เพื่อนญี่ปุ่น ดนตรี รอบกองไฟที่ปาย ก.พ.2554

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา ไม่มีทีวี แต่บางครั้งคนเราถ้าพอใจในสิ่งที่ตนมี ทำตัวให้รู้จักพอใจเท่าที่มีชีวิตก็รู้สึกดีได้

หลัง จากหัวค่ำไปเดินถนนคนเดิน หาอะไรกิน ทักทายร่ำลาตำรวจร้องเพลงแห่งถนนคนเดินปายเป็นครั้งสุดท้าย ฟังเพลงจากแกก่อนที่จะไม่ได้ฟังอีก จากนั้นก็เดินทางกลับมาบรรยากาศป่า ๆ กับบรรยากาศรอบกองไฟ

 

25 กุมภา 2554 อากาศที่นี่ บนนี้ยังหนาวพอให้เรียกใคร ๆ ให้มานั่งใกล้กองไฟได้

 

 

หลายคนในวันนี้มาที่นี่ moon vilage หลังจากจบงานเทศกาลดนตรี SHAMBALA ที่เชียงดาว  

 

 

เล่นดนตรี ฟังเพลง รอบกองไฟ เป็นกิจกรรมที่นับวันยิ่งเหมือนยิ่งห่างหายไป  

 

โลกเปลี่ยนไปสู่ความสะดวกสบาย จนคนใกลธรรมชาติไปทุกวัน

 

บางครั้ง บางปัญหา คิดมากไปก็ไม่ใช่ว่าจะทำให้อะไรมันดีขึ้น ไม่สบายใจเปล่า ๆ เราควรปล่อยวางมันเสียบ้าง

ใช้ชีวิตง่าย ๆ อยู่กับอะไรหรือใครที่เรามีในวันนี้ ชีวิตมันสั้นนักอย่าเก็บปัญหาไว้มากนักเลย 

 

 

คนร้องเล่นกีตาร์และเป่าเมาท์ออแกนเองด้วยตัวคนเดียว ยืนอยู่ห่างกองไฟหน่อยเลยเห็นไม่ค่อยชัด

เดี๋ยวหาภาพชัด ๆ มาแนะนำกันอีกที

เมื่อก่อนเขาเคยเป็นนักร้องที่เป็นที่รู้จักมากในญี่ปุ่น กับเพลงในแนวนี้ที่ฟังแล้วได้อารมณ์อีกแบบ

 

 

 


ความเห็น

ชีวิตกับธรรมชาติความจริงคู่กันมานานแล้ว..แต่มนุษย์ก็สรรค์หาเทคโนโลยี่มาเพื่อสนองความสะดวดสะบายของตนเองโดยลืมว่าธรรมชาติคือของดีที่มีมาแต่เดิม..(ดูเรื่องอวตาลซิชัดเจนที่สุด...ว่าใครจะชนะ)...สุดท้ายและเราจะอยู่กับอะไร...เราก็กลับไปจุดเดิมของเรา...คนป่า(แต่จะเถื่อนหรือไม่..)ไม่นานนี้แหละเราคงได้เป็นคนป่า(แต่อาจไม่มีต้นไม้หลงเหลือนะ)..คนป่ารุ่นนี้คงเห็นแก่ตัว,มักมาก,ไว้ใจไม่ได้,เชื่อถือไม่ได้,งก,เอาตัวรอด,ไม่ช่วยเหลือ,ยุแยงตะแคงรั่ว,หูเบา,สร้างอาณาจักรหาบริวาร,เอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น,อยากเด่น,แฝงอำมหิตในร่างมนุษย์,ยกตนข่มท่าน,ไม่จริงใจ,คิดว่าตัวเองฉลาดคนอื่นโง่,ลูบน่าปะจมูกฯลฯ(ก็มันเคยเป็นคนเมืองมาก่อนไงล่ะเลยติดนิสัย)

แต่ก็เพราะดีค่ะ อยากฟังออกว่าเขาร้องว่าอะไร ชอบเพลงญี่ปุ่นค่ะ เคยฝากเพื่อนคนญี่ปุ่นซื้อแผ่นมาฝาก ฟังจนแผ่นพังเลยค่ะ เป็นเพลงแนวลูกทุ่งของญี่ปุ่น


แล้วก็มีอีกคนนึงที่ร้องเพลงลูกทุ่งได้ไพเราะมาก ฟังจากบนเครื่องบิน แต่จำชื่อนักร้องไม่ได้แล้วค่ะ


ขอบคุณนะค่ะที่นำมาฝากกัน เป็นบรรยากาศที่น่าสัมผัสมากๆ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ บอกว่า อากาศหนาว แต่เห็นทุกคนไม่ได้ไส่เสื้อกันหนาวกันเลย ทุกคนไส่สายเดี่ยวซะงั้น สงสัยหนาวยังไม่พอ

อย่างเจ้นะ  น้ำไม่ไหลหรือไฟดับสักวันก็จะบ้าตายแล้วล่ะ   แต่ถ้าถึงขั้นต้องเข้าหาธรรมชาติโดยปราศจากเทคโนฯ เข้าจริง ๆ ก็คงอยู่ได้

ถูกต้องเลย..คนเราเดี๋ยวนี้ลืมธรรมชาติหลงเทคโนโลยีกันหมด...อยากกลับไปอยู่ป่าเหมือนพวกชนเผ่าบ้างจัง...แต่ไม่มีป่าให้อยู่ซะแล้ว...เพลงเพราะคะฟังไม่ออกแต่ชอบ

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

วันๆถ้าไม่ใช้ไฟฟ้าเลยคงตายแน่  น้ำประปาถ้าไม่ไหลสัก 2 วันต้องตายแล้ว  เพราะวันนึงอาบน้ำ 4 ครั้ง(เหงื่อไหลมากทั้งวัน ยกเว้นแต่อยู่ในห้องแอร์ที่ไม่มีเหงื่อ)  ไปป่าแคมปิ้งนานๆทีก็ได้รสชาติดี  แต่จะให้อยู่โดยไม่มีไฟฟ้าเลยคงทำไม่ได้  นอกเสียจากโลกจะเปลี่ยนไป  อันนั้นก็ต้องทำได้ตามสถานการณ์  แต่ถ้าให้เลือกชอบไปเที่ยวในธรรมชาติมากกว่า  แต่จะให้อยู่เลยขออยู่ในโลกเทคโนล้ำเลิศดีกว่าค่ะ

เห้นแล้วนึกถึงตอนเด็กๆ ที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้มากเลยครับ

สุดท้าย ก็กลายเป็นคนไม่มีค่าในสายตาของเขา

บ้านบนดอย บ่ะมีแสงสี  บ่ะมีทีวี บ่ะมีน้ำประปา


บ่ะมีโฮงหนัง โฮงนวดคลับบาร์


บ่ะมีโคล่า แฟนต้า เป๊บซี่


บ่ะมีเนื้อสันผัดน้ำมันหอย คนบนดอยซอบกิ๋นข้าวจี๋


บ่ะมีน้ำหอมน้ำปรุ่งอย่างดี แต่หมู่เฮานี้...มีน้ำใจ๋....:admire2:




 

.................