มิงกะลาบา (ตอนจบ)
เป็นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ ถือว่าเป็นไฮไล้ท์ของการนำเที่ยวในครั้งนี้
จากมัณฑะเลย์ บินลัดฟ้ากลับมาที่กรุงย่างกุ้ง ได้มีโอกาสไปแวะชมพิพิธภัณฑ์ที่นั่น ถ้าไปกับทัวร์ จะไม่มีโปรแกรมนี้ เสียดายเขาไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ภายในแสดงเครื่องราชูปโภคต่างๆ ของกษัตริย์พม่า ทุกอย่างเป็นทองล้วนๆ วิจิตรอลังการมากๆ เขาบอกว่า ที่เห็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง หลายๆ อย่าง ถูกขนไปในช่วงที่ตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ
ฉันเดินทางมาถึงมหาเจดีย์ชเวดากอง ประมาณตอนเย็น การขึ้นมาที่นี่ ค่อนข้างสะดวกสบาย เพราะมีบันไดเลื่อนให้ พอมาถึง ก็มีฝนตกโปรยปราย บางช่วงก็หนัก แต่เราก็สู้ไม่ถอย รู้สึกเหมือนมีเทวดามาคอยปะพรมน้ำมนต์ให้ ผู้คนขวักไขว่ ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ แม้ว่าจะมีผู้คนหลั่งไหลมามาก แต่ก็ไม่วุ่นวายโหวกเหวก ไม่มีเสียงลำโพง หรือกลิ่นธูปมารบกวน ไม่รู้สึกเหงาเหมือนเดินอยู่ในป่าคอนกรีต ใจสบายอย่างบอกไม่ถูก เหมือนได้อยู่บนสรวงสวรรค์ เลยค่ะ
มาชมภาพความอลังการของพระมหาเจดีย์ชเวดากองกัน
มหาเจดีย์ชเวดากอง เป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุ รวม 8 เส้น ของพระพุทธเจ้า มีประวัติตำนานเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ตั้งแต่ครั้งที่ย่างกุ้งยังเป็นดินแดนของมอญก่อนจะถูกพม่ายึดครองไป “ชเวดากอง” แปลว่า “เจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง” ซึ่งเป็นชื่อเดิมของกรุงย่างกุ้ง มหาเจดีย์แห่งนี้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์มาแล้วหลายครั้ง ตามโบราณราชประเพณีกษัตริย์ของมอญและพม่าที่จะขึ้นครองราชย์จะต้องถวายทองคำหนักเท่ากับน้ำหนักของพระองค์ เพื่อนำมาห่อหุ้มองค์พระเจดีย์ซึ่งถือกันว่าเป็นศูนย์กลางแห่งจิตวิญญาณของชาวพุทธที่สำคัญที่สุดมาจนถึงทุกวันนี้
ขอเชิญชมภาพบรรยากาศของมหาเจดีย์ชเวดากองในมุมมองและห้วงเวลาต่างๆ กัน
ภาพสุดท้ายที่เห็นแสงสว่างบนยอดเจดีย์นั้น คืออัญมณีขนาดใหญ่ที่มีการนำไปประดับบนยอด ถ้าเรายืนอยู่ในตำแหน่งต่างๆ
ที่ถูกต้อง จะเห็นประกายแสงที่มีสีแตกต่างกันออกไป
ประสบการณ์จากท่องเที่ยวในครั้งนี้ ทำให้ฉันได้เรียนรู้และพอจะเริ่มเข้าใจว่า ความสุขที่แท้จริง คืออะไร ไม่ใช่เงินทองแน่นอน เพราะสิ่งเหล่านี้ ซื้อได้เพียงแต่ความสะดวกสบายเท่านั้น และก็ไม่ใช่ความสนุกสนานตามกระแสไปวันๆ เพราะเดี๋ยวมันผ่านมา แล้วก็ผ่านไป บทสรุปของฉัน ความสุขที่แท้จริง ก็คือ ความนิ่ง สงบ เย็น พร้อมเสมอที่จะเผชิญหน้ากับความสุขและความทุกข์ ด้วยใจที่สงบนิ่ง แว่บหนึ่งของความคิด บางทีก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า ต่อไปนี้ พระเจ้าจะส่งบททดสอบอะไรมาให้ฉันอีก ฉันหวังว่า คราวนี้คงจะผ่านไปได้อย่างง่ายดาย ไม่สะบักสะบอมเหมือนที่ผ่านๆ มา
ก่อนกลับ ฉันได้อธิษฐานต่อองค์มหาเจดีย์ ไว้ด้งนี้
ข้อ ๑. ขอให้ฉันถึงพร้อมด้วยสติและปัญญาในทุกสถานการณ์
ข้อ ๒. หากชาติหน้ามีจริง ขอได้เป็นพุทธศาสนิกชนที่แท้จริง
ข้อ ๓. ขอให้ได้กลับมาที่นี่อีก
(ไม่รู้ว่า จะเป็นการขอที่มากเกินไปหรือเปล่า)
จบการนำชมแต่เพียงเท่านี้ ขอให้ทุกท่านประสบกับความสุขที่แท้จริง สวัสดีค่ะ
- บล็อกของ Moonlight
- อ่าน 3418 ครั้ง
ความเห็น
ครอง
29 กันยายน, 2011 - 21:49
Permalink
Re: มิงกะลาบา (ตอนจบ)
ตามมาเที่ยว ครบ 3 ตอน คะ ขอบคุณที่นำมาไห้ชมคะ
ยุพิน เทลเก็น
29 กันยายน, 2011 - 22:43
Permalink
Re: มิงกะลาบา (ตอนจบ)
สวยจริงๆค่ะ
แผ่นดินไหนก็ไม่มีความสุขเหมือนแผ่นดินเกิด อยากกลับบ้านจัง
ทดสอบ
เกิดกับหมอตำแย
30 กันยายน, 2011 - 00:59
Permalink
Re: มิงกะลาบา (ตอนจบ)
ภาพสวยค่ะ ตามเที่ยวด้วยคน :embarrassed:
sudjai_waitong@hotmail.com
0805401058
RUT2518
30 กันยายน, 2011 - 05:19
Permalink
Re: มิงกะลาบา (ตอนจบ)
สวยงามจริงๆ ครับ
สนิทเมืองอุดร
30 กันยายน, 2011 - 05:55
Permalink
Re: มิงกะลาบา (ตอนจบ)
สวยงามจริงๆครับเห็นแล้วอยากไปครับ
ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว
บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
jo korakod
30 กันยายน, 2011 - 05:55
Permalink
Re: มิงกะลาบา (ตอนจบ)
สวย และ สงบ ค่ะ
:admire2:
facebook https://www.facebook.com/ninkmax
krunarong
30 กันยายน, 2011 - 08:38
Permalink
Re: มิงกะลาบา (ตอนจบ)
สวยงามครับ ถ่ายภาพแจ๋วด้วย... ขอบคุณครับ :bye:
panatda
30 กันยายน, 2011 - 09:35
Permalink
Re: มิงกะลาบา (ตอนจบ)
บรรยากาศน่าไปเที่ยวมากๆๆค่ะ ภาพสวยค่ะ
นายลำใย ศรีษะแก้ว
30 กันยายน, 2011 - 09:47
Permalink
Re: มิงกะลาบา (ตอนจบ)
อยากไปเที่ยวจัง..ตอนนี้แค่ตามมาเที่ยวด้วย..มีโอกาสไปแน่นอน..อยากเห็นเจดีย์ชะเวดากองกับตาตัวเองสักครั้งคงจะสวยน่าดู..