ตากับยาย ... ตัวอย่างความพอเพียงสำหรับผม

หมวดหมู่ของบล็อก: 


ตากับยายผมครับ ตอนนี้ตาอายุ 83 ปี ส่วนยายอายุ 85 ปี ยายเป็นพี่ตาสองปีครับ นับตั้งแต่ผมจำความได้ ตากับยายมีชีวิตอยู่อย่างง่ายๆ ประหยัดและพอเพียง ถึงแม้ตากับยายมีอาชีพเป็นชาวนา แต่เมื่อลูกหลานเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่าย ตากับยายจะเป็นคนแรกที่หยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้



ตอนนี้ยายไม่ค่อยแข็งแรงแล้ว แต่ถ้ามีแรงเมื่อไหร่ ยายจะไม่หยุดนิ่ง ปลูกพืชผักบ้าง ถางหญ้าบ้าง ถึงแม้ลูกหลานจะห้ามไม่ให้ทำ แกก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ อย่างในภาพยายกำลังปลูกต้นกล้วยครับ



ต้นกล้วยที่ยายปลูก ตอนนี้ติดผลแล้วครับ และยังขยายขึ้นเป็นกอขนาดใหญ่ให้ลูกหลานได้เก็บกินอีกนาน



ส่วนตายังแข็งแรงอยู่ครับ สามารถขับมอเตอร์ไซด์ไปวัดหรือที่ใกล้ๆ ได้




ตาก็ไม่ค่อยอยู่นิ่งเหมือนกันครับ งานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ที่พอทำได้ ตาก็จะทำ




หญ้าคามุงหลังคาที่เป็นผลงานของตาครับ



และนี่เป็นสวนผักของตากับยาย ปลูกเองกินเองครับ อาจแจกหรือขายบ้างหากมีคนมาขอซื้อ


ผมสังเกตอาหารที่ตากับยายทานในแต่ละวัน ไม่มีเลยที่มีมื้อไหนจะขาดพืชผักที่ปลูกเอง หรือหากปลูกไม่ทันกินจริงๆ ก็จะได้ผักข้างรั้วมาแทน ... และนี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตากับยายอายุยืนและแข็งแรง

ความเห็น

ชื่นชมครับ วิถีชีวิตแบบดั่งเดิมกินอยู่ง่าย ๆ อยู่กับธรรมชาติ ชอบจริง ๆ ครับ

 

ชอบจังเลยวิถีชีวิตแบบนี้  แม่อายุเจ็ดสิบกว่าก็ชอบขุดดินปลูกผักเหมือนกัน ยังแข็งแรงอยู่เลย  ถ้าไม่ได้ทำอะไรแม่บอกว่าเมื่อยตัว

ดีจังเลยค่ะ เห็นวิถีชีวิตแบบนี้แล้วอยากกลับบ้าน

"ความสุขของชีวิตในวันนี้ คือทำตามวิถีพอเพียงของพ่อ"

คู่แท้จริง ๆ

"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"

เห็นตากับยายแล้วคิดถึงแม่จัง....

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

 ชอบชีวิตของตา-ยาย อย่างเป็นแบบนี้บ้าง

กินที่ปลูก ปลูกที่กิน ชีวิตยืนยาว....ขอให้ตาย-ยายอยู่เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูกหลานนาน ๆ นะคะ

ขอบคุณมากครับ เป็นแบบอย่างที่ดีจริง ๆ ครับ

 

เคยได้ยิน "ตามหลังผู้ใหญ่ หมาไม่กัด" 

คนปัจจุบัน สารพันสารพัดเป็นโรค จากการบริโภคนิยม

ไม่ตามหลังผู้ใหญ่ หมาเลยกัด..

เพราะเอาเท่ห์ เอามัน เอาหรอย ได้แรกอก เป็นที่ตั้ง

ไม่ถูกปาก ไม่ต้องการ ไปให้ไกลๆ ผล...คนป่วยเต็มโรงหมอ

..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..

 

หน้า