ก่อนอื่น ขอกล่าวว่า ต้นแก่นตะวัน ไม่ใช่เรื่องใหม่ของชาวบ้านสวนนะครับ ปีที่แล้ว พี่โรส เคยเอามาลงบล็อกไว้ที่ http://www.bansuanporpeang.com/node/4117  ส่วนตัวผมนั้นรู้จัก แก่นตะวันในนาม เจรูซาเรม อาร์ติโช๊ค มาตลอดเวลาหลายปี ไม่เคยปลูกทานเองเลยครับ รับมาทานจากคุณป้า แต่ละปีก็ ทานกันไม่ไหว เลยครับสองบ้าน เพราะต้นเดียวให้หัวเยอะมาก ย้ำครับ ถ้าปลูกถูกเวลา ผมนั้น ปลูกเองปีแรกจากการรับต้นพันธ์ มาจากคุณป้า เคยเสนอในบล็อก เก่าๆไว้นานแล้วเมื่อ ตอน เริ่มปลูก รวมเวลาปลูกมา ประมาณเจ็ดเดือน เพิ่งได้เก็บทานครับ ปีนี้ยังได้ ผลไม่ดีเพราะปลูกช้าแต่ปีหน้าไม่พลาดแน่ครับ

ขอกล่าวเพิ่ม เติมความรู้เล็กน้อย เรื่อง เจรูซาเล็ม อาร์ติโชค ครับ พืชชนิดนี้ ล้มลุก เป็นพืชตระกลูเดียวกับ ทานตะวัน ชอบอากาศเย็น ทนร้อนได้ มีต้นกำเนิด มาจาก อเมริกาเหนือครับ มีชือเรียก อื่น อีกพอสมควรแต่ที่รู้จักกันมาก คือ เจรูซาเร็ม อาติโช๊ค ซื่ง พืชพันธ์นี้ไม่ได้มาจาก เจรูซาเล็ม และไม่ได้เป็นวงศ์เดียวกับ อารติโช๊ค( อารติโชคคือ ผักทานดอกชนิดหนึ่งของฝรั่ง) เจรูซาเรม อารติโช๊ค ส่วนที่ทานได้ คือ หัวใต้ดินครับ ขยายพันธืด้วย หัวใต้ดิน หรือ เมล็ดจากดอก ครับ เมล็ดนั้น มี ข้อเสีย ที่ลงหัวช้า กว่า จากที่ปลูกด้วยหัวใต้ดิน ข้อมูลมาจากคุณ ป้าครับ ดังนั้นปลูกในที่ ที่มีอากาศ ร้อนไม่ยาวนาน ควรเริ่มจากหัวครับ ปลูกที่เมืองไทยใช้ เมล็ดได้ไม่มี ปัญหาครับ เจรูซาเรม อาร์ติโชค ชอบดิน ทรายครับ รากหาอาหารทานเก่งมาก ไม่ต้องใช้ น้ำ เยอะด้วยครับ ผมมาทราบชื่อไทย ก็ตอนเป็นสมาชิคบ้าน สวนเหมือน กันครับ ชื่อไทย คือ แก่นตะวัน

อย่างที่เห็น ดอกสวยครับ ปลูก ติดกันไว้ ท้าย สวนครัวดูงามตามากครับ ต้น เขานั้นสูงได้ถึง สามเมตรครับ ต้นใหญ่จะให้ หัวดี มาเรื่อง ช่วงการปลูก คนที่อยู่ในเขต หนาว หรือ เย็น ควรเริ่ม ปลูก เมื่อหมด น้ำค้างแข็ง ในช่วงใบไม้ผลิ ครับ พอเข้าใบไม้ร่วงก็ เก็บทานได้ ผมปลูกช้าไป ต้นใหญ่ไม่ทัน หนาวครับ พอ หนาวหน่อย ดอกแห้งตาย หมด ครับ ตามหลักการที่คุณ ป้า สอนมาคือ เด็จดอกทิ้ง ครับจะได้ หัวใหญ่ แต่ผมก็ ไม่เด็จทิ้งเพราะอยากเก็บเมล็ดไว้ แบ่งกันครับ การเก็บเกี่ยวนั้นดูที่ต้น ครับ เมื่อต้นโทรม ดอกแห้งดังภาพด้านล่างก็ เก็บได้ ถ้าไม่เก็บหัวไม่เน่านะครับ หัวสดเก็บไว้ในดินได้ นาน พออุ่นขึ้นก็ แตกใหม่

ผูดถึงเรื่อง เก็บเมล็ดแล้วช้ำใจครับ ด้วยความที่ศึกษาไม่ดี ก็ ปล่อยดอกแห้ง ตามปรกติโดยหา ทราบไม่ว่า ดอกของแก่นตะวัน ปริวลมเร็วมาก พอผมทิ้งไว้ จะมาเก็บ เหลือทั้งต้นไม่กี่เมล็ด เลยครับ ตามภาพด้านล่าง สังเกตที่ยอดดอกแห้งครับมีเมล็ดติดปลายดอก

ภาพด่านล่าง คือ ไม่มี เมล็ด เหลือ อยู่ แล้วครับ ต้นที่บ้านมี แต่ดอกล้วนๆ ไม่มี เมล็ด เหลือมากเลยครับ เก็บเท่าที่มีมาได้นิด หน่อย เอง เสียดายมาก ดอกไม้นี่ผมไม่ถนัดเรื่อง การเก็บเมล็ดเลย บางพันธ์ เมล็ด อยู่ ด่านล่างสุด เช่นลาเวนเดอร์ บางพันธื อยู่บนยอดรับลมเลย เช่น แก่นตะวัน ผิดหวังตัวเอง กำลังจะ อารมณไม่ดีเลยครับ เลยนึกขึ้นได้ ว่าเมื่องไทยก็ มี เมล็ดให้ หาได้ ประกอบกับไม่ใช่ของใหม่อะไร หลายๆท่านคงรู้จักแล้ว ยังไงก็ตามเลยคิดว่าจะเขียนแนะนำข้อผิดพลาด ของตัวเองให้ผู้อื่นรับทราบครับ ได้ ไม่ผิดหวังเหมือนผมครับ

เก็บเมล็ด ได้ เล็กน้อยช่างมัน มาขุดหัวทานกันที่กว่า ครับ ภาพด่านล่างเป็นโคนต้น ครับ

ขุดออกมาแล้ว ก็จะมี หัวติดมา อย่างที่เห็นนี่ละครับ ต้นที่บ้านสูงสุด แค่สองเมตรเอง ครับ บ้านคณป้าสูง สามเมตรกว่าได้ครับ วันนั้นขุดต้นเล็ก ต้นน้อยดูก่อนครับ

เอาหัวไป ล้างน้ำมาได้มาไม่มากครับ จาก สองต้น คงทานหมดนี่เลยนะครับ ไม่เก็บ

ด้านล่างผ่าดูให้ เห็น ครับ ว่าเปลือกไม่ หนา

วิธีใช้ ครับ ทานสดได้ รส กรอบ เหมือนแห้วผสมมันแก้ว ปอกเปลือกทานสด กรอบๆอร่อยดีครับ สดๆใส่สลัดก็ได้ ยำก็ได้ครับ ทำสุกแล้วจะ นิ่มเหมือนมันฝรั่ง ทานอร่อยดีครับ ต้มแล้ว ทานแบบมันฝรั่ง ก็ได้ หรือ จะทำซุปแบบ ฝรั่งก็ได้ เอามาแกงแบบไทยก็ ได้ ใช้ประโยชน์ได้ เยอะ และ อร่อย ดีครับ อร่อยในที่นี่ คือแบบของผม คนเราชอบทานต่างกันครับ ถ้ามี มันฝรั่งกับ แก่นตะวัน ผมไม่ทานมันฝรั่งนะครับ แก่นตะวันต้ม ทานได้เพลินเลย

ข้อดี ที่คนส่วนใหญ่สนใจ คือ แก่นตะวัน ให้สารประเภทคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งที่ คนย่อยได้ยากนะครับ อีกนัยหนึ่ง คือ ทานอิ่ม ก็มี ผลกับ น้ำตาลในเส้นเลือดได้ช้า จึงเหมาะกับคนเป็นเบาหวานครับ  แก่นตะวันมี ธาตุเหล็กสูงครับ มี โปรเทศเซียม และ ไทอามีน ด้วย ข้อมูลอ่านเพิ่ม ตามลิงค์ด่านล่างครับ

http://www.regionacton.ca/en/business-opportunities/jerusalem-artichokes-medical-vertues.html คุณค่าทางอาหาร

http://en.wikipedia.org/wiki/Jerusalem_artichoke ขอมูลทั่วไป

มีข้อดี ก็มี ข้อเสียครับ ท่านใดสนใจทาน แก่นตะวันให้ระวัง เรื่องการ สร้างแก๊ซ ในลำใส้ของเขาครับ โดยส่วนตัว ทานดิบ ไม่เท่าไหร่ ทานสุก สร้างแก็ซเยอะมากครับ มีอาการแน่นท้อง ผายลม บ่อยมาก ยังไงทานแต่ปริมาณพอดี ครับ ข้อจำกัด ตรงนี้ ผม สองคนจะ ทานกัน เฉพาะในวันที่เราไม่ได้ทำงานครับ เพราะ เราไม่ต้องสำรวม มากมายในบ้านเราเอง แต่ถ้าวันรุ่งขึ้นต้อง ทำงานจะ ไม่ทานเลยครับ อร่อยก็ จริง แต่ มรายาท ทางสังคมเราก็ ต้องรับมือ ครับ คุณป้า ท่านจะทานดิบเป็น หลัก ท่านว่า ท้องใส้ ท่านไม่เป็นไร ผม ลองทานดิบดู ก็เป็นนะครับ แต่ดีกว่า ทานสุก เยอะเลย ข้อสียตรงนี้ เจ้ผมไม่เอาเลยเพราะ ครั้งที่เขาทานครั้งแรก เราทานกันแทนมันฝรั่ง เลยครับรุ่งขึ้นไป ทำงานด้วย ทั้ง เจ้ ทั้ง ผม อั้นทน ไม่ สบายตัวเลย ทุกวันนี้ ผูดถึง เรื่องนี้ยังหัวเราะกัน อยู่ เลยครับ นี่คือส่วนหนึ่ง ครับ ที่ชอบทานมาตั้ง นานแต่ไม่คิด ปลูก ปีนี้ปลูกแล้วกะจังหวะทานดู อร่อยดี แต่ต้องคุ้มก๊าซด้วยครับ ^_^

เจอกันบล็อก หน้าครับ

ตุ้ย