ได้เวลา ขาย... หมูหลุม
จำได้ว่าเคยสมัครเป็นสมาชิกบ้านสวนพอเพียงแห่งนี้ตั้งแต่ กค/52 ตอนนั้นเริ่มศึกษา ดูงานการเลี้ยงหมูหลุม จนต้น ม.ค/53จึงได้เริ่มสร้างคอกหมูหลุมเล็กๆของตัวเอง โดยให้พ่อ-แม่ดูแลอยู่ที่บ้านตัวผมเองยังคงทำงานประจำอยู่ที่ กทม. หลังจากนั้นจึงได้ไปซื้อลูกหมูชาวบ้านมาเลี้ยง -จนถึงเมื่อวันที่ 10 มิ.ย/53 ที่ผ่านมาหมูหลุมที่เลี้ยงไว้ก็โตพอจะขับขายได้ จึงติดต่อพ่อค้า้เขียงมาจับหมู เป็นยังไงลองไปดูกันครับ
น้องหมูนอนรวมตัวกันก่อนจะถูกจับ
รอคอยพ่อค้าเขียงมาจับ
ตัวแรกถูกจับขึ้นรถ
ตัวที่ สอง ที่ สาม ตามมา
จนครบ 11 ตัว แม่ผมถึงกลับน้ำตาไหล จากการที่คลุกคลีเลี้ยงมันมาเกือบ 6 เดือน ผมได้แต่ปลอบว่ามันเป็นอาหารเลี้ยงสัตว์โลก (อย่างมนุษย์เรา ต้องขอโทษสำหรับคนที่ไม่ทานหมูด้วยนะครับ)
- บล็อกของ kitipong
- อ่าน 11335 ครั้ง
ความเห็น
จันทร์เจ้า
6 กรกฎาคม, 2010 - 13:19
Permalink
ไม่เป็นไรนะ
มันเป็นอาชีพน่ะ (แต่ก็สงสารเนอะ)
ขายได้กำไรเยอะมั้ยคะ
พอเพียง และ เพียงพอ บ้านไร่จันทร์เจ้า
kitipong
6 กรกฎาคม, 2010 - 13:24
Permalink
ตอบ
ครับพี่ มันเป็นสัจธรรมเนาะ เราคิดเสียว่าเราทำมาหาเลี้ยงชืพโดยสุจริต พอได้บ้างครับพี่แต่ไม่เยอะหรอก พอมีแรงทำต่อไปครับ
สวัสดีครับ จำป้อจายคนนี้ได้ก่
สวนบ้านน้ำทรง
6 กรกฎาคม, 2010 - 13:42
Permalink
ข้อเสียของการเลี้ยงสัตว์ก็คือ
ข้อเสียของการเลี้ยงสัตว์ก็คือ เรื่องความผูกพันครับ
พอเลี้ยงไปนานๆชักไม่อยากขาย เพราะสงสารมัน
สมัยผมเด็กๆ มีควายที่บ้านปู่ย่าผม แกเลี้ยงมันมาตั้งแต่เกิด
ใช้งานมานาน พอมันแก่ตายลง แกให้ขุดหลุมฝังเลย เนื้อก็ไม่ให้ใครมาแล่กินครับ
ไก่ดำ สวนบ้านน้ำทรง
จ.นครสวรรค์
นู๋พร
6 กรกฎาคม, 2010 - 13:43
Permalink
สงสาร
เลี้ยงแล้วไม่อยากขายเลย มันรู้สึกผูกพันนะ
(คนเคยเลี้ยงวัว )
เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ ทำทีละอย่าง
แดง อุบล
6 กรกฎาคม, 2010 - 13:51
Permalink
บทเรียนราคาแพง สำหรับพี่นะ
เมื่อก่อนพี่เคยเลี้ยงวัวเพราะต้องการขี้วัวมาใส่สวนยางพารา แต่เมื่อมันโตมันเยอะขึ้น เหยียบรากยางพาราด้วย พี่ตัดใจขายเลย วัวพี่ทุกวัวจะมีชื่อ บางตัวก็ยอมให้พี่อาบน้ำให้ด้วย วัวบางตัวถ้ามันไม่เห็นพี่มันจะเดินหาเข้าไปในบ้านแล้วร้องเรียกหาเลยนะ ตอนขายนี่พี่ร้องให้เลยนะ ทั้งครอบครัวจะศร้ากันหมด และบอกตัวเองว่าต่อไปจะไม่เลี้ยงสัตว์ใหญ่แบบนี้อีกแล้ว
"เชื่อในผล แห่งการทำความดี"
kitipong
6 กรกฎาคม, 2010 - 14:06
Permalink
ตอบ
ตอนนี้ผมคงต้องเลี้ยงหมูหลุม เพื่ออนาคตจะได้ปูทางสู่อาชืพเกษตรกรรมอื่นๆๆต่อไปครับ(เพราะบล็อกแรกที่ผมเขียนผมก็จำชื่อได้ว่า เลี้ยงหมูหลุม เพื่อปูทางสู่อาชืพเกษตรกรรมอื่น)เพราะตอนนี้ผมไม่สามารถทำไร่หรือสวนอย่างพวกพี่ๆได้ด้วยข้อจำกัดเรื่องเนื้อที่ใช้สอยผมมีพื้นที่หลังบ้านแค่ประมาณ 2 งานเท่านั้นและตอนนี้ตัวกระผมก็ต้องทำงานประจำอยู่ด้วย เลยมาคิดดูว่าเราควรจะทำอะไรที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพื้นที่ประมาณนี้ก็เลยมาลงตัวที่หมุหลุมนี่ละครับ เนื่องจากใช้พื้นที่ไม่มากได้ครับ อีกอย่างผมก็เป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผมชอบมองดูท่วงท่า ทุกอริยาบท ของสัตว์เลี้ยงดูแล้วมีความสุขดีครับ ตอนเรียนอยู่มัธยมก็ชอบเลี้ยงไก่พื้นเมืองขายเป็นรายได้เสริม ไม่ค่อยชอบเที่ยวเตร่เหมือนเพื่อนๆๆรุ่นเดียวกัน ตอนนี้ก็คงต้องทำในสิ่งที่ตัวเองรัก และถนัดที่สุดไปก่อนนะครับ อนาคตค่อยๆๆว่ากันอีกทีครับ
สวัสดีครับ จำป้อจายคนนี้ได้ก่
โหยหาชนบท
6 กรกฎาคม, 2010 - 14:51
Permalink
น้องหมู
และแล้วก็เขียนบล็อค ห่างหายไปนานเลยนะครับ
ผมติดตามตลอด
แต่าก็ไม่ค่อยปรากฏกายเท่าไหร่นัก
ถนัดอ่านมากกว่าเขียน
เจ้าหมูอ้วนท้วนสมบูรณ์มากครับ
...วิถีชีวิตแห่งเกษตรกรรมที่สมบูรณ์ จะหล่อเลี้ยงบุคคลทั้งร่างกายและวิญญาณ เป็นหนทางไปสู่ความสมบูรณ์แห่งความเป็นมนุษย์...
เจ้โส
6 กรกฎาคม, 2010 - 15:03
Permalink
น้องหมู
น่าสงสารจังเลย
garden_art1139@hotmail.com
kitipong
6 กรกฎาคม, 2010 - 17:33
Permalink
ตอบ
ครับ ผมไม่ค่อยได้เขียนเรื่องสักเท่าไหร่ แต่ก็เข้ามาอ่านของเพื่อนๆๆๆสมาชิกเป็นประจำอะครับ คือว่าไม่ค่อยมีเรื่องเขียน ทำงานอยู่ใน กทม.เจอแต่ตึก ราบ้านช่อง นานๆได้กลับบ้านสักทีจึงจะมีเรื่องมาเขียนกับเขาสักทีครับ คุณโหย หาชนบท
สวัสดีครับ จำป้อจายคนนี้ได้ก่
อิมรอน
6 กรกฎาคม, 2010 - 17:51
Permalink
อิ อิ อิ อิ
อิ อิ อิ อิ เขาไม่เห็นชอบกินเลย
หน้า