เขียนโดย ยุพิน เทลเก็น เมื่อ 2 มิถุนายน, 2011 - 02:45
ได้อ่านข้อความรุ้งตัดแวงในหนังสือพิมพ์ข่าวสด น่าสนใจมาก เลยขออนุญาตคัดลอกมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันค่ะ
|
|
|
|
|
|
จำนวนคนอ่านล่าสุด 97 คน
Share
|
วันที่ 02 มิถุนายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7490 ข่าวสดรายวัน
หิวโหย
รุ้งตัดแวง สปาย-กลาส
องค์กรการกุศลนานาชาติ ออกซ์แฟม เปิดรายงานล่าสุดเกี่ยวกับวิกฤตอาหาร
ในช่วงเวลาเดียวกับที่จีนเผชิญภัยแล้งในหลายมณฑล จนราคาอาหารที่เป็นพืชผักพุ่งไปกว่าร้อยละ 20 ในเวลาเพียงไม่กี่วัน
ออกซ์แฟมคาดการณ์ว่า อีก 20 ปีราคาอาหารจะแพงกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ 2 เท่า
แปลว่าถ้าข้าวแกงตอนนี้จานละ 25 บาท อีก 20 ปีก็จานละ 50 บาท
สาเหตุ หลักที่ทำให้เกิดวิกฤตคือ ความต้องการอาหารที่เพิ่มขึ้น (คนในโลกเพิ่มจำนวน) ผลผลิตการเกษตรไม่เพิ่ม และสภาพอากาศแปรปรวนจากภาวะโลกร้อน
ออกซ์แฟมประเมินว่า จำนวนผู้คนที่หิวโหย ไม่มีอะไรจะกินจะเพิ่มขึ้นทุกวัน จากตอนนี้มี 925 ล้านคน
ในมุมมองของออกซ์แฟม สถานการณ์แวดล้อมจะเลวร้ายไปหมด เพราะตอนนี้โลกเข้าสู่ยุคของวิกฤตที่มีแต่จะรุนแรงขึ้น
ไม่ว่า ราคาอาหารเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันกระฉูด มีหายนภัยจากสภาพอากาศ การเงินโลกล้มละลายและเกิดโรคระบาดทั่วโลกในเวลารวดเร็ว
สัญญาณทั้งหมดตอกย้ำว่า ความหิวโหยจะเพิ่มขึ้น
สำหรับทางแก้ไขปัญหาที่ออกซ์แฟมนำเสนอ คือต้องจำกัดการกักตุนสินค้าเกษตรในอนาคต เป็นทางเดียวที่จะระงับภาวะเงินเฟ้อในราคาอาหารได้
องค์กรนี้ยังต่อต้านการใช้พืชที่ผลิตอาหารไปทำพลังงานไบโอดีเซล
ขณะ เดียวกันต้องปรับการลงทุนด้านการเกษตรให้สมดุล เพราะตอนนี้ระบบการไหลเวียนของผลผลิตอาหารที่ล้มเหลว มาจากความล้มเหลวของรัฐบาลในด้านการลงทุนและจัดระเบียบควบคุมฝ่ายเอกชน
ทำให้ผู้ที่ "ใหญ่กว่า" มีสิทธิใช้ทรัพยากรได้มากกว่า
ออกซ์ แฟมเสนอว่า รัฐบาลประเทศ ยากจนต้องมามีส่วนร่วมถกหาทางออกในเวทีโลก เนื่องจากเผชิญปัญหาแย่งชิงทรัพยากรทั้งน้ำ ดิน และอาหาร ไม่ใช่ปล่อยให้มหาอำนาจควบคุมการแก้ไขปัญหา
เพราะคนที่ต้องหิวโหยก่อนคือคนจน ไม่ใช่คนรวย
หน้า 7
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Copyright © by Matichon Publ
ความเห็น
RUT2518
2 มิถุนายน, 2011 - 05:31
Permalink
คุณยุพินครับ
ถ้าเราเรียนรู้วันนี้ วันข้างหน้าของจะแพง พืชผักต่างๆอาหารแพง บางสิ่งบางอย่างเราสามารถทำเองปลูกเองได้ ถึงแม้ของจะแพงเราก็ ลดรายจ่ายลงไปได้ครับ
ตั้ม
2 มิถุนายน, 2011 - 07:44
Permalink
โลกขาดแคลนอาหาร
มีคนเคยถามผมว่าทำไมถึงคิดซื้อที่ดินต่างจังหวัดและเลือกซื้อที่ดินแบบการเกษตร(บ้านคา)มากกว่าแบบไสตล์รีสอร์ท(ที่เขาบนสวนผึ้ง) ผมตอบว่าเป็นเพราะผมต้องการนำที่ดินมาทำการเกษตรแบบพึ่งพาตนเองที่ไม่ใช่การค้าในชีวิตช่วงเลย 50 ปีของผมที่ยังพอมีทั้งกำลังกายและกำลังเงินพอที่จะไม่ต้องเดือดร้อนกับการหารายได้ เป็นแนวคิดแบบปลูกเองกินเองลดการพึ่งพาภายนอกให้น้อยที่สุดโดยเลือกทำเลที่สามารถผสมผสานทั้งการทำการเกษตรและแบบอยู่อาศัยแนวรีสอร์ท และที่สำคัญมีเอกสารสิทธิถูกต้อง ราคาไม่แพงมาก (ผมซื้อที่ดินในราคาเดียวกับเกษตรกรซื้อในราคาตลาด) คำถามต่อมา..แล้วซื้อทำไมตั้งมากมาย..ผมตอบเพราะมีความคิดเหมือนที่คุณยุพินโพสท์ในหัวข้อนี้..
กล่าวคือ..ผมมองปัจจัยเรื่องโลกร้อนและผลกระทบต่อการพัฒนาที่มีต่อดุลธรรมชาติมามากกว่าห้าปีและเริ่มมองหาที่ดินมาตั้งแต่ปี 48 ผมเชื่อมั่นลึกๆว่าในอนาคตอันใกล้โลกจะประสบภาวะขาดแคลนทั้งเรื่องอาหารและพลังงานรวมทั้งทรัพยากรที่ได้จากธรรมชาติ หลายประเทศที่มีทุนมีเงินไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น สิงคโปร์ ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ยุโรปบางประเทศจะเริ่มมองหาประเทศที่มีศักยภาพในการผลิตทางการเกษตร ซึ่งแน่นอนที่สุดภูมิภาคอุษาคเนย์โดยเฉพาะประเทศไทยเราเป็นเขตมรสุมร้อนชื้นไม่ขาดแคลนเรื่องน้ำ แสงแดดและอุดมสมบูรณ์เป็นอู่ข้าวอู่น้ำเลี้ยงประชากรโลก ถึงขนาดเพื่อนต่างชาติคนนึงของผมบอกว่า เมืองไทยโยนเมล็ดอะไรลงดินไม่ต้องปลูกไม่ต้องดูแลก็ขึ้นงอกงาม ประเทศต่างๆเหล่านี้น่าจะเริ่มเข้ามาหาลู่ทางในการใช้ประโยชน์ในด้านแหล่งอาหารและพลังงานทดแทนจากพืช ไม่ว่าจะรูปแบบของการลงทุนข้ามชาติ การเช่าระยะยาวร่วมร้อยปีหรือการได้มาซึ่งเอกสารสิทธิอันชอบธรรมผ่านนักการเมืองขายชาติที่ออกกฏหมายเอื้อต่อการยึดครองในอนาคต ถึงตอนนั้นที่ดินก็จะเริ่มเปลี่ยนมือ..สมัยก่อนยังแค่เกษตรกรมาสู่นายทุน แต่อนาคตจะเปลี่ยนมือจากเกษตรและนายทุนไทยสู่นายทุนข้ามชาติ และเมื่อนั้นราคาที่ดินที่สามารถทำการเกษตรได้ก็จะมีราคาถีบตัวสูงขึ้นตามหลัก demand & supply แต่คนไทยเราอาจไม่เหลืออะไรแล้ว คนไทยและประเทศไทยจะมีสิทธิเป็นเจ้าของแต่เพียงชื่อประเทศ แต่สิทธิผูกขาดที่แท้จริงกลับไม่ใช่เรา
เพื่อนหลายคนของผมบอกว่าผมคิดแง่ร้ายคิดมากคิดไกลเกินไปหรือเปล่า ผมไม่สนใจเริ่มมองหาและตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องมีที่ดินและทำตามฝันที่ต้องการให้ได้ จึงได้ที่ดินบ้านคา ราชบุรีแปลงนี้มา ผมอยากจะบอกเพื่อนๆที่เป็นเกษตรกรที่มีที่ดินทำกิน อยากให้เก็บรักษาไว้ให้ดี วันหนึ่งมันอาจเป็นอย่างที่ผมคิด และ ณ ตอนนี้มันก็มีสัญญาณหลายอย่างบ่งบอกถึงความน่าจะเป็น ล่าสุดภัยสีนามิที่ญี่ปุ่น พายุหิมะและทอร์นาโดในยุโรป ก็พอจะเห็นเค้าลางของการย้ายฐานการลงทุน โดยเริ่มจาก SME ของญี่ปุ่นที่ตอนนี้เล็งย้ายฐานมาไทย ควบคู่กับอุตสาหกรรมรถยนต์ที่อาจทยอยย้ายตามมา
เพื่อนๆที่เคยมองดูผมอย่างขำๆ ตอนนี้หลายคนก็เริ่มมองหาที่ดินเพื่อเก็บเป็นสมบัติเป็นหลักประกันป้องกันการขาดแคลนในวันข้างหน้าให้กับลูกหลาน...
ไม่รู้นะ..ผมอาจจะคิดมากไปเองก็ได้
แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย
Thanawit
2 มิถุนายน, 2011 - 08:17
Permalink
เห็นด้วยครับ ผมเชื่อว่า
เห็นด้วยครับ ผมเชื่อว่า ถ้าเรา(ประเทศ)ยังวิ่งตาม ทุนนิยม อยู่อย่างนี้ อีกไม่นานข้างหน้า เราต้องซื้อ อาหาร กินในราคาที่สูงขึ้นลิ่วลิ่วทั้ง ๆ ที่ปลูกอยู่ในบ้านเรา เพราะต้องซื้อจากต่างชาติ ที่เข้ามาถือสิทธิ์ อีกไม่นานครับคงจะได้เห็น สิ่งที่เราจะทำได้ คือการพึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด ..... "เศรษฐกิจพอเพียง" ....พ่อหลวง ของเรา พระองค์ทรงมองเห็นปัญหานี้มานานแล้ว แต่ยังมีน้อยคนนัก ที่จะให้ความสำคัญและสนใจจริง ๆ .... คนไทยไม่สนใจเศรษฐกิจพอเพียง .... แต่ต่างชาติ หลาย ๆ ประเทศ สนใจและนำเอาทฤษฎีนี้ ไปใช้กันแล้ว ....แล้วคนไทยละ คิดอะไรกันอยู่ หรือจะรอ ให้ ต่างชาติ เข้ามาสอน เศรษฐกิจพอเพียง ถึงจะเชื่อ .......
เมื่อรู้สึกว่ากำลังแย่ จงให้กำลังใจตัวเอง ด้วยการคิดว่า "ยังมีคนอื่นที่แย่กว่าเราอีก"
ยุพิน เทลเก็น
2 มิถุนายน, 2011 - 09:17
Permalink
คุณธนวิท
ใช่ค่ะ พ่อหลวงท่านเป็นคนฉลาด มองการณ์ไกลได้แม่นยำ อยากให้ทุกคนเดินตามรอยความคิดของพ่อหลวงท่าน
แผ่นดินไหนก็ไม่มีความสุขเหมือนแผ่นดินเกิด อยากกลับบ้านจัง
ทดสอบ
ยุพิน เทลเก็น
2 มิถุนายน, 2011 - 09:13
Permalink
คุณตั้ม
ในสิ่งที่เรากลัวและกังวล อาจจะมีหลายคนหัวเราะเยาะว่าตื่นตระหนกมากไป แต่เราทำเพื่อความไม่ประมาทค่ะ เราจะรอให้เป็นอย่างนั้นแล้วค่อยลงมือ คิดว่าคงจะสายเกินไปแล้ว คุณตั้มคิดถูกและทำถูกแล้วค่ะ
แผ่นดินไหนก็ไม่มีความสุขเหมือนแผ่นดินเกิด อยากกลับบ้านจัง
ทดสอบ
สายพิน
2 มิถุนายน, 2011 - 07:46
Permalink
เป็นเรื่องน่าเศร้าค่ะ
เป็นเรื่องน่าเศร้าค่ะ คุณยุพิน ... คิดอยู่เสมอว่าอาหารเป็นสิ่งสำคัญ เหลือแต่ช่วยกันทำให้ไม่ขาดแคลน
ยุพิน เทลเก็น
2 มิถุนายน, 2011 - 09:10
Permalink
คุณสายพิณ
ก็นั่นนะสิ ถ้าเราไม่เริ่มลงมือปลูกต้นไม้กันวันนี้ มันจะสายเกินไปหรือเปล่า
แผ่นดินไหนก็ไม่มีความสุขเหมือนแผ่นดินเกิด อยากกลับบ้านจัง
ทดสอบ
แก่
2 มิถุนายน, 2011 - 07:50
Permalink
พวกเรา
ชาวบ้านสวน ถ้ามีที่ดินแล้วปลูกพืชผักไว้เยอะๆ หลากหลาย จะมีผลกระทบน้อย
thiwagonblackcat
2 มิถุนายน, 2011 - 08:23
Permalink
มีดิน ไม่อดตาย
อยู่กับดิน กินกับทราย
ยุพิน เทลเก็น
2 มิถุนายน, 2011 - 09:08
Permalink
เห็นด้วยค่ะ
อยู่กับดิน กินกับทราย แต่ต้องปลูกต้นไม้ด้วยนะคะ ถึงไปรอดค่ะ
แผ่นดินไหนก็ไม่มีความสุขเหมือนแผ่นดินเกิด อยากกลับบ้านจัง
ทดสอบ
หน้า