จริงหรือไม่ ประเทศไทยใช้สารเคมีเป็นอันดับหนึ่ง

วันนี้พัทลุง อากาศมืด ๆ มัว เดี่ยวมีแดด เดี่ยวมืด จะเอางัยก็ไม่รู้ ทำงานบ้านพลาง เปิดทีวีพลาง ได้ยินแว่ว ๆ เกี่ยวกับข่าวเรื่องพืชผักที่ส่งออกมีสารเคมี หรือแมลงปนเปื้อน ทำให้เกิดปัญหาในการส่งออก แต่ได้ยินต่อไปอีกว่าประเทศไทย ใช้สารเคมีมากเป็นอันดับหนึ่ง จริงหรือนี่ เป็นไปได้หรือ?  แล้ว ความปลอดภัยในการบริโภคพืชผัก ของเราจะอยู่ในอันดับที่เท่าไหร่ ทำไมคนไทยถึงเป็นโรคมะเร็ง กันมากมาย


แล้วชีวิตเราจะสั้น หรือยืนยาวแค่ไหน ต้องบริโภคพืชผักที่มีสารพิษกันต่อไปมากมายขนาดไหน..... ฉุกคิดขึ้นมาแล้วเศร้า.... อีกไม่นานแล้วเหรอ.... ปลูกผักกินเองกันเถอะค่ะ ถ้าเหลือก็แจกมาทางนี้ ยินดีรับ.... อิอิ....

เรื่องข้าวคงลำบากแล้ว เพราะเอานามาปลูกยางหมดแล้ว มีหวังกินข้าวสารปนยาพิษไปจนตายแหละ....


 

คนปลูกผักขาย เขาก็ไม่กินผักที่ขาย ส่วนที่จะกิน เขาเอาไว้อีกแปลง แต่เราจะไปซื้อเขากินทำไม มาปลูกผักตามพี่แจ้วดีกว่า 

 

พี่ก็จะปลูกเหมือนแก้วเช่นกันค่ะ.... มีผักกินทุกวัน ประหยัดและปลอดภัยกว่าการออกนอกบ้านไปซื้อมาทาน แม้จะซ้ำซาก ไปบ้าง แต่ก็ดีกว่ากินสารพิษจริงมั๊ยคะ

แก้วนึกถึงที่ผู้ใหญ่โส กะ พี่ทราย เล่าเรื่องฟูราดานแล้ว ยังขนลุกตลอดเลย

อยากให้พี่น้องเราทุกคนมีสวนครัวน้อยๆ ไว้กินในครอบครัวจัง 

 

 

 
นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายวิชาการเตือนภัยสารเคมีเกษตรและอาจารย์คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ระบุว่าขณะนี้ทั่วโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของสารปนเปื้อนในพืชผักอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศที่พัฒนาแล้ว ได้แก่ ยุโรป สหรัฐฯ และแคนาดา ซึ่งในกลุ่มประเทศเหล่านี้พบว่าสถิติการเสียชีวิตของประชากรประมาณร้อยละ 44 เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ดังนั้นประเทศเหล่านี้จึงมีความเข้มงวดในการควบคุมดูแลสารปนเปื้อน ขณะที่ไทยยังไม่มีมาตรการที่เข้มงวดเพียงพอ

ติดตามรายละเอียดได้ที่นี่

http://www.thaipbs.or.th/s1000_obj/lite/html/news_detail.asp?content_id=290863

น่ากลัวจังเลย ที่ผ่านมาเรากินเข้าไปสักเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ เพิ่งมาตื่นตัวเอาตอนนี้มันอาจจะสายเกินไปแล้วก็ได้.... แต่ขอให้เวลาที่เหลืออยู่ยังพอจะมีประโยชน์สำหรับชีวิตน้อย ๆ ของลูกเราก็แล้วกันค่ะ

เสียใจ ทัอใจ ในเรื่องอะไร ... จากชีวิตเกษตรกรปลูกผักปลอดภัย

 

  1. เมื่อส่วนใหญ่ คิดเช่นนั้น มีผลกระทบองค์รวม
  2. ช่วงนี้มีงานเกษตรในหลายๆจังหวัด แต่ราคาผักโดยรวม ถูกมากๆ ไม่มีที่จะให้พวกเรายืน( ราคาส่งตลาดกลาง)
  3. ปลูกผักเอง กินเอง เป็นแนวทางปลอดภัย แต่พวกเราที่ประกอบอาชีพ หรือขายผักเลี้ยงชีวิต(ผักปลอดภัย) ก็มีผลกระทบ อีก
  4. ปลูกผัก พืช ให้สัตว์กิน ต้องใช้ ผัก ๓๐กก. ได้เนื้อสัตว์ ๑กก. (แทนจะให้คนกินโดยตรง) .. นำเสนอข้อมูลให้ได้ทราบ
  5. ศักดิ์ศรี และภูมิคุ้มกัน ก็ไม่มี หรือมีน้อย ถ้าที่ทำนามีเพียงพอ ดินดี น้ำดี ก็พอจะฝืนทน ใช้ชีวิตในชนบทห่างไกลได้บ้าง 
  6. มะเขือเปราะ มะเขือเทศ และพริกหอม พริกกะเหรี่ยง ไม่เคยใช้สารใดๆ ยอมให้หนอนเจาะลำต้น ผล แต่งกิ่งเอา ตามอุดมคติ ราคาปลีก ๒๐-๒๕บาท แต่ ถ้าออกเกินนิดเดียว ราคาปัจจุบัน ๕บาท ... อากาศก็ร้อนๆ แล้งๆ ... ไม่มีที่ให้ยืนจริงๆ
  7. ไม่ว่า อะไรจะเกิดขึ้น จะรักษา กาย ใจ ให้ ทางธรรม ให้แผ่นดิน พระองค์ท่าน ร่วมหาทางช่วยเหลือ เกษตรกร ชุมชนชนบท ได้พอมี พอกิน มากขึ้น แม้จะดูยาก และลางเลือน
  8. นาข้าวดีๆมีมากมาย อยู่คู่แผ่นดิน เป็นครัวของโลก แต่ผักดีๆ มีน้อยมาก แถมราคาบ้านนอก(ไม่ใช่เมืองนอก) ยากมากที่จะเป็นครัวของโลก ยกเว้นต้องปรับเปลี่ยน และร่วมกันจริงจัง
  9. สมาชิกจำนวนมากอยู่ภาคใต้ พยายามที่สุด ที่ผลิตอาหาร อิสลามที่มีคุณภาพ ให้ บรูไน สิงคโปร์ ตะวันออกกลาง เขามีน้ำมัน มีเงิน มีเศรษฐกิจ เทคโนโลยี่ เรามี น้ำ อาหาร อากาศ คน(ให้เข้ามาลงทุน และร่วมกับทุกภาคฯ จริงจัง)
  10. สำหรับอิสาน ยากมากถ้า ไม่มี ข้าว อ้อย ยางพารา ยูคาฯ ต้นยางนา มัน(???)(พืชเชิงเดียว ใช้ปุ่ยเคมี สารกำจัดวัชพืช และปัญหาโรค และอากาศ(แห้งแล้ง น้ำท่วม)
  11. สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน ต้องเข้ามามีบทบาทต่อเนื่อง และรวดเร็วกว่านี้
  12. ขอประทานโทษที่อาจทำให้ไม่สบายใจ แต่ก็ต้องทำหน้าที่ ที่ร่ำเรียนมา และเสียใจที่ทุ่มเททั้งชีวิต แต่ยังหาทางให้ เกษตรกร(ปลูกผักปลอดภัย) ยืนอย่างมั่นคง และมีรายได้ไม่ได้เพียงพอ โดยเฉพาะ อีสาน(นอกเขตชลประทาน)

เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ การทำปุ๋ยหมักตื่นตัว และสวนผักปลอดภัย

 

 

ไม่คิดเลยค่ะ ว่าแต่ละส่วนจะโดนผลกระทบกันไปหมด.... สู้ต่อไปนะคะพี่ 2s

ผู้ที่รัก และเรียนมาทางพืชผัก เมล็ดพันธุ์ แต่ก่อนที่ประสบความสำเร็จก็เพราะ ทำเป็นฤดู เฉพาะ ฤดูหนาว ได้คุณภาพ และส่งต่างประเทศตลอดมา (ทำงานภาคเอกชน) 

แม้ทำสวนไปพร้อมๆ กับช่วงที่ยังทำงานบริษัท(แต่ก็มีรายได้มาจากการทำงานบริษัท) แม้จะขาดทุน เพราะต้องจ้างคนงาน ดูแลสวน และทำเกษตรผสมผสาน หลายๆอย่างอยู่ได้ ๒-๓ปี แล้วก็ขาดทุน (หลังจากขยายโครงการมากขึ้น) ไม่ว่า หมู เห็ด เป็ด ไก่ ปลา นกกระทา ไม้ผล มะม่วง น้อยหน่า ไม้ดอก ดาวเรือง คัตเตอร์ กุหลาบ และมาจน ผักปลอดภัย เมื่อไม่มีรายได้จากงานประจำ และการปลูกอะไรหลายอย่าง เพื่อ อุดมการณ์ว่า ถ้าอดทน ขยัน ไม่เที่ยว ไม่เล่น(อบายมุข) จะมีความมั่นคงกว่า

แต่ ดินที่แย่กว่า ภาคอื่น อากาศที่แปรปรวน และไม่ได้อยู่ในเขตชลประทาน ต้องปลูกทั้งปี ดูแล ทุกๆครอบครัว ในขณะที่รายจ่ายสูงกว่ารายรับตลอด แต่มีลูกค้าประจำ(รายย่อยเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่มี รายใหญ่ เพราะ ปริมาณ และคุณภาพ ของการปลูกพืชผักผสมผสาน) มีแต่พลังคำชม อายุมากขึ้น ยิ่งกู้เงิน มีดอกเบี้ย ในขณะที่ บ้าน ที่ซื้อไว้ สร้างไว้ ให้ลูกๆ ที่ทำเลดีๆ ต้องขายออก ส่วนบ้านที่เก่า ก็พุพัง เกษตร ในอำเภอค่อนข้างใหญ่ ก็ไม่รอด ไม่ว่าจะ คิด ปรับเปลี่ยนอย่างไร

ที่แย่ที่สุด คือ ลูกๆ ภรรยา พลอยไม่มีเวลาพูดคุยกัน และเครียด กังวล จะมีใคร อยากบอกว่า พ่อเป็นเกษตรกร ปลูกผัก มีเด็กรุ่นใหม่กี่คน จะไม่อยากบอกว่า เป็นผู้จัดการ เป็นเจ้าของบริษัท พอทุกอย่างเซ รากฐานไม่แข็งแรง เพราะไม่ได้เดินตามพระองค์ท่านอย่างเคร่งครัดตั้งแต่แรกๆ

ฝากบทเรียนสำคัญที่สุดไว้ ด้วยคำเตือน ว่า อย่าทำการเกษตร เกิน ๕-๑๐% ของทุนที่มี หรือแม้แต่เวลาที่ใช้ไป และในแต่ละครอบครัว ต้องมีรายได้จากงานอาชีพ อื่นๆ ที่แม้จะใช้แรงงาน แต่ไม่เสี่ยง พอเจือจุนกัน ยามเจ็บไข้ การทุ่มแต่การเกษตรมากไป ก็เป็นการใช้ชีวิตที่อาจขาดความสมดุลย์ได้ (ความคิดเห็นส่วนตัว)

การทำสวนเกษตร แทบไม่มีโอกาสประสบความสำเร็จ ถ้าตั้งโจทย์ จากปลูกผัก หรือพืชเศรษฐกิจเชิงเดี่ยว ถ้าจะรอดยั่งยืน ก็ต้อง ทวนลม ทวนกระแส ให้ได้อย่าง ปราชญ์เดินดิน ปลูกอย่างวางแผน จัดการ และปลูกอย่างขี้เกียจ (๒๐% ดูแล ๘๐% ต้นไม้ ธรรมชาติดูแลเอง) จะมีทั้งเวลา ที่จะศึกษา และทำประโยชน์เดินทางไปช่วยเหลือ บรรยาย เรียนรู้ร่วมกัน ในที่ต่างๆได้ (มีเวลาไปวัด ปฎิบัติธรรมมากขึ้นกว่าทำเกษตรอะไรก็ตามทั้งวัน ทั้งเดือน ถ้าปลูกผักเป็นการค้าตลอดทุกฤดู)

(ถ้า ผู้ใหญ่โสทร อยู่แต่สวน ไม่ได้เดินทาง ทำกิจกรรม เรียนรู้ แบ่งปัน การสร้างรายได้ แนวคิดยั่งยืนยากจะเกิดขึ้นได้ แม้จะท่องไปตามโลกอินเตอร์เน็ตไร้พรมแดนก็ตาม แต่การรู้จัก เปิดตัว จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันอย่างดี และเป็นการสร้างฐาน หลักหลายๆฐานไว้ ให้ครอบครัว ญาติมิตร ในอนาคตด้วย ทั้งด้านวัตถุ และจิตใจ)

ด้วยเจตนาดี แต่ถ้ามีอะไรทำให้ไม่สบายใจ หรือเครียดที่พูดความจริง ที่พบ และอยู่มายาวนาน และดูเหมือนจะมองไม่เห็นความสำเร็จ และช่วงทางใดๆ จากการลงทุน ทำสวนเกษตรปลูกผักแนวทาง(ไม่มีระบบ ระเบียบ เช่นผม) แบบไม่มี Risk Management ควบคุม แบบที่ทำอยู่

บางที Risk Management Committee ในการทำเกษตร จำเป็นต้องมี และเข้มงวดยิ่งกว่า โครงการ หรือธุรกิจ หรือครัวเรือน ในการเกษตรทุกๆ คน เพราะ การได้ยิน การเป็นหนี้สิน การล้มเหลว การสูญเสียเวลา ทรัพยากร ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก จะได้ไม่เกิดขึ้นมาก หรือจำกัด วงเงินการสูญเสีย เสี่ยงภัย

ทำเป็นงานอดิเรก และใช้ชีวิตพอเพียง ในด้านเกษตร ร่วมกับ ชึวิตในโลกด้านอื่นๆ ตามองค์พ่อหลวง และมีเวลา ให้ครอบครัว ญาติมิตร กราบพระอรหันต์ในบ้าน และปฎิบัติธรม เข้าวัด หรือทำกิจกรรมเพื่ิอชุมชน หรือเวลาเข้า สนทนาเช่นที่เราทำกันอยู่) ตามควร จะดีกว่านะครับ( ด้วยปรารถนาดีจากใจ ที่ยังว้าวุ่น สับสน และเป็นทุกข์ ...)

ขอให้เจริญทั้งทางโลก ทางธรรมนะครับ

เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ การทำปุ๋ยหมักตื่นตัว และสวนผักปลอดภัย

 

 

หมายความว่า การทำการเกษตร คือ ควรทำตามกำลังตนเอง ใช่มั๊ยคะ ย่อหน้าสุดท้าย เป็นสิ่งควรจะทำใช่มั๊ยคะ ตรงใจที่สุดค่ะ


สำหรับแจ้วแล้วขอทำเพื่อการกิน การอยู่ในแต่ละวันค่ะ ไม่มีการลงทุน เพราะไม่มีทุน ไม่มีแหล่งเงินกู้ เพราะไม่มีหลักทรัพย์


ขอเป็นกำลังใจให้พี่ 2s นะคะ....

หน้า