ถึงชายชราที่รัก

หมวดหมู่ของบล็อก: 

เกือบปีแล้วที่ไม่ได้เจอกัน ไม่ได้คุยกันได้แค่ถามสาระทุกข์สุขดิบผ่านคนรักอีกคน


ชายชราที่รักเป็นคนพูดน้อยไม่ชอบพูดคุยผ่านโทรศัพท์............... 


เย็นวันที่ 11 มกราคม 2554 ได้มีโอกาสเดินทางไกลไปหาชายชราที่รัก


ซื้อตั๋วรถทัวร์ เพื่อเดินทางจาก กรุงเทพกลับสู่ถิ่นกำเนิดอีกครั้ง


 


ตัวยังอยู่ กทม. แต่ใจ....ลิงโลดไปไกลหลายร้อยกิโล


สิบเอ็ดชั่วโมงที่ต้องทนนั่งบนรถแสนจะเมื่อยล้า


ตื่นมาดูเวลาเป็นระยะๆ หกโมงเช้า ใกล้แล้ว


ใกล้จะถึงที่หมายแล้ว...โทรศัพท์ดังขึ้นมาทันที ถึงไหนแล้ว


ใกล้หรือยัง...เดียวออกไปรับ


.......ใกล้ถึงแล้ว........


โอ้.....สุดท้ายก็ถึงที่หมาย


 


เก็บสัมภาระต่างๆ ลงจากรถ


สิ่งที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าคือรอยยิ้มอันอบอุ่นของชายชราที่รักมายืนรอรับ


คิดในใจอยากวิ่งเข้าไปกอดเหลือเกิน.......................


 


มีความสุขทุกครั้งที่ได้กลับบ้านแม้ว่าจะอยู่เพียงแค่ไม่กี่วัน


พ่อก็คือพ่อ ไม่ว่านานแค่ไหนพ่อก็ยังรักและห่วงใยลูกเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน


แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือ พ่อผอมลงมาก,ผมขาวเริ่มจะมากกว่าผมดำ


 


เย็นวันเสาร์ที่ 15 มกราคม 2554 ได้เวลาเดินทางกลับ


เข้าไปกราบขอพรจากพ่อ


เสร็จแล้วก็บอกพ่อว่า...ขอกอดหน่อยนะ


พ่อยิ้มเป็นการตอบรับในที่สุดพ่อกับลูกก็ได้กอดกัน.........


 


นานแค่ไหนแล้วที่คุณไม่ได้กอดท่าน เราควรจะแสดงความรักต่อท่านก่อนที่ท่านจะไม่อยู่ให้เรากอด


 


By : tantawan-ตะวัน


 

ความเห็น

พ่อเห็นชุดนี้ของลูกคงจะภูมิใจมาก เป็นภาพที่น่าประทับใจมากจ๊ะ  ขอบคุณตะวันที่ลงรูปให้ดูจ๊ะ  ดูแลพ่อแม่ให้ดีตอนที่เรายังมีโอกาส แล้วเราจะได้ภูมิใจ ไม่ต้องมาเสียดายทีหลังว่าทำไมตอนนั้นเราไม่ทำแบบนั้น แบบนี้กับพ่อแม่เรานะ  ขนาดพี่กับยายอยู่บ้านอาบน้ำให้ทุกวัน เอาข้าวมานั่งกินด้วยกัน คือตอนหลังยายเดินไม่ได้แล้ว พี่ก็ยกสำรับมากินกับยายตรงนั้นกันทั้งบ้านเลย นอนด้วยกันทุกวันจนวันสุดท้าย พี่ยังเก็บมาฝันเลยว่าอยากกอดยายให้นาน ๆ ทั้ง ๆ ที่ก็ได้กอดกันมาเรื่อย ๆ แต่กับพ่อ จะสนิทกับพ่อมากกว่าแม่อีกเพราะพ่อไม่ดุตอนเด็ก ๆ อยู่ประถมก็กอดกับพ่อ แต่แม่ไม่เคยกอด กลัวแม่นะ (แม่ดุกว่า อิอิ) แต่โตมาบอกตรง ๆ ว่าจนอายุป่านนี้ก็ไม่เคยกอดพ่อมานานแล้วเหมือนกัน แต่โชคดีที่ได้อยู่ด้วยกันทั้งครอบครัวทุกวัน

แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง

 

วันรับพ่อไม่ได้ไปถ่ายรูปด้วย เลยหอบชุดไปถ่ายกับพ่อที่บ้าน


สลับกันเนอะ ตะวันสนิทกับแม่มากกว่าพ่อเพราะพ่อดุมาก

ซาบซึ้ง...น้องตะวันก็คงอายุพอกับลูกสาวพี่เกิด24..(กลายเป็นผู้ถูกกอด)เป็นการที่ถูกกอดทางจิตยากจะบรรยาย..น้ำตาจะใหลมาเอง..มันอบอุ่น ไร้กังวน มีความสุข พร้อมหน้า..บ้งเอิญโชคดีอยู่ใก้ลกันตลอด ไม่ห่างเท่าได

เกิดปีเดียวกันเลยค่ะ ตอนกอดพ่อยิ้มทั้งหน้ายิ้มทั้งตาค่ะเป็นรอยยิ้มที่อบอุ่นมากเลย

ซึ้งเลย  น้องหวันเห้อ

เขียนออกมาจากใจค่ะ เผลอแป๊บเดียวร่ายมาซะยาวเลย

:shy: พ่อพี่ไม่อยู่ให้กอดแล้วเหมือนกัน ...........:desperate:

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

:love:  กอดแม่ก็อุ่นเหมือนกันค่ะ

การบำรุงบิดามารดา เป็นมงคลชีวิต


ท่านว่าพ่อแม่นั้นเปรียบได้เป็นทั้ง ครูของลูก เทวดาของลูก พรหมของลูก และอรหันต์ของลูก ความหมายโดยละเอียดมีดังต่อไปนี้คือ


ที่ว่าเป็นครูของลูก เพราะว่าท่านได้คอยอบรมสั่งสอนลูก เป็นคนแรกก่อนคนอื่นใดในโลก


ที่ว่าเป็นเทวดาของลูก เพราะว่าท่านจะคอยปกป้อง คุ้มครอง เลี้ยงดู ประคบประหงมมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก บำรุงให้เติบใหญ่เป็นอย่างดี ไม่ให้เกิดอันตรายต่อลูกในทุกด้าน


ที่ว่าเป็นพรหมของลูก เพราะว่าท่านมีพรหมวิหาร ๔ นั่นก็คือ มีเมตตา หมายถึงความเอ็นดู ความปรารถนาดีต่อลูกในทุกๆด้าน ไม่มีที่สิ้นสุด มีกรุณา หมายถึงให้ความกรุณาต่อลูก ลูกอยากได้อะไรก็หามาให้ลูก ให้การศึกษาเล่าเรียน ส่งเสียเท่าที่มีความสามารถจะให้ได้ มีมุทิตา หมายถึงความรักที่ยอมสละได้แม้ชีวิตของตัวเองเพื่อลูก ยอมเสียสละได้ทุกอย่าง และมีอุเบกขา หมายถึงการวางเฉย ไม่ถือโกรธเมื่อลูกประมาท ซน ทำผิดพลาดเพราะความไร้เดียงสา หรือเพราะความไม่รู้


ที่ว่าเป็นอรหันต์ของลูก เพราะว่าท่านมีคุณธรรม ๔ ประการอันได้แก่


เป็นผู้มีอุปการะคุณต่อลูก คืออุปการะเลี้ยงดูมาด้วยความเหนื่อยยาก กว่าจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่


เป็นผู้มีพระเดชพระคุณต่อลูก คือให้ความอบอุ่นเลี้ยงดู ปกป้องจากภยันตรายต่างๆ นานา


เป็นเนื้อนาบุญของลูก คือลูกเป็นส่วนหนึ่งของกรรมดีที่พ่อแม่ได้ทำไว้ และเป็นผู้รับผลบุญ ที่พ่อแม่ได้สร้างไว้แล้วทางตรง


เป็นอาหุไนยบุคคล คือเป็นเหมือนพระที่ควรแก่การเคารพนับถือและรับของบูชา เพื่อเทอดทูนไว้เป็นแบบอย่าง


การทดแทนพระคุณบิดามารดาท่านสามารถทำได้ดังนี้


ระหว่างเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็เลี้ยงดูท่านเป็นการตอบแทน ช่วยเหลือเป็นธุระเรื่องการงานให้ท่าน ดำรงวงศ์ตระกูลให้สืบไปไม่ทำเรื่องเสื่อมเสีย รวมทั้งประพฤติตนให้ควรแก่การเป็นสืบทอดมรดกจากท่าน ครั้นเมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ก็ทำบุญอุทิศกุศลให้ท่าน ส่วนการเป็นลูกกตัญญูต่อพ่อแม่ในคำสอนของพระพุทธเจ้าท่านกล่าวว่าไว้ดังนี้


๑.ถ้าท่านยังไม่มีศรัทธา ให้ท่านถึงพร้อมด้วยศรัทธา คือพยายามให้ท่านมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา เชื่อในเรื่องการทำดี


๒.ถ้าท่านยังไม่มีศีล ให้ท่านถึงพร้อมด้วยศีล คือพยายามให้ท่านเป็นผู้รักษาศีล ๕ ให้ได้


๓.ถ้าท่านเป็นคนตระหนี่ ให้ท่านถึงพร้อมด้วยการให้ทาน คือพยายามให้ท่านรู้จักการให้ด้วยเมตตาโดยไม่หวังผลตอบแทน


๔.ถ้าท่านยังไม่ทำสมาธิภาวนา ให้ท่านถึงพร้อมด้วยปัญญา คือพยายามให้ท่านหัดนั่งทำสมาธิภาวนาให้ได้

พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง

ขอบคุณค่ะลุงพี ...

หน้า