สะพายกล้องท่องเที่ยว

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2548 เป็นต้นมา ผมและแฟนได้เปลี่ยนแนวการท่องเที่ยวจากการพักรีสอร์ทสวยๆ กินอาหารอร่อยๆ ตามคำแนะนำจากนิตยสารท่องเที่ยว มาเป็นการท่องเที่ยวไปตามอุทยานแห่งชาติ กางเต้นท์นอน ทำอาหารกินเองในแบบแค้มปิ้ง(ย่าง ทอด ลวก) พอดีไปดูรูปเก่าๆเข้า เลยคิดว่าเอามาแบ่งปันเพื่อนๆสมาชิกดีกว่า และเพื่อให้เข้ากับช่วงเวลาต้นหน้าฝนนี้ ผมขอแนะนำสถานที่แห่งนี้เลยครับ

"อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง"

   

ทำตามธรรมเนียมการท่องเที่ยว ถ่ายรูปคู่กับป้า(ย)

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในเขตอำเภอเมือง อำเภอเขาค้อ อำเภอหล่มสัก อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ และอำเภอวังทอง อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก โดยมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 789,000 ไร่

ถ้าจะไปชมและพักแรมที่ทุ่งแสลงหลวง ท่านจะต้องเดินทางมาที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงที่ สล.8 (หนองแม่นา) ซึ่งจะอยู่ใกล้เขาค้อ ไม่ใช่ที่ทำการอุทยานฯตรง ก.ม.80 บนทางหลวงหมายเลข12 (น้ำตกแก่งโสภา) ดังนั้นในการเยือนเขาค้อครั้งต่อไป หากท่านมีเวลาลองขับรถจากอนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ ผ่านพระบรมธาตุเจดีย์ฯ ตรงไปทวงพระตำหนักเขาค้อ ขับเลยไปทางน้ำตกศรีดิษฐ์ เพื่อไปยังทุ่งแสลงหลวง ต.หนองแม่นา ด้วยระยะทางเพียง 20 กิโลเมตร ท่านก็จะได้สัมผัสกับทุ่งกว้างแบบนี้

และถ้าเป็นช่วงต้นฤดูฝน ท่านก็สามารถขับรถต่อไปยังทุ่งนางพญา ด้วยเส้นทางแบบนี้

และจงเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพถนนในบางช่วง ที่จะเป็นหลุม บ่อ โคลนตมในสภาพนี้

ซึ่งเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ท่านทราบว่า ในแต่ละช่วงเวลารถของท่านจะสามารถผ่านไปได้หรือไม่ สำหรับผมก็ได้รับการแจ้งเตือนว่า อาจพบอุปสรรคน้ำท่วมขังในบางช่วง แต่ก็ยืนยันว่าจะลองไปดูหากไม่ไหวจริงๆก็จะกลับ

ผลก็คือ สองคนตายายต้องช่วยกันหาวิธีแก้ไขรถติดหล่มอยู่เกือบชั่วโมง โชคดีที่เสบียงทั้งหมดยังอยู่ที่ท้ายรถ ทำให้ไม่กลัวที่จะต้องนอนกลางทาง และมีเวลาคิดโดยไม่รีบร้อนมากนัก
สภาพรถหลังจากพ้นออกมาจากการติดหล่ม

และเป็นความโชคดีที่เป็นแค่ช่วงต้นฤดูฝน ทำให้มีเศษใบไม้อยู่ตามข้างถนนเยอะมาก เลยได้เอามาเติมในร่องของล้อที่จมอยู่ในหล่มจนสามารถขับพ้นมาได้ แต่เมื่อขับมาได้สักครู่ก็ตัดสินใจวกรถกลับ กลัวว่าขืนไปต่อไปจะเจอหลุมลึกกว่านี้

 

ต้นไม้รูปทรงแปลกๆข้างทาง

และเมื่อกลับมายังบริเวณที่ทำการก็ติดต่อขอพักกางเต๊นท์ เสียค่าบริการคนละยี่สิบบาท

พ่อบ้านจัดแจงกางเต๊นท์ที่พักไป

ส่วนแม่บ้านก็เตรียมอาหารเย็น (ไม่น่าเชื่อว่าที่เห็นบนโต๊ะคือเสบียงสำหรับสองคน)Embarassed

มีกับข้าวสามอย่างเป็นมาตรฐานทุกมื้อ แม่ครัวมาเองสบายไปเลยเรา

เสน่ห์ของการเที่ยวป่าช่วงต้นฤดูฝน คือต้นกล้าที่เพิ่งเริ่มงอก เมล็ดพันธุ์ที่ร่วงหล่น ดอกของไม้ยืนต้นที่ร่วงลงมาให้ถ่ายรูปใกล้ๆ ไม่ต้องปีนป่ายให้หวาดเสียว (เหมือนพี่โรส ฮ่าๆ)

แม้แต่ต้นไม้เล็กๆ ต่างก็รีบเร่งแข่งกันผลิดอกออกใบ เพื่อให้ทันฤดูฝนที่จะมาเยือนในช่วงสามเดือนข้างหน้า

เก็บเต๊นท์แล้วเอ่ยคำลา วันหน้าลุงพีมาใหม่

รูปภาพยังมีมากมาย ถ่ายไว้นำมาให้ชม

เอ้าป้ารีบวิ่งมาทำไม อยากรู้ไซร้ลองใช้เม้าส์ดู Tongue out

ความเห็น

ขอบพระคุณมาก จะทำฝึกดู เวลาที่จะเล่าเรื่อง ปุ๋ยหมักพอเพียง

 

ขอให้เจริญทั้งทางโลก ทางธรรม ครับ

เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ การทำปุ๋ยหมักตื่นตัว และสวนผักปลอดภัย

 

 

ใช่ๆๆ อยากรู้มากเลย  สอนกายส์ด้วยซิคะ

.................

รูปเก่าลุงพี่นี่หล่อเท่ไม่เบา...

"จะปลูกทุกอย่างที่กิน จะกินทุกอย่างที่ปลูก"

อุตส่าห์พยายามหารูปแก่ๆ เชยๆ ดันมาชมว่าหล่อซะอีก เฮ้อ.....ไม่ให้กำลังใจกันเร้ย

พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง

ดูแล้วนึกถึงสมัยที่ผมเที่ยวเมื่อก่อนนี้เลย

 ลุงกับป้า น่ารักมากคะ....:shy:


แถมบรรยากาศก็ ......

....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....

น่ารักมากค่ะ  อยากไปสัมผัสบรรยากาศทะเลมั้ยคะ

คิดว่าปลายปีนี้ ผมคงมีโอกาสได้ท่องถิ่นใต้แน่นอนครับ

พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง

  ได้ผลค่ะ  แต่ทำ 3 รูปไม่ได้อ่ะ  แล้วรูปวิ่งหากันทำอย่างไรคะ?

ผมถ่ายรูปจากกล้องบนขาตั้งกล้องครับ


ไปเที่ยวกันสองคนตายายเลยต้องมีผู้ช่วยครับ คือขาตั้งกล้อง และรีโมทอินฟราเรด (สังเกตุดูที่มือขวาของผม)


ส่วนรูปแรกนั้นเมื่อเอาเม้าส์มาใช้งานแล้วรูปจะหายไปเหลือเพียง Alternative images สองรูป ต้องรีเฟรชหน้าเว็บถึงจะมาใหม่ครับ

พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง

หน้า