ปุ๋ยกับต้นไม้ ใช้ปุ๋ยให้เป็นต้นไม้ก็งาม

ต้นไม้จะเจริญงอกงามเติบโตแข็งแรงสมบูรณ์ได้นั้น นอกเหนือจากการดูแลเอาใจไส่ รดน้ำพรวนดินแล้ว เรายังต้องไส่ปุ๋ยให้มันด้วย เพราะพืชจำเป็นต้องนำธาตุอาหารต่างๆที่มีอยู่ในปุ๋ยมาใช้ในการเจริญเติบโต ปุ๋ยมีให้ใช้มากมาย หลายอย่างด้วยกัน แต่จะใช้ปุ๋ยอย่างไรให้ถูกวิธี

ก่อนที่คุณจะไปซื้อปุ๋ยมาใช้ก็ควรศึกษาหาข้อดีข้อด้อยเสียก่อน ว่ามีผลเสียในระยะยาวหรือไม่ ศึกษาข้อมูลก่อนนำมาใช้

ปุ๋ยอินทรีย์ : ได้แก่ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยเหล่านี้มีธาตุอาหารทุกอย่างครบถ้วนตามที่พืชต้องการ แต่มีปริมาณน้อย มีคุณสมบัติทำให้ดินร่วน โปร่ง ถ่ายเทอากาศได้ดี ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน

ปุ๋ยชีวภาพ : คือ ปุ๋ยที่มีจุลินทรีย์ชนิดที่มีประสิทธิ์ภาพสูงเป็นส่วนผสมอยู่ในปริมาณมาก เมื่อเติมลงดินแล้วทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์  หรือทำให้พืชได้รับประโยชน์จากธาตุอาหารในดินมากขึ้นอันเนื่องมาจากกิจกรรมของจุลินทรีย์ในดิน

ปุ๋ยเคมี: ส่วนใหญ่มีองค์ประกอบเป็นสารอนินทรีย์ (ยกเว้นปุ๋ยยูเรียซึ้งมีองค์ประกอบเป็นสารอินทรีย์) ให้ธาตุอาหารสูง ให้ผลเร็ว ชัดเจนแต่มีข้อเสียคือ หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้ดินเสื่อมสภาพ

ปุ๋ยใช้งานได้สองประเภท ดังนี้คือ

ปุ๋ยทางดิน: ใช้โรยรอบๆปากกระถาง หรือโรยลงไปลอบๆต้นไม้ และรดน้ำตาม เพื่อให้ปุ๋ยซืมลงในดินช้าๆ

ปุ๋ยทางใบ: มีทั้งในรูปแบบผง, แบบเกร็ด และแบบน้ำใช้ฉีดพ่นทางใบ ปุ๋ยชนิดนี้จะให้ผลเร็วและชัดเจน เพราะพืชสามารถนำไปใช้ได้ทันทีไม่ต้องผ่านดิน ราก และลำต้นขึ้นมา การให้ปุ๋ยทางใบ ควรผสมปุ๋ยเข้ากับน้ำ โดยฉีดพ่นในช่วงสายๆ ซึ่งเป็นช่วงที่พืชสังเคราะห์แสงและรูปากใบเปิด ควรไส่ปุ๋ยในช่วงไม่เกิน 9 โมงเช้า

แต่พืชที่ต้องให้ปุ๋ยในตอนเย็นก็มีเช่นกัน โดยเฉพาะพืชจำพวก "กระบองเพชร" (แคคตัส) เป็นพืชที่รูปากใบเปิดในช่วงตอนกลางคืน

และปุ๋ยอีกชนิดนึงที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก คือ "ปุ๋ยปลา"

ปุ๋ยปลา คือ ปุ๋ยที่ได้จากการนำเศษปลาจากโรงงานไปหมัก ซึ่งมีแร่ธาตุไนโตรเจนสูง จึงเห็นได้ว่าเวลานำมาใช้ผสมน้ำฉีดพ่นไปที่ต้นพืช ใบจะเขียวสวยทันที

อย่างไรก็ดี การเลือกซื้อปุ๋ยปลา ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่นบริษัทที่ผลิตปุ๋ยปลา ซึ่งมีการนำไปตรวจวิเคราะห์ทางเคมี ก็จะได้ธาตุไนโตรเจนที่พืชนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสาร "บ้านและสวน" ฉบับที่ 402 ค่ะ ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล