งานฝีมือของผม

หมวดหมู่ของบล็อก: 


เรื่องก็มีอยู่ว่า ตั้งแต่ผมโตพอจำความได้ผมก็เห็นพ่อแม่พี่ ๆของผมแต่ละเขาจะชอบทำโน่นทำนี่เกี่ยวกับงานฝีมือ ผมไม่รู้นะว่าเรียกงานฝีมือจะถูกหรือปล่าว อย่างพ่อผมเนี่ยะชอบตัดกระดาษเป็นธง,เป็นแข้งสิงห์(แข้งสิงห์คือตัดกระดาษให้เป็นสร้อยแล้วเอาไปพันไม้เป็นไม้เสียบตังค์อ่ะครับ)ประดับประดาชะลอมไปทำบุญที่วัด ส่วนแม่ผมก็ชอบปลูกดอกไม้เอาไว้ไปไหว้พระ แม่ก็จะคิดประดิษประดอยแต่งขันกัณฑ์เทศน์ สำหรับพี่ชายคนโตก็จะเหลาไม้ทำคันเบ็ดมั่งเย็บแหบ้างกับดักหนูอะอีกเยอะอยะ พี่สาวนั้นไม่ค่อยชอบทำอะไร แต่ถ้าเมื่อไหร่ทำก็จะออกมาสวย,ดีที่หนึ่งประมาณนั้นอ่ะครับ พี่ชายอีกคนเป็นช่างไม้ครับคนนี้ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับทางบ้านเท่าไหร่เพราะเขาไม่ค่อยอยู่บ้านครับแล้วก็มาถึงผม ชีวิตที่เคยเห็นแต่งานฝีมืออาจจะทำให้ผมเป็นคนที่ชอบงานฝีมือ


 

แต่อีกนิสัยหนึ่งที่ได้มาจากพี่ชายคนโตก็คือ พี่แกชอบหาปลาครับ หามาแล้วก็มาใช้ให้ผมเอาไปขาย ตอนแรกผมก็ไม่ชอบเลยทำไมต้องใช้ผมคนเดียว แต่ตอนหลังพี่จะให้ค่าขนมไปโรงเรียนเพิ่ม เลยชอบใจใหญ่ เพราะได้เงินใช้ง่ายดี แฮ่ ๆ นิสัยขายของได้มาเพราะพี่ชายนี่แระครับ อรามภบทมากไปแล้วครับเดี๋ยวจะขี้เกียจอ่านกันเน๊าะ แฮ่ ๆ เมื่อหลายปีก่อนนี้ผมตัดสินใจออกจากงานประจำที่ทำอยู่ด้วยว่าอยากกลับไปอยู่บ้านไปปลูกผักและหาอะไรทำเป็นกิจกรรมของครอบครัวครับ ในตอนนั้นใจมันสู้ครับคิดแต่ว่ายังไงก็อยู่ได้ แต่พอไปอยู่เข้าจริง ๆด้วยความที่จากบ้านมานานไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงเลยครับ เพราะความรู้เรื่องการเกษตรก็ไม่มีเลย ไปถามใครเขาก็ได้แต่คำตอบที่ทำให้หมดกำลังใจ นั่งหายใจทิ้งไปวัน ๆ ถ้าได้รู้จักเว็บบ้านสวนนี้ในตอนนั้นผมรับรองเลยว่าผมคงไม่ระเหเร่ร่อนออกจากบ้านมาอีก อุ่ย พูดเพ้อไปอีกแล้ว แฮ่ ๆ


 

ในระหว่างที่นั่งหายใจทิ้งไปวัน ๆนั้น ก้พอดีกับลมหนาวเริ่มพัด ทำให้คิดถึงสมัยเป็นเด็ก ๆในหน้าหนาวแภวบ้านผมเขาจะเคี่ยวน้ำอ้อยกันครับ กลางวันไปตัดอ้อยตีสี่ตีห้าต้องไปเข้าคิวโรงหีบไม่งั้นคิวยาวกว่าจะได้หีบก็อาจจะเที่ยงวันต่อมา เด็กหนุ่มสมัยนั้นก็ทำว่าวไปวิ่งเล่นกัน ก็มีว่าวหลายยี่ห้อด้วยกันครับ ว่าวอี๊ร๊า,ว่าวอี๊ลุ้ม,ว่าวอี๊แซว ต่างก็แต่งอวดกันว่าของใครจะสวย จะเสียงดัง จะขึ้นฟ้าหรือปักลงดิน ย้อนกลับมาตอนที่ผมนั่งหายใจทิ้งไปวัน ๆแล้วคิดถึงช่วงวัยเด็ก ความคิดก็ปิ้งทำว่าวขาย หาเงินให้พ่อซื้อกับข้าวดีกว่า เมื่อความคิดเกิดก็เริ่มลงมือทันที ไปสั่งซื้อไม้ไผ่ลำนึงสี่สิบบาทให้เขาตัดแบกมาส่งด้วย เมื่อไม้มาถึงก็จัดการฟันไม้โช๊ะ ๆ...พ่อเดินมาถามจะทำอะไร บอกพ่อไปว่าจะทำว่าวขาย พ่อก็เงียบ แม่เดินมาถามอีกคนจะทำอะไร บอกแม่ทำว่าวขาย แม่บอกว่าจะไปขายใคร ผมตอบไปไม่ลองไม่รู้ เอาไว้มีว่าวก่อนแล้วก็รู้เองว่าจะขายใคร ขายได้ไม่ได้ตอนนั้นก็รู้เอง แม่ช่วยเหลาไม้ได้ไหม แม่ไม่ตอบแต่ลงมือช่วย ผมมองดูเงินในกระเป๋ามีแบ้งค์ร้อยใบเดียวเอาไปลงทุนซื้อกระดาษซื้อเชือกมา กลับบ้านมาแม่เหลาไม้ไว้ให้ ผมเกลาต่อจนได้พอดี ลงมือมัดออกมาเป็นว่าวอี๊แซว จากนั้นเริ่มลงมือแปะกระดาษมัดสายซุงเด็ก ๆเริ่มมามองมามุงตั้งแต่แปะกระดาษแล้วครับ เด็ก ๆให้ความคิดผมวาดรูปการ์ตูนลงไปด้วย แต่ผมไม่ถนัดเลยเรื่องวาดเขียน ผมไปเรียกน้องสาวมา เฮ้อช่วยหน่อย น้องสาวก็ลงมือวาดตามที่เด็กขอและตามจินตนาการของเขา

ว่าวของผมเริ่มเป็นที่โจทย์ขาน เด็กใกล ๆเริ่มแวะเวียนมาดูจนต้องสั่งซื้อไม้ไผ่เพิ่มอีกลำ ถ้าถามว่าขายดีมั้ยสำหรับผมในตอนนั้น ผมว่าดีครับเพราะผมมีเงินให้พ่อไปซื้อกับข้าวได้ทุกวัน พ่อก็เริ่มเห็นว่าขายดีบางครั้งออกไม่ทันก็ยังคอยช่วยเหลาไม้ไผ่ให้ผม ราคาตัวเล็กก็ตัวละสิบบาทเองครับขนาดกลางหน่อยก็สิบห้าบาท โตขึ้นก็ยี่สิบห้าบาท แต่แล้วลมหนาวก็หมด ว่าวเริ่มขายไม่ได้ แต่ไม้ไผ่ยังเหลือทำไงดี มือเริ่มก่ายหน้าผากจะเอาเงินที่ใหนให้พ่อซื้อกับข้าวได้อีก พอดีก็ใกล้งานบุญชาวบ้านจะทำชะลอมทานไปวัดกัน เอาเลยวานแม่วานพ่ออีกทีเหลาช่วยเหลาไม้หน่อย พ่อแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรลงมือช่วยตามที่ขอ

ผมมีหน้าที่สาน สานแล้วดากแดดให้แห้งเพื่อจะได้ไม่ขึ้นรา พี่สาวเริ่มทำดอกไม้กระดาษ พ่อเริ่มตัดแข้งสิงห์และธง ใกล้งานบุญเข้ามาเรื่อย ๆไม่มีคนมาซื้อเริ่มกลุ้มอีกแล้ว เพราะค่ากระดาษหมดไปหลายร้อย ถ้าเก็บเอาไว้ให้พ่อซื้อกับข้าวก็อยู่ได้เป็นอาทิตย์ ทำไงดี เหอะน่ามันต้องขายได้นับชะลอมที่สานไว้ได้เกือบร้อยลูก ลูกละสิบบาทร้องขายไปแต่รับแปะกระดาษพร้อมดอกไม้กระดาษหนึ่งช่อรวมราคายี่สิบบาท ส่วนแข้งสิงห์กับธงก็ให้ฟรี เพราะพ่อทำเอาบุญมานานแล้ว

บางคนได้ยินก็มาสั่งจองไว้แล้วเขาไปช่วยกระจายข่าวต่อ ข่าวเริ่มกระจายไปไกลคนต่างหมู่บ้านยังมาซื้อไม่กี่วันชะลอมเกลี้ยงเลยดอกไม้ก็ออกไม่ทัน หลายคนมาแล้วผิดหวัง แต่ก็เป็นเวลาสั้น ๆที่ทำเงินให้พ่อไปซื้อกับข้าวมากิน ก็ไม่รู้หรอกครับว่าทำไมไม่คิดปลูกผักกิน ทั้ง ๆที่ตั้งใจกลับไปปลูกผักแท้ ๆสุดท้ายชีวิตก็ผกผันต้องจากบ้านมาอีกครั้ง

ทิ้งพ่อให้กินมาม่า ทิ้งแม่ใก้กินข้าวกับปลาเกลือ

ส่วนผมพาไอ้โก๊ะเอาตัวรอดมาคนเดียว...คิดแล้วเศร้าครับ



แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีงานทำ เลยต้องหาอะไรที่ถนัดทำไปวัน ๆเผื่อว่าขายได้จะได้มีเงินส่งไปให้พ่อกับแม่บ้างก็เท่านั้นเองครับ

ที่เล่ามาก็เพื่อจะบอกโน่ว่าผมไม่ได้ทำเป็นแต่งานของผู้หญิงนะครับ แต่ที่ทำเพราะมันขายได้อ่ะครับ แฮ่ ๆ



ความเห็น

ตุ๊กตาน่ารักมากๆๆ   ก็กลับไปอยู่กับท่านซิคะจะได้อบอุ่น

ขอบคุณครับ.. :cool:

ตัดสินใจเดินออกมาหันกลับไม่ได้แล้วครับเพราะมีไอ้โก๊ะครับ

:cheer3:สวยจังค่ะ ฝีมือเยี่ยมจริง ๆ อิอิ ถูบ้านยังวันนี้ เดี่ยวโดนเอ็ดนะ:uhuhuh:

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

ฮ๊า ฮ่า ๆ แอบจิก ๆ อาทิตย์นึงถึงจะถูบ้านครั้งนึงครับ

ถ้าไม่ได้ทำเมียไม่เอ็ดครับ แต่ถูกตัวไม่ได้เลย แม่จะข่วนเอาซะงั้น...แฮ่ ๆ :sweating:

 วันนี้ลุงจวบลงบล็อก ผมอ่านจนตาลายมึนโอย แต่ก็จบจนได้ ไม่น่าเชื่อว่าลุง จะเป็นคนระเหเร่ร่อน ดูภาพประจำตัวเหมือนกับเกษตรกรตัวจริง อิอิ

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

ภาพเรียกแขกอ่ะครับพี่เสิน ฮ่า ๆ

ขอบคุณครับที่ทนตาลายอ่านจนจบ ฮิ ๆ

อารมณ์คิดถึงบ้านอ่ะครับ ห่วงแม่ครับ พิมพ์ไปน้ำตางี้พราก ๆเลย ฮ่า ๆ

ค่อยเป็นค่อยไป มันไม่แน่หรอกนาย(เพลง)

ครับ...หวังไว้ซักวันคงดีขึ้น และทำได้ดีกว่านี้ครับ

ต๊กตายกมือยอมแพ้ได้ แต่คนอย่ายอมแพ้นะครับ

สวนจินตนาการ

นำจินตนาการ มาผสานให้เป็นจริง

ไม่ครับ ไม่เคยยอมแพ้ครับ ..... :beg: ขอบคุณครับ

หน้า