บรรยากากาศการอบรม

ช่วงพักดื่มกาแฟของน้าจอบ ได้มีการสาธิตการนึ่งวุ้น เขี่ยเชื้อ เห็ดค่ะโดยพี่สาว(เลขาของน้าจอบ)ชำนาญเรื่องเห็ดมากๆ

ได้พูดถึงขั้นตอนต่างๆและ การใช้ขี้เลื่อยอัดก้อนเห็ดค่ะ 

ได้บอกถึงขั้นตอนการนึ่งวุ้นไว้เขี่ยเชื้อ ด้วยหม้อแรงดันไอน้ำลูกนี้ค่ะ หม้อลูกนี้อายุการใช้งานหลายปีมาก เป็นสิบปีได้ละค่ะ

ก้อนเห็ดที่ผ่านการนึ่งมาเรียบร้อย ด้วยเตานึ่งลูกทุ่งด้วยองศา ๑๒๕  องศาเซลเซียส เป็นเวลา ๔ ชั่วโมงค่ะ หลังจากนั้น นำก้อนมาวางพักไว้ที่อุณหภูมิปกติเป็นเวลา ๑ วัน เพื่อให้ก้อนเย็นตัวค่ะ

ขวดเชื้อที่เลี้ยงไว้แต่ละสายพันธุ์ระยะเวลาจะไม่เหมือนกันค่ะ 

เข็มที่ใช้เขี่ยเชื้อจากดอกเห็ดเผาไฟด้วยตะเกียงแอลกอฮอลล์ก่อน เวลาเขี่ยให้เลือกเห็ดดอกที่สมบูรณ์ที่สุดค่ะ เชื้อจะแข็งแรง

ก้อนนี้เป็นก้อนเสียค่ะ มัรอยหรือรูทำให้อากาศเข้าไป เชื้อเห็ดจึงเดินไม่เต็ม เห็ดก้อนนี้ก็ยังเปิดดอกได้อยู่ค่ะ แต่ถ้าเชื้อราทางก้นถุงเดินเต็มถุงก็เสียแล้วค่ะ เอาไปทำปุ๋ยต่อได้อีก

มาเดินชมโรงเรือนบ่มก้อน และเปิดดอก แต่ได้รับความสนใจที่สุดคือตรงนี้ค่ะ

เห็ดหลินจือค่ะ ราคากิโลกรัมละ ๑,๐๐๐ บาททีเดียว

มาดู แปลงสาธิต ของน้าจอบค่ะ

ดอกปิ่นสุภา(น้าจอบตั้งชื่อเอง) ดอกไม้จีน ที่ เอาพันธุ์มาจากยะลาค่ะ

มะนาวพันธุ์เสวย น้าจอบบอกว่าได้พันธุ์มาจากต่างประเทศ ไร้เมล็ดที่ปลูกในปุ๋ยชีวภาพแห้ง โดยไม่ใช้ดืนค่ะ ไม่มีแคงเกอร์มารบกวนค่ะ แล้วเราก็เดินไปจุดที่ทำปุ๋ย และ เตาเผาถ่านแบบเก็บน้ำส้มควันไม้ค่ะ แต่เอไม่ได้เก็บภาพมาฝากกัน เดี๋ยวเอจะนำภาพในจุดต่างๆของศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา มาให้ชมกันค่ะ

น้าจอบได้สอนให้เราสังเกตุใบไม้ และ ความสมบูรณ์ การขาดธาตุอาหารต่างๆในใบไม้นั้นๆค่ะ

นั่งอบรมกันจนต้องเปิดไฟเลยค่ะ พอดีฝนมาครึ้มๆ ก็ประมาณ  ๔ โมงครึ่งสมาชิกจึงแยกย้ายเข้าที่พักกันค่ะ วันต่อมาเป็นการอบรมภาคปฏิบัติ มีการอัดขี้เลื่อยทำก้อนเห็ดกันด้วยและเอได้พาสมาชิกเดินชมแปลงสาธิตต่างๆค่ะ ไปดูแปลงทฤษฎีใหม่ด้วย เดินกันจนเกือบรอบแต่ลืมเก็บภาพมาฝาก ช่วงบ่ายก็มาซักถามข้อสงสัยหลังจากการเข้าร่วมอบรมก่อนจะแยกย้ายกันกลับประมาณ  ๔ โมงเย็นค่ะ