ผมได้อะไรจากการไปเยี่ยมชมสวน ผู้ใหญ่สุธรรม จันทร์อ่อน

หมวดหมู่ของบล็อก: 

 



ผู้ใหญ่สุธรรม  จันทร์อ่อน  เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ  ปี 2553 สาขาบัญชีฟาร์ม

หมอดินดีเด่น  ศูนย์เรียนรู้ปศุสัตว์อินทรีย์ การเลี้ยงไก่ไข่

การพึ่งพาตนเอง อย่างเป็นระบบ



  • การมีกิน มีใช้ ไม่ขัดสน ในเมื่อมีกินมีใช้แต่พอดี ก็ไม่จำเป็นต้องไปแสวงหาเพิ่ม ผู้ใหญ่ท่านบอกว่า ท่านมีแปลงผัก 1 ไร่ แต่ใน 1 ปีมีรายได้จากการขายพืชผัก 200,000 บาทโดยไม่ต้องไปรดน้ำ พรวนดินใส่ปุ๋ยมา มีก็เก็บ ตายก็ปลูกใหม่ ใช้จุลินทรีย์ ปุ๋ยหมักที่ทำเองมาใส่แทนปุ๋ยเคมี ปลูกแค่ 20 อย่างๆละ 20-30 ต้น เอามาขายวันละ 5-10 บาท ต่ออย่างลองคำนวณดูเรามีรายได้วันละ 100-300 บาท เลยทีเดียว แปลงผักผู้ใหญ่ไม่มีการปลูกอะไรเป็นสัดส่วน แต่ปลูกตามสภาพพื้นที่ ปลูกผักหวานตามแนวทางเดิน ปลูกกล้วยไว้บังร่มให้พริก ปลูกผักปลัง ผักบุ้งมัน ไว้คุลมดิน แปลงผักของผู้ใหญ่จะใช้การตัดหญ้าแล้วเอาคลุมดินไว้ ไม่เผา แต่ก็ยังมีการใช้สปริงเกอร์ช่วยรดน้ำด้วยเหมือนกัน

  • การลดค่าใช้จ่าย (ต้นไม้จะเกื้อกูลกัน ใบไม้ที่ล่วงหล่นลงดิน ย่อมยังประโยชน์ต่อพื้นดินเสมอ) ทั้งเป็นปุ๋ย ทั้งห่มดินให้เย็น เมื่อผืนดินเย็นชุ่มชิ้นก็ไม่ต้องรดน้ำใส่ปุ๋ยมาก ไส้เดือนจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ก็มาอาศัยแถมบำรุงดินให้เราโดยที่เราไม่ต้องใส่ปุ๋ยเติมเข้าไป  ผู้ใหญ่บอกว่าต้นไม้ในป่าใหญ่ไม่มีใครไปใส่ปุ๋ยให้มันทำไมมันโตวันโตขึ้นแถมต้องแข่งกันโต เพราะหากว่ามันโตช้ามันจะไม่ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ แต่ใบไม้ที่ตกคลุมดินซิ มันตกวันละใบคุลมดิน แล้วย่อยสลาย ยิ่งทำให้เป็นปุ๋ย ท่านจึงพูดถึงชาวนาบ้านเรา เผาฟางข้าว ไม่ไถกลบตอซัง ก็เหมือนเราทำร้ายดิน เราทำลายความสมดุลของดิน เมื่อไม่มีความสมบูรณ์ชาวนาก็ต้องไปหามาเพิ่มด้วยการใส่ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ สารเร่งต่างๆ ซึ่งแม้จะเป็นธาตุอาหารสิ่งที่พืชต้องการก็จริง แต่พืชก็ยังต้องการธาตุอาหารรองเพื่อเพิ่มลักษณะพิเศษทางสายพันธ์ให้กับมัน

  • ผู้ใหญ่พูดถึงข้าวหอมเพราะท่านปลูกข้าวหอม ข้าวมีราคาแต่ชาวนาไทยไม่ปลูกเพราะผลผลิตต่อไร่ได้น้อย แต่ท่านทำและได้ผลผลิตสูงถึง 85 ถัง/ไร่  แต่ชาวนาบางคนแค่ 80 ถัง/ไร่ ด้วยข้าวสายพันธ์ธรรมดาก็เก่งแล้ว แต่ของผู้ใหญ่ไม่ซื้อปุ๋ย ไม่ฉีดยา แต่ได้ข้าวที่มีคุณภาพ ทั้งราคาดี เพราะเป็นข้าวหอมจริงๆ ทั้งยังทานอร่อย และมีราคาเพราะสีเป็นข้าวกล้องขายอย่างเดียวไม่สีเป็นข้าวขาว เพราะฉะนั้นต้นทุนจึงต่ำมาก คือปลูกข้าวกินเอง เก็บเมล็ดพันธ์ข้าวปลูกเอง ราคาข้าวจะถูกแพง ไม่มีผลกระทบ ทั้งยังมีการเก็บประวัติพันธ์ข้าวลักษณะดีของแต่ละสายพันธ์-จดบันทึก นับเมล็ดข้าวแต่ละรวงว่ามีพัฒนาการทางสายพันธ์อย่างไร

  • อันนี้ผมถือว่าเป็นคุณลักษณะที่ดีของการเป็นเกษตรกร ต้องมีการสังเกต การจดบันทึก มีการอ้างอิง มีการเปรียบเทียบ เพราะการทำเกษตรแบบยั่งยืนงานอีกอย่างที่ไม่มีวันเสร็จคือการปรับปรุง ปรับเปลี่ยนไปตามสภาวะของธรรมชาติ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ มันจะมีเรื่องให้เรียนรู้ได้ไม่มีสิ้นสุด ซึ่งการเลี้ยงไก่ของผู้ใหญ่ที่ได้มาก็เกิดจากการสังเกต การเฝ้าดูว่าไก่ไข่ที่นำมาเลี้ยงมันจิกกินใบไผ่ ก็เลยมีความคิดเลี้ยงไก่ไข่ในป่าไผ่ ลดต้นทุนของการ แต่ยังใช้ของเหลือใช้ปลายข้าวจากการสีข้าว และรำ และหยวกกล้วยมาให้เสริม และยังมาตามมาเรื่องการสังเกตไก่คุ้ยเขี่ยหากินปลวก ซึ่งเกิดจากการนำไม้ไปวางไว้ที่ชื้นๆ ก็จะเกิดปลวก ไก่ก็จะไปคุ้ยเขี่ยกิน ก็เกิดความคิดเพาะปลวกให้ไก่กิน แต่ก็มาพบว่าหากไก่กินโปรตีนสูงๆ จะทำให้ปริมาณการไข่ของไก่ลดต่ำลง จึงต้องเลี้ยงไก่ให้สัมพันธ์กับการเพาะปลวก อันนี้เป็นตัวอย่างของการช่างสังเกตของผู้ใหญ่ดังที่กล่าวมา

 


ขออภัยครับ บล็อกนี้วิชามากไปหน่อย แต่อยากแบ่งปันส่วนที่ไปได้ความรู้มา อาจมีสมช.ท่านใดสนใจนำความรู้ที่ได้มาไปใช้ ก็นับว่าประสบความสำเร็จในการถ่ายทอดแล้วครับ


ขออนุญาตเจ้าของบล็อกแปะลิงค์ สำหรับผู้สนใจเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่อินทรีย์ของ ผญ.สุธรรมสามารถโหลดไปศึกษาได้ตามลิงค์ด้านล่างนะครับ โดยคุณวิทย์ witlessness

การเลี้ยงไก่อินทรีย์แบบปล่อย


ขอขอบคุณภาพจาก http://www.oknation.net/blog/lovelearnlife/2010/10/07/entry-1  


ความเห็น

ลุงสุธรรมมีที่ 17 ไร่  สมมุติว่าเขาต้องการมีรายได้ 200-300บาทต่อวัน   เราก็ดูเป็นแบบอย่าง  แล้วก็มาบริหารที่ที่เรามีอยู่ เอาแค่ 50ตารางวา(ที่แพง)ก็พอ  แล้วทำให้มีรายได้วันละ200-300 บาท  แสดงว่า เราดู-คิด-ทำ-สำเร็จ

หลักการของ ผญ.สุธรรม เป็นหลักการที่ใครๆก็สามารถนำมาปรับใช้ได้ครับ


ถ้าเดินเรื่อยไป ย่อมถึงปลายทาง

ข้อมูลแน่นดีจ้า ชอบๆๆๆ

อย่างนี้ต้องโหวตจ้า..

ขอบคุณค่ะ

วันหลังไปบ้านพี่โจมั้งดีกว่านะ  :admire2:

ถ้าเดินเรื่อยไป ย่อมถึงปลายทาง

ขอบคุณค่ะ..เอส...ไปเที่ยวแล้ว...ยังมีเนื้อหาสาระมาฝาก...จะนำมาปรับใช้นะคะ

ชีวืตที่เพียงพอ..

กำลังจะเขียนตอน 2 ไม่รู้ว่าชอบหรือป่าว วิชาการเยอะๆเนี่ย :sweating:

ถ้าเดินเรื่อยไป ย่อมถึงปลายทาง

เห็นคุณเอสในรูปถือสมุดจดวิชาเล่มใหญ่เชียว  เลยมีข้อมูลทางวิชาการดี ๆ

มาแบ่งปันกัน  ขอบคุณมากค่ะ

ยินดีครับที่มันไม่น่าเบื่อจนเกินไป :sweating:

ถ้าเดินเรื่อยไป ย่อมถึงปลายทาง

ขอบคุณที่ให้ความรู้ดี ๆ เพิ่มขึ้นอีกค่ะ...

 

"แค่พอเพียง...ก็เพียงพอ"

ยินดีครับหากมีประโยชน์กับเพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน :sweating:

ถ้าเดินเรื่อยไป ย่อมถึงปลายทาง

หน้า