หนีคุณหนู..ไม่อยู่กะคุณนาย..หายไปเที่ยวเขากระโจม
เสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา (6-7 พย.)..ถือโอกาสที่ลูกน้องไม่ขาดไม่ลา เพื่อนพ้องว่างพร้อมกัน เลยเขียนใบลาส่งให้คุณนายกะคุณหนูอนุมัติ..นัดเพื่อนกลุ่มซี้ 4 คน พากันไปเที่ยวแบบโสดๆลุยๆ..ไร้ลูกไร้เมีย..ที่เขากระโจม..สวนผึ้ง
เริ่มต้น..ทุกคนเอารถไปจอดบ้านเพื่อนเราไปคันเดียวด้วยแลนด์ครุยเซอร์ จุดเริ่มหาอาหารเที่ยงตุนกันไว้ก่อนที่บ้านเทียนหอม ร้านที่คนมาสวนผึ้งต้องแวะ มีทั้งอาหาร สวนพักผ่อน เทียนหอมๆ..(ร้านนี้จัดแบบติ๊ส..แบบย้อนยุคได้อารมณ์เหมือนตอนอายุสิบขวบมาใช้แต่งร้าน แม้แต่ภาชนะอาหารยังใช้ช้อน จาน ชาม ปิ่นโต สังกะสีแก้วพลาสติกเหมือนสามสี่สิบปีก่อนมาบริการ
แล้วก็ไปแวะไปแถวเดอะซีนเนอรี่..ดูแกะ..ดูม้า..ดูคน..ไปตามเรื่องตามราว
จากนั้น..แวะไปหาเพื่อน สมาชิกกลุ่มของเพื่อน JUC ที่ไปปักหลักทำรีสอร์ทที่สวนผึ้ง (ไม่ไกลจาก ซีนเนอรรี่รีสอร์ท)เพื่อนในกลุ่มอยากสอบถามมองหาที่ดินสวยๆสักแปลง เจ้าบ้านชวนพัก..แต่พวกเราตั้งใจไปนอนเต็นท์ที่ยอดเขากระโจมเพื่อสัมผัสอากาสที่หนาวเย็น
ทัศนียภาพเขาสลับซับซ้อนมองจากรีสอร์ทของเพื่อน เสียดายยามนี้ไร้แสงแดดมีแต่เมฆหมอกปกคลุม (ปกติยามเช้าหน้าหนาวจะเห็นทะเลหมอก)
ไปสำรวจร่องรอยน้ำป่าที่เล่นสวนผึ้งซะอ่วม บริเวณชายห้วยภาชีที่ติดรีสอร์ท (สังเกตุระดับน้ำจากซากไม้ที่ติดต้นไม้ นี่คือระดับที่น้ำท่วม ขนำริมน้ำ ท่วมไปเกือบครึ่งหลัง)
ออกเดินทางต่อเกือบบ่ายสามมุ่งหน้าไปยอดเขากระโจม..ผ่านร่องรอยหินถล่มแต่เคลียร์พื้นที่แล้ว แต่ก็ต้องไปกันแบบลุยๆ..ปีนป่าย..ติดหลุม ติดหล่มลุยน้ำ..ลุยโคลน จนหัวสั่นหัวคลอน
แล้วเราก็มาถึงยอดเขากระโจมประมาณสี่โมงกว่าๆ..ผู้คนยังมาไม่เยอะเท่าใดนัก..มองหาทำเลปักเต็นท์..ได้มุมสวย..อากาสเริ่มเย็น..ลมแรง..ท้องฟ้าขมุกขมัว..ไร้แดด..
มืดค่ำ..ก็ทานอาหารญี่ปุ่นผสมอาหารไทยพื้นเมือง (มาม่า/ไก่ย่างวิเชียร/ข้าวเหนียว ฯลฯ) พร้อมสรรพด้วยเครื่องดื่มคลายหนาว (ตอนนี้คิดถึงลุงพี..ไวนท์ท้อแท้..)
พอได้ระดับตึงๆ..ก็เข้าไปซุกในเต็นท์ อุณหภูมิคืนนั้นเห็นเจ้าหน้าที่บอกว่าน่าจะต่ำกว่า 15 องศา ตื่นเช้ามาก็ทานกาแฟต่างประเทศ (กาแฟซองที่เก็บมาจากโรงแรมในต่างประเทศ) พร้อมกับอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นอีกรอบ (มาม่า) จิงๆมี ตชด.ทำโจ๊กขาย แต่คิวยาวเลยทำกินกันเอง มาม่าและขนมเตรียมมาเพียบ
ไม่นานหลังจากตื่นนอน ซักหกโมงนิดๆ..เสียงคลื่นมหาชนพร้อมเสียงรถยังกะถูกบุกโจมตี..ยอดเขากระโจมแปรสภาพเป็นตลาดนัดขึ้นมาทันที..วุ่นวายเจี๊ยวจ๊าว..จนรู้สึกเซ็งมากกว่า..โดยเฉพาะภาพคนทิ้งขยะแบบมักง่าย..เสียงตะโกนโหวกเหวก..เบียดแย่งถ่ายรูป...ตลาดนัดเขากระโจม..
อยู่รอจนผู้คนทยอยกลับลงเขา..ความสงบจึงเริ่มกลับคืนมา..ได้โอกาสถ่ายภาพกับธรรมชาติสวยๆ (สังเกตุเสื้อผ้าชุดเดิม..มะต้องอาบน้ำ..หนาวจะตาย ..ซักแห้งเป็นพอ..ห้องน้ำก็แย่งกันใช้..มาได้อาบตอนเก้าโมงกว่าที่คนส่วนใหญ่ลงเขากันไปแล้ว)
ลงจากเขา..พบเจอเพื่อนใหม่ที่ให้ประสบการณ์สุดพิเศษที่ไม่เคยคิดว่าจะได้สัมผัส ..
ลงจากเขากระโจม..ก็พาเพื่อนใหม่ไปเลี้ยงข้าวตอบแทน..แล้วพาเพื่อนไปบ้านคา..ดูที่ดินแปลงใหม่ที่ประมูลซื้อได้..งานเข้า..เพื่อนเกิดสนใจที่แปลงใหม่ที่นายหน้าพาไปดู..ติดน้ำติดถนน..สงสัยจะได้เพื่อนไปอยู่ด้วย..เห็นเอาจิงเอาจัง..
- บล็อกของ ตั้ม
- อ่าน 12367 ครั้ง
ความเห็น
มนต้นกล้า
8 พฤศจิกายน, 2010 - 20:18
Permalink
พี่ตั้ม..ตลาดนัดเขากระโจม
วันที่เจอกัน ที่สวนพี่น้อย
จำไม่ได้ว่าพี่แก้ว หรือ พี่ตั้ม บอกว่าอยากไปภูชี้ฟ้า........
คงจะได้เจอ.....ตลาดนัดภูชี้ฟ้าเหมือนกัน ถ้ากางเต้นท์นอน จะได้ยืนเสียงแตร รถกะบะเล็ก พานักท่องเที่ยวไปปล่อยตั้งแต่ ตี่4
พี่เอ๋ย.........จำฝังใจ นักท่องเที่ยวเยอะเกินไม่เหมือนเดิมแล้วพี่..........
ฉันจะปลูก ผัก ให้ลูกทาน
satjang
8 พฤศจิกายน, 2010 - 20:23
Permalink
ภูชี้ฟ้า
เพื่อนไปมาเมื่อปีที่แล้ว บอกว่าสุดยอดของความเละ ไม่มีทีพัก รถติด ...แย่งกันทาน หากไปเที่ยวหน้าเทศกาลก็จะเจอแบบเอ๋ว่าอะ
...2553 ปีที่ 1 ที่เริ่มเดินตามรอยพ่อ...
ตั้ม
9 พฤศจิกายน, 2010 - 05:17
Permalink
ภูชี้ฟ้า..ต้องไปช่วง..
พี่เคยไปภูชี้ฟ้าเมื่อ7-8 ปีก่อน ไปกับเพื่อนสี่ครอบครัวนี้แหละ..ไปพักโฮมเสตย์ของชาวเขาเกือบถึงยอดภูแล้ว..ประมาณตีสี่ตื่นมา มองดูลงไปเห็นไฟจากหน้ารถยาวไล่ตามกันมาเป็นแถวยาวเป็นกิโล คุยกะเพื่อนว่าโชคดีของเราที่ขึ้นมาก่อน(แต่ช่วงที่ขึ้นมาถึงเกือบห้าโมงเย็น แถวที่พักก็โกลาหลพอสมควรเพราะจุดนี้เขาให้พักปักเต็นท์ด้วย คนมาช่วงเย็นเยอะมาก พี่เช่าบ้านแต่ก็มานอนเต็นท์กันเพราะหนาวมากในบ้านเอาไม่อยู่ ดีหน่อยตรงที่ปักเต็นท์อยู่หน้านพักและอยู่ตรงตรงหน้าผามองลงมาเห็นข้างล่าง) พอตีห้าเริ่มจะเคลื่อนขบวนไปภูชีฟ้า ขนาดออกเช้านะ รถยังติดเป็นแถว หาที่จอดลำบากมาก นึกว่าจะไม่ได้ไปดูทะเลหมอกเสียแล้ว แต่ก็หาที่จอดตามไหล่ทางจนได้(เดินไกลหน่อย) แต่ยอมรับนะว่าตั้งแต่ไปเที่ยวมา ทะเลหมอกที่นี่สวยและประทับใจที่สุด กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา และคงสภาพอยู่หลายชั่วโมงและได้ไปดูทะเลหมอกอีกที่ที่ผาตั้งด้วยอยู่ใกล้ๆกัน สวยมากๆขอบอก
พี่เคยไปทั้งภูกระดึง ภูเรือ ภูชี้ฟ้า แนะนำเลยว่า ครั้งหนึ่งของชีวิตที่ใครหลายคนใฝ่ฝันจะขึ้นภูกระดึง ภูชี้ฟ้าก็เป็นอีกแห่งที่น่าไปมาก (ต้องเป็นหน้าหนาวแต่ไม่ใช่ long weekend ) พี่ก็ว่าจะหาโอกาสไปอีกครั้ง
เรื่องภูกระดึง เพื่อนอีกกลุ่มนึงชวนไปขึ้นวันที่ 15-18 พย.นี้ จองบ้านพักป่าไม้ที่ดีที่สุดไว้ (เขาคุยว่างั้น โทรมาเช้าเย็นบอกอยากให้เอาครอบครัวไปด้วย อยากไปอยู่เหมือนกันแต่ลูกติดเรียน แฟนติดงาน-งานเข้าทั้งคู่ คิดหนัก) ทีแรกว่าจะไปคนเดียว ลูกสาวบอกถ้าพ่อไป เด๋วพ่อก็ไม่อยากไปกะหนูกะแม่อีก กำลังตัดสินใจอยู่ เอาไงดีหว่า...
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
น้ำหวาน
8 พฤศจิกายน, 2010 - 20:44
Permalink
มาเที่ยวกะพี่ตั้ม
หวานว่าจะตามมาเที่ยวด้วย แต่ดูแก๊งค์พีตั้มแล้ว
สรุปว่าหวานขอลงกลางทางดีกว่าค่ะ
ไม่ใช่ไม่ไว้ใจแก๊งพี่นะ แต่ไม่ไว้ใจตัวเองมากกว่าอิ อิ อิ
บรรยายภาพได้หนุกจริงๆค่ะ โดยเฉพาะภาพตลาดนัด
หวานเห็นภาพเลยค่ะคิกๆๆๆๆๆๆ
ชวิน
9 พฤศจิกายน, 2010 - 00:01
Permalink
ชายโสด
จริงๆ บรรยากาสน่าเที่ยวมากสมบุกสมบัน ตามสภาพคนโสด ( จิงป่าวเนี่ย)
พอเพียงเพื่อเพียงพอ
jabee_68@hotmail.co.th
นนท์
9 พฤศจิกายน, 2010 - 11:56
Permalink
อิจฉา
อิจฉา ไม่ต้องบรรยาย.......
อากาศดี แต่เส้นทางโหดดี.คับ
NONT..
Aew Ja.
9 พฤศจิกายน, 2010 - 12:03
Permalink
น่าเที่ยว...
น่าเที่ยวจัง..บรรยากาศดีมาก มาก ดูแต่รูปก็เหมือนได้ไปเอง...คงโหด...ทรหด...น่าดู...
สายพิน
9 พฤศจิกายน, 2010 - 12:18
Permalink
เขากระโจม
ขอบคุณที่นำภาพมาฝาก
ขึ้นเขากระโจมท่าทางจะเอาเรื่องไม่ใช่เล่น ไปกันหลายคนอย่างนี้ ต้องมีเรื่องเล่าเยอะเลย
มานี มานะ วีระ ชูใจ
10 พฤศจิกายน, 2010 - 09:54
Permalink
คิดถูกแล้วครับ
ด้วยสภาพพื้นที่แบบนี้...
เป็นผมก็คงไม่พา...ลูกไปด้วยแน่..
ฝนฟ้าอากาศก็ยังมิแน่นอน..
ดีนะครับตอนที่พี่ไป...ถนนสายนี้ ไม่มีโคลน
ไม่อย่างนั้นแหละก็....ผมยังสงสัยตอนแรกว่าพี่ไปคันเดียวได้งัยตอนแรก
ตอนนี้โล่งแจ้ง...
เป็นเพียงแค่มดตะนอย ตัวจ้อยจิด ทีพลัดติดกลางช่อ พอเพียงใหญ่
คือหนึ่งเสียงหนึ่งคิดเห็น ที่เป็นไป อาจถูกใจหรือไม่บ้าง ลองชั่งดู
หน้า