดาด้วย...ไม่รุ้ตามตลาดแถวนนท์มีขายรึเปล่าเนอะ..น่าลองจัง...

มีความสุขกับการที่ได้ให้มากกว่าการที่ได้รับ

ใบทำมังจะสดหรือแห้งก็ใช้ได้ แต่ก่อนส่วนมากเอามาเหน็บไว้บน "ผลา" ไว้ใส่แกงน้ำเคย......หอมอย่างแรง

อยู่นนท์ครับ พอหาที่ไหนกินได้บ้างอยากลองครับ :crying2:

ถ้าเดินเรื่อยไป ย่อมถึงปลายทาง

หน้า