เตรียมพื้นที่ปลูกผักไฮโดรน้ำหมัก

หมวดหมู่ของบล็อก: 

สืบเนื่องจากการที่ได้เห็นบล็อกปลูกผักไฮโดรใช้น้ำหมักแทนน้ำยาเคมีของพี่วัด-ฉะ-ริน อ้าว! ม่ายช่าย...พี่วัชรินทร์  ทหารกล้า...

ธนนันท์ก็ระริกระรี้อยากลองมั่ง โห!...ไม่น่าเชื่อความฝันที่จะปลูกผักแบบนี้ถูกฝังกลบไปนานเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้ว เพราะเขามีแต่สูตรที่ใช้น้ำยาสารเคมีปลูกกัน ซึ่งธนนันท์เป็นไม้เบื่อไม้เมากับสารเคมีทุกชนิด

แป้งก็ไม่ใช้ ที่ทาปากแดง ๆ ก็ไม่ใช้ ยาสีฟัน สบู่ แชมพู ผงซักผ้า น้ำยาล้างจานก็ทำใช้เอง (จะออกแนวซกมกไปหรือเปล่าเนี่ย)  สูตรปลูกผักโดยใช้น้ำหมักของพี่วัชคราวนี้เข้าทางธนนันท์เลยค่ะ  ก่อนอื่นก็ต้องเตรียมการก่อน ข้าวของอุปกรณ์มีอยู่พร้อมแล้ว แทบจะไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมเลย ยังคิดไม่ออกว่าจะต้องซื้ออะไรเพิ่ม ต้องลอง ๆ ลงมือทำก่อน

 

 

ตรงนี้ล่ะค่ะสมรภูมิรบ ต้องรบกับความรกรุงรังก่อน แสลนก็ต้องรื้อออก เพราะขึงกันแดดให้ผักหลายเดือนแล้ว ก่อนน้องน้ำจะมาจนน้องน้ำผ่านไปแล้ว...ไปไม่ไปเปล่า ชวนน้องผักไปด้วยกัน เหลือแต่มัน ต้องรื้อไปหาที่ปลูกใหม่


 

เคลียร์พื้นที่  พ่อใหญ่คนนี้ถูกกดดันถ้าไม่มาช่วยจะขายไก่ยกเล้า เพราะไก่เจ้าสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้คนอื่น  บ่อเปล่า ๆ ไม่มีอะไรนี้ เป็นบ่อเลี้ยงกบ ปีนี้งดเพาะ...เพราะไม่มีเวลาพอ  มี 5 บ่อ แปลงร่างเป็นบ่อเห็ดขอนขาวไปแล้ว 2 บ่อ 

 

                                                                                                                         

 

                                                            เผาทำลายหลักฐาน

 

 

ความรกจงถูกกำจัดออกไป เพี้ยง!

 

 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เกลี้ยงในพริบตา...ใครไม่เชื่ออย่าลบหลู่...ดูหมิ่น

 

 

ท่อ ขนาดต่าง ๆ พร้อม ยังมีอีกแต่วันนี้ขนแค่นี้ก่อนไม่พอค่อยไปเอามาเพิ่ม ท่อแช่น้ำมีแต่โคลน

 

 

กระเบื้องเหลือจากการต่อเติมบ้านพี่สาวขนมาไว้หลายปีแล้ว  เย้!..จะได้ใช้แล้ว มี 30 แผ่น  ข้อต่อชนิดต่าง ๆ พรุ่งนี้ต้องไปรื้อในลังอีก ท่อเล็กท่อน้อยยังเหลือเยอะ  เพราะเป็นผู้รับเหมารายย่อยด้วย  (ย่อยจริง ๆ รับงานแค่ 3-4 หลัง) มีเครื่องมือช่างเกือบทุกอย่าง ขาดอย่างเดียวคือ "ตัวช่าง"   จ้างช่างมา เดินมาแต่ตัว เครื่องมือมาเอาที่บ้าน พ่อน้องโต๋ เลื่อยก็ไม่กล้าใช้ กบไสก็ไม่กล้าใช้ เครื่องเชื่อมก็ไม่กล้าแตะ ดีหน่อยยังจับสว่านได้...คงคุ้น ๆ อิอิ... 

 

 

                                     

 

น้ำยังอยู่ลงยังไม่หมด วันนี้ก็ปล่อยลงเยอะแล้ว พรุ่งนี้อาจแห้ง ท่อกองนี้โดนท่วมมิด คนยืนอยู่ประมาณอก ขนมาจากระยอง ซื้อมาทำน้ำเหวี่ยง ซื้อท่อหมด 20,000  ขายพริกได้ 8000 บาท  กำไรเพียบ!...

 

 

                                      

 

ส่งการบ้านตัวเองด้วย เพาะเสาวรส ลูกยอไว้  ให้บรรดาคุณครูดูด้วยนักเรียนไม่อู้นะคะ กำลังเพาะอยู่จ้า... 

 

 

ก่อนที่จะจบบล็อกนี้ขอฝากข่าวหาเพื่อน ๆ สมช. ที่ขอเม็ดพันธุ์ไว้ รอแป๊บเดี๋ยวส่งให้ค่ะ...

 

ขอบคุณบ้านสวนพอเพียงที่ทำให้เรามีเพื่อนมากมาย มีความรักและการแบ่งปัน  

 


ความเห็น

 

ตอนเพาะเม็ดนี่แหละจะไม่กล้าให้ใครดู ต้องให้เกิดเป็นต้นแน่ ๆ ถึงกล้าโชว์ เกิดตายกลางอากาศขึ้นมา อับอายขายขี้หน้าไปเจ็ดชั่วโคตะระ เลย...:sweating:

 

น้ำหมักที่เตรียมไว้สงสัยจะเป็นสูตรเดียวกับน้องนัฐ สูตรมั่ว เอ๊ะ!...นี่ศิษย์ครูเดียวกันหรือปล่าวจ๊ะ?...คุ้น ๆ... :uhuhuh:

คุณ ธนนันท์ เขียนบ่อยๆ นะครับ ตามอ่านสนุกเลยอ่านแล้วมีความสุข ประกอบกับชื่นชมครับ

ยังไงเป็นกำลังใจให้ครับคุณ

ลูกยอผมเพาะไว้ไม่งอกเลยครับ ไม่ทราบเพาะยังไงให้งอกออกมางามแบบนั้นได้นะครับ รบกวนด้วยครับ

คุณน้องตุ้ย สงสัยต้องเปิดรับสมัครแควนพันธุ์แท้ อิอิ อายเหมือนกันนะเนี่ย.. :shy:   คนอะไรจะขยันหาเรื่องมาโม้ได้ทุกบ่อย เอาไว้สลับกันน้องตุ้ยเขียนเรื่องราวสนุก ๆ ที่เมืองนอก มาเล่าให้ฟังอีกก่อน ภาพสวย ๆ ด้วย ให้คนที่ไม่มีวาสนาอย่างพี่ได้ยล...:love:

 

ลูกยอ เพาะยากอยู่เหรอคะ พี่แค่บี้ ๆ โยน ๆ ลงแปลง ก็เกิดให้ ต้องตัดใจถอนทิ้งไปมั่ง บางทีไก่ก็ช่วยถอนมั่ง ไม่เห็นจะยากเลย  ลองใหม่ค่ะ โยนทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไม่ต้องสนใจ (คำแนะนำเป็นหลักวิชาการมากเลย นักเกษตรมืออาชีพมองค้อน 3 ตลบ)

กำลังเริ่ม... รอติดตามตอนต่อไปนะคะ

....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....

ต้องรอหน่อยค่ะ เพราะช่วงนี้กำลังเร่งเกี่ยวข้าว วันไหนว่างว่าจะไปตัดไม้ไผ่มาทำโต๊ะ จะได้ไม่เปลืองตังค์ซื้อเหล็ก เห็นพี่วัชบอกว่าใช้ไม้ไผ่ก็ได้ 

เจ้าแม่น้ำหมักสมคำเล่าลือจริง ๆ:cheer3: ดีนะบล็อกนี้ไม่มีกบ อิอิ กลัวเผ่นไม่ทัน:sweating:

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

 

     เหลือแต่บ่อเปล่าเอากบออกไปหมดแล้ว เข้ามาดูใกล้ ๆ ได้ค่ะ..:love:

ขยันจังเลย

แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง

 

ขยันอีกแล้วป้านันท์ ...อย่าลืมมาเล่าต่อเด้อค่ะ !!!

หน้า