บ้านสร้างเอง

ความแข็งแรงของก้อนอยู่ที่ผู้ผลิตครับ หากผู้ผลิตผลิตตามขั้นตอนของ (วว.) ตั้งแต่ดินที่นำมาผลิตต้องมีก้อนกรวดปนทรายบ้างเพื่อความแข็งแรงของก้อน หากดินเป็นเนื้อฝุ่นดินมากซึ่งก้อนจะสวยเนียนแต่ความแข็งแรงจะน้อยกว่า ส่วนผสมของปูนต้องเป็นไปตามสัดส่วนของดิน ประมาณดิน 7 ปูน 1 และต้องเป็นปูนปอตแลนด์(ปูนที่ใช้งานโครงสร้าง หล่อเสา เทคาน)จะแข็งแรงกว่าปูนก่อฉาบ และตอนผสมกับดิน เนื้อปูนต้องเข้ากันกับดินอย่างสม่ำเสมอ คือต้องใช้เวลาให้เครื่องผสมได้ระยะเวลา เมื่ออัดก้อนเรียบร้อยต้องบ่มก้อน 20 วัน หากผู้ผลิตผลิตตามที่กล่าวมา ก้อนก็จะแข็งแรงแน่นอนครับ ไม่กร่อนโดนแดดโดนฝนก็ไม่เป็นไรครับ และก้อนหลังจากนำมาใช้งานจะเพิ่มความแข็งในตัวเพิ่มขึ้นอีกในระยะเวลา 2 ปีครับหลังจากนั้นก็จะอยู่ตัวครับ ตอนนี้ที่ผมผลิต ถ้าใช้งานจัดสวนซึ่งไม่ต้องรับน้ำหนักมากก็ก้อนละ 10 บาท อัตราส่วน 7 ต่อ 1 ถ้างานก่อสร้าง ก้อนละ 13 บาทครับเนื่องจากอัตราส่วนของปูนจะมากกว่า นอกจากนี้สามรถเพิ่มอัตราส่วนของปูนได้ตามความต้องการของลูกค้า แต่ราคาก้อนจะสูงตามด้วยครับ แต่สัดส่วนมาตรฐานที่เหมาะสำหรับผู้ผลิต และความแข็งแรงในการใช้งานของผู้ซื้อ คือ 7 ต่อ 1 ครับ  เวลาละลายปูนหยอดรูก็ให้พอเหลว ๆ พอหยอดได้ครับ อาจจะใช้กรวย ช่วย หรือ บัวรดน้ำถอดหัวออกครับ เมื่อหยอดลงไปแล้วใช้เหล็กแยงรูเพื่อให้ปูนที่หยอดแน่นครับ

ความแข็งแรงของก้อนอยู่ที่ผู้ผลิตครับ หากผู้ผลิตผลิตตามขั้นตอนของ (วว.) ตั้งแต่ดินที่นำมาผลิตต้องมีก้อนกรวดปนทรายบ้างเพื่อความแข็งแรงของก้อน หากดินเป็นเนื้อฝุ่นดินมากซึ่งก้อนจะสวยเนียนแต่ความแข็งแรงจะน้อยกว่า ส่วนผสมของปูนต้องเป็นไปตามสัดส่วนของดิน ประมาณดิน 7 ปูน 1 และต้องเป็นปูนปอตแลนด์(ปูนที่ใช้งานโครงสร้าง หล่อเสา เทคาน)จะแข็งแรงกว่าปูนก่อฉาบ และตอนผสมกับดิน เนื้อปูนต้องเข้ากันกับดินอย่างสม่ำเสมอ คือต้องใช้เวลาให้เครื่องผสมได้ระยะเวลา เมื่ออัดก้อนเรียบร้อยต้องบ่มก้อน 20 วัน หากผู้ผลิตผลิตตามที่กล่าวมา ก้อนก็จะแข็งแรงแน่นอนครับ ไม่กร่อนโดนแดดโดนฝนก็ไม่เป็นไรครับ และก้อนหลังจากนำมาใช้งานจะเพิ่มความแข็งในตัวเพิ่มขึ้นอีกในระยะเวลา 2 ปีครับหลังจากนั้นก็จะอยู่ตัวครับ ตอนนี้ที่ผมผลิต ถ้าใช้งานจัดสวนซึ่งไม่ต้องรับน้ำหนักมากก็ก้อนละ 10 บาท อัตราส่วน 7 ต่อ 1 ถ้างานก่อสร้าง ก้อนละ 13 บาทครับเนื่องจากอัตราส่วนของปูนจะมากกว่า นอกจากนี้สามรถเพิ่มอัตราส่วนของปูนได้ตามความต้องการของลูกค้า แต่ราคาก้อนจะสูงตามด้วยครับ แต่สัดส่วนมาตรฐานที่เหมาะสำหรับผู้ผลิต และความแข็งแรงในการใช้งานของผู้ซื้อ คือ 7 ต่อ 1 ครับ  เวลาละลายปูนหยอดรูก็ให้พอเหลว ๆ พอหยอดได้ครับ อาจจะใช้กรวย ช่วย หรือ บัวรดน้ำถอดหัวออกครับ เมื่อหยอดลงไปแล้วใช้เหล็กแยงรูเพื่อให้ปูนที่หยอดแน่นครับ

บล็อกประสานเป็นอิฐใช้ก่อสร้างในระบบผนังรับน้ำหนักครับ ตัวอิฐจะหนาครับ ความแข็งแรงจากการทดสอบกำลังอัดจะทนแรงอัดกว่าอิฐชนิดอื่น ๆ ที่มี และกันความร้อนกว่าอิฐอื่นด้วยครับ หากใครได้เข้าไปเยี่ยมชมบ้านบล็อกประสานเวลาเข้าไปจะรู้สึกได้ครับว่าเย็นสบาย ถ้ามีโอกาสผ่านไปแถวเขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา ทางสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ ได้เปิดศูนย์ให้ชาวบ้านและผู้สนใจได้ศึกษาบ้านบล็อกประสานได้เข้าเยี่ยมชม มีทั้งหลังใหญ่ หลังเล็ก อาคารขนาดใหญ่ครับ

      พูดถึงการสร้างบ้านบล็อกประสานถ้าสร้างตามวัตถุประสงค์ของบล็อก ก็คือสร้างง่าย บล็อกออกแบบมาให้มีเดือยง่ายต่อการเรียงเพื่อให้ผู้สร้างที่ไม่มีความชำนาญสามารถเรียงอิฐได้ตรง ไม่ต้องหล่อเสาเพราะผนังอิฐจะรับน้ำหนักในตัว เมื่อขึ้นชั้นสองก็สามารถวางแผ่นพื้นสำเร็จรูปลงบนผนังอิฐได้เลย แต่ผังห้องชั้นล่างต้องตรงกับชั้นบน ดังนั้นถ้าก่อสร้างในรูปแบบบล็อกประสาน 100 เปอร์เซ็นต์ก็จะมีข้อจำกัดในเรื่องผังห้องครับ แต่ถ้าเราต้องการอิสระในผังห้องเช่นชั้นล่างไม่ต้องการมีผนังที่ตรงกับผนังด้านบน ก็ควรที่จะเอาระบบคานมาผสมครับเพื่อความแข็งแรง หลายคนอาจจะรู้สึกว่าถ้าบ้านไม่มีเสามีคานแล้วจะแข็งแรงได้ยังไง ขอทำความเข้าใจว่าปัจจุบันระบบการก่อสร้างบ้านจะมีอยู่หลัก 2 แบบที่เราเห็นก่อสร้างทั่วไปคือ ระบบเสา คาน จะใช้เสา ใช้คานเป็นโครงสร้างรับน้ำหนัก และระบบผนังรับน้ำหนัก คือใช้ผนังเป็นตัวรับน้ำหนักแทนเสา คาน แต่ผนังต้องหนาและแข็งแรง ซึ่ปัจจุบันบ้านจัดสรร อย่างใน กทม.ก็จะใช้ระบบผนังรับน้ำหนักเป็นส่วนมาก คือจะใช้ผนังสำเร็จรูปมาประกอบกัน หากลองเข้าไปดูในบ้าน จะไม่เห็นเสา คานเลยครับ เพราะผนังจะหล่อสำเร็จมา เว้นเป็นช่อง ประตุหน้าต่างมาเสร็จ บล็อกประสานก็เช่นกัน เป็นผนังรับน้ำหนัก เพียงแต่เราต้องมาก่อขึ้นเอง ไม่สำเร็จรูปเหมือนผนังคอนกรีตครับ ก็ลองศึกษาดูครับ เอารูปบ้านบล็อกประสานหลังใหญ่ ๆ มาฝากครับ ออกมาเหมือนบ้านอิฐสไตล์ฝรั่งเลยครับ