มาแล้วคะสมุนไพร
ฮว่านง๊อก" สมุนไพรน่าสนใจจากเวียดนาม
มีสมุนไพรชื่อแปลกที่หลายคนอาจไม่เคยได้ยินมาก่อนอย่าง "ฮว่านง๊อก" มาแนะนำให้รู้จักกัน พืชชนิดนี้เป็นพืชสมุนไพรจากประเทศเวียดนาม ลักษณะเป็นเป็นพุ่มมีใบมาก ใบเป็นรูปเรียวปลายแหลมมีสีเขียวเข้ม
ประโยชน์ของต้น "ฮว่านง๊อก" นี้มีมากมาย
ตั้งแต่ ช่วยคลายความปวดเมื่อยให้ร่างกาย รักษาโรคความดันสูง โรคกระเพาะอาหาร เลือดออกในลำไส้ และโรคเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ รักษาโรคตับอักเสบ ไตอักเสบ และรักษาอาการปวดต่างๆที่ไม่ทราบสาเหตุ รวมไปถึงไข้หวัด เรียกว่ารักษาได้สารพัดโรคเลยทีเดียว
การ ใช้ฮว่านฮ็อกรักษาโรคนี้ ก็แค่เคี้ยวกินใบสดๆ หรือคั้นแล้วกรองน้ำดื่มเข้าไป หรือจะต้มเป็นน้ำแกงกินก็ได้ โดยคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหารให้กินครั้งละไม่เกิน 7 ใบ วันละ 2 ครั้ง กินไปจนครบ 50 ใบ โรคเลือดออกในลำไส้ กินครั้งละไม่เกิน 7-13 ใบ วันละ 2 ครั้ง สำหรับอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย กินครั้งละไม่เกิน 7-14 ใบ โรคความดันโลหิตสูงให้กิน 5-9 ใบ จากนั้นความดันจะลด และสำหรับสตรีหลังคลอดกินวันละ 1 ใบก็จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
นับว่าเป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่มีสรรพคุณน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ที่มา...ผู้จัดการออนไลน์
- บล็อกของ เอเชีย
- อ่าน 5005 ครั้ง
ความเห็น
แจ้ว
2 สิงหาคม, 2011 - 11:22
Permalink
ชื่อเรื่องผิดมั๊ยคะ
:confused:
มีมี่
2 สิงหาคม, 2011 - 11:22
Permalink
สงสัย
ทำไมยิ่งปลูกยิ่งมีใบสีอ่อนค่ะคุณเอเซีย
หนูปอ
2 สิงหาคม, 2011 - 13:16
Permalink
อ่านว่า?
อ่านว่าไงอ่ะคะ
ฮะ-หว่าน-ง๊อก?
saeng77
2 สิงหาคม, 2011 - 13:50
Permalink
ที่บ้านมี แต่สีออกเหลือง
ที่บ้านมี แต่สีออกเหลือง ไม่เขียวเข้มอย่างนี้ หรือว่าคนละสายพันธุ์
สร
2 สิงหาคม, 2011 - 18:19
Permalink
ฮว่านง๊อกหรือพญาวานร
ช่วยตรวจสอบดูอีกครั้งนะคะ ว่าชื่อกับภาพตรงกันหรือเปล่า ดูจากภาพแล้ว น่าจะเป็นดีกั้งปลา(แถวบ้านเรียกดีกระทิง)มากกว่าฮว่านง๊อก หรือจะเป็นสมุนไพรชนิดอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน
sorn07(แอ๊ด)gmail(ดอท)com
วิศิษฐ์
2 สิงหาคม, 2011 - 18:24
Permalink
ไม่รู้จักครับ
พึ่งเคยเห็นครับ..แต่สรรพคุณดีมาก ๆ เลยครับ น่าปลูกครับ..
แก้ว กุ๊ก กิ๊ก
2 สิงหาคม, 2011 - 20:57
Permalink
ไม่เหมือนกัน
ไม่เหมือน ฮวานฮงอก ของที่บ้านค่ะ
ต้นปลูกเองหรือเปล่าค่ะ
sothorn
3 สิงหาคม, 2011 - 03:32
Permalink
อ้างอิงที่าของเรื่อง
อ้างอิงที่มาของเรื่อง ที่มา...ผู้จัดการออนไลน์ แค่นั้นยังไม่พอควรลิงค์ไปที่แหล่งข้อมูลที่แท้จริง
หากอ้างอิงไม่เป็น ก็พยายามอย่าเอาบทความของที่อื่นมาลง
อย่าต้องให้เตือนกันบ่อยนะครับ