บล็อกของ pomcob

พึ่งได้กินข้าวตะกี้ ( เวลาเกือบปกติของผม ) วันนี้เลิกงานรู้สึกว่า เคืองๆตายังไงไม่รู้ ก่อนจะกลับบ้าน เพื่อนที่ทำงานบอกว่า ผมตาแดงมาก อืมม คงจะจริงมั้ง ไม่เห็นแต่ รู้สึกว่าเคืองตาสุดๆ สงสัย จ้องคอมฯ มากไป แล้วก็รู้สึกล้าๆ พอควร จริงๆ ระยะทางทางทีทำงานถึงห้อง ก็ประมาณ 30 นาที แต่รู้สึกล้ามาก อยากได้น้ำตาลด้วย เลยตัดสินใจแวะหาไรกินหน่อย อยากกินผักมากกกกกกกก ด้วย นึกออกอย่างเดียว แม้จะหวั่นๆ เรื่องราคา แฮะๆ แต่อารมณ์ตอนนั้น เอาช้างที่ป้าเล็กยืนถ่ายรูปด้วยมาฉุดก็ยากจะเอาอยู่ปกติเวลาเดินเข้าห้างนี้ มีสองสาม ที่เท่านั้นที่ เดินตรงไปหา แล้วก็ไม่มีออกนอกเส้นทาง คือ ร้านหนังสือ ซุปเปอร์มาเก็ต ( ซื้อผัก ) แล้วก็ ร้านกล้วยแขก กล้วยแขกที่ห้างนี้อร่อยมากกกกกกกกก

เหมือนเช่น เคยคับ เลือกสลัดเบาๆ แต่พอไปคิดราคาก็ไม่เคยเบาเสียที

เมื่อวาน ( วันเสาร์)ซักผ้าแล้ว วันนี้เลยไม่มีไรทำ แิฮะๆ ตื่นสายๆ ( ประสาคนขึ้เกียจ ) จริงๆใช่ว่าไม่มีงานนะ จริงๆมีงานค้างๆ คาเพียบๆ เลยล่ะคับ

ก็หนังสือที่ ซื้อมากองๆไว้ทั้งอาทิตย์นั้นล่ะคับ ( ผมซื้่อหนังสืออาทิตย์ล่ะหลายเล่ม .. กลายเป็นดินพอกหางหมูแล้วคับ

วันทำงานกลับมาก็เหนื่อย กลับดึกๆ จนไม่มีบรรยากาศชวนให้ อ่านหนังสืออย่างมี สุนทรีย ... ได้เลย

จะให้่อ่านหนังสืออยู่ห้อง แคบๆ ก็กระไรอยู่ ปกติโลกทัึศน์ก็ แคบอยู่แล้ว อิอิ

พึ่งอ่าน บล๊อกของคุณ มานี มา ทิ้งคำถามไว้หน่อยๆเพื่อแสดงถึงการอิน ไปกับ เนื้อหาหน่อยๆ

วันนี้คุณอ่าน หนังสือ หรือยัง ? อ่านที่ใหน ? อ่านกับใคร ? อ่านหนังสืออะไร ?

หนังสือวารสารฉบับนี้ จัดทำโดย สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง : Institute of Sufficiency Economy

เนื้อหาน่าสนใจมาก เป็นหนังสือวารสารอีกฉบับที่อยากจะแนะนำ

อ้อ สำหรับข้อมูลของสถาบันดูได้จากลิงค์ นะคับ http://ise.in.th/

วันหยุด ปกติไม่ค่อยได้อยู่ กรุงเทพฯ เสียเท่าไหร่

พอดีเสาร์ อาทิตย์ที่แล้ว อ้อ รวมวันจันทร์ด้วย 3 วัน
( จันทร์ที่ผ่านมา มีธุรนิดหน่อยที่ บ้านที่ ร้อยเอ็ดถือโอกาสโดดงาน เสียเลย )

วันนี้ไปซํกผ้า แฮะๆ ( แล้วไง ? )

กลับมาแล้วคับช่วงนี้ทำงานๆๆ ก็ไม่ี่ค่อยมีเวลามา update เลยคับ แต่ถึงแม้งานกรุงเทพฯ จะยุ่งขนาดใหน

งานที่ต่างจังหวัดก็ดำเนินไปเรื่อยๆ คับ ตามอัตภาพ ทำไปเรื่อยๆ (ทำไป บ่นไปด้วย )

หนังสือและข้อมูลจาก ศุนย์ข้อมูล สสส นะครับ

การอ่านหนังสือของคนไทยและเด็กไทย

     สำนักงานสถิติแห่งชาติ เพิ่งมีการสำรวจครั้งแรก เรื่องการอ่านหนังสือของเด็กเล็ก 0-6 ปี ในปี พ.ศ.2551 โดยเน้นการอ่านหนังสือในช่วงนอกเวลาเรียน ซึ่งมีผู้ใหญ่อ่านให้ฟัง และ/หรือเด็กอ่านด้วยตัวเอง พบว่า เด็กเล็กมีอัตราการอ่านหนังสือ ร้อยละ 36 (2.1 ล้านคนจาก 5.9 ล้านคนทั่วประเทศ) และใช้เวลาในรอ่านหนังสือเฉลี่ย 27 นาทีต่อวัน ความถี่ในการอ่านสัปดาห์ละ 2-3 วัน มีจำนวนสูงสุดร้อยละ 39.6

     แต่ควรย้ำไว้ ณ ที่นี้ว่า เด็กเล็กที่ไม่อ่านหนังสือนั้นมีถึงร้อยละ 64

แต่งโดย ศาสตราจารย์ระพี สาคริก จริงๆ เนื้อหาในหนังสือไม่ได้ ซีเรียส เหมือนชื่อหนังสือเลยนะคับ ( ค่อนข้างแปลกใจกับชื่อหนังสือ ) เนื้อหาโดยรวมๆ ก็ไม่ได้ห่างใกลชีวิต โดยทั่วๆ ไปของพวกเราเลย คับ ลองๆดูสารบัญที่ผม ถ่ายๆ มาใ้ห้ดูบางส่วน นะคับ อ่านไปถ่ายไปครับ  ตอนนี้ยังไมไ่ด้ไปหาซื้อมาเป็นของตัวเองเหมือนกัน อาศัยอ่านจากห้องสมุด TK Park ( ทีเค ปาร์ค ) ช่วงพักกลางวัน ของทุกวันจะมีเวลา 1 ชม. ทานข้าวประมาณ 5 - 10 นาที จากนั้นก็แวบเข้าห้องสมุด มีหนังสือเยอะพอควรคับ ลองๆอ่านสารบัญดูน่าสนใจนะคับ ตอนนี้อ่านได้นิดหน่อยคับ อ่านแบบพอเพียง ลองไปหาอ่านๆ ดูนะคับ ราคาร้อยกว่าบาท 180 หรือไรเนี่ยล่ะคับ จำไมไ่ด้ครับ

กลับบ้าน หนึ่งวันสำหรับวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 01/08/2553

ช่วงเช้าไปถ่ายภาพเขาดำนา ชงกาแฟ โก้โก้ .. แล้วก็ ให้กำลังใจ หลังจากทานข้าวเที่ยง เสร็จ ก็ได้เวลากลับเข้าบ้านไป สะสางภาระกิจต่อยังไม่ได้บอกใช่เปล่าคับว่ากลับคราวนี้หิ้วชะอมไปด้วย ร้อยกว่าต้น จริงๆกะปลูกวันนั้นเลย สุดท้าย ท้ายสุด ก็ไม่ได้ทำเหมือนเดิม ก็วันนั้นฝนตกทั้งวันเลย ช่วงเช้าก็ตากฝนตลอด แม่เลยบอกว่ายังไม่ต้องไป ตากฝน ปลูกหรอกเดี๋ยวให้น้องๆ จัดการเอง

จากนั้นก็เดินไปสำรวจต้นไม้ ที่ปลูกๆ ไว้

ไผ่หวานในสวนข้างๆ บ่อ รอดตายจากแล้ง แล้วก็ น้ำท่วม ยี่สิบกว่าต้น