ระเบียงแฟลตลุงนันต์
เป็นแฟลตครอบครัว มี 2 ห้องนอน ห้องโถงยาวเปิดโล่งขนานกับห้องนอน มี 1 ห้องครัวและ 1 ห้องน้ำ มีระเบียง 4 ด้าน
หมายเลข 1 2 3 4 เป็นระเบียง (1-2 เป็นกระจกแบบ slide , 3-4 มีประตูออกจากห้องนอน)
ระเบียงหมายเลข 1 และ 2 ด้านรับแสงอาทิตย์ตอนบ่ายและรับลมทะเล ร้อนมากจึงปลูกต้นไม้บังแสงอาทิตย์ตลอดแนว โดยปลูก 4 ระดับ บนสุดกล้วยไม้ป่า ชั้นที่สามกล้วยไม้ตระกูลหวาย ชั้นที่สองกล้วยไม้หลายชนิด ชั้นล่างสุดจะปลูกจำปี แก้ว โมก บุหงาสาหรี (กลุ่มนี้ปลูกบังแสงแดดและเป็นร่มเงาของกล้วยไม้) และโป้ยเชียน
ระเบียงด้านหมายเลข 1-2 กล้วยไม้ตอนนี้ค่อยข้างโทรม เมษายนที่ผ่านมาไม่อยู่หลายวัน (ถ่ายจากระเบียง 1)
หวายที่เห็นในรูปโตมาจากต้นสมัยพายุเกย์เข้าจังหวัดชุมพร (ประมาณ 2534) หลังพายุผ่าน ไปเจอร้านที่ขายต้นไม้ข้างทาง ต้นไม้เขาเสียหายหลาย หวายดอกก็หักหมด เขาจึงขายต้นราคาถูกมาก ๆ นำมาเลี้ยงไว้จนถึงปัจจุปัน รดน้ำวันละครั้ง
ระเบียน 1-2 มองจากด้านล่าง
จากการที่ปลูกต้นไม้กั้นแสดงแดด ทำให้แอร์ในห้องนอนเล็กทำงานไม่หนัก ปรากฎว่าค่าไฟฟ้าลดลงหลายร้อย (จำตัวเลยไม่ได้เพราะตอนนี้แอร์ห้องนั้นไม่ได้ใช้ ลูกชายเจ้าของห้องไปเรียนหนังสือที่ กทม) ในขณะที่จ่ายค่าน้ำเพิ่มขั้นไม่กี่สิบบาท
ระเบียง 3-4 มุมพักผ่อน ปลูกทั้งไม้ 4 ชั้น แต่ที่พิเศษ คือ มีหลังคาคลุม ด้านนี้ไม่ได้ปลูกต้นไม้ทั้งหมด (เหลือระเบียง 4 บางส่วนไว้ตากผ้า) ด้านนี้ชั้นบนสุดจะปลูกกล้วยไม้ป่า ถัดลงมา 2 ชั้นปลูกตระกูลแคท ชั้นล่างสุดปลูกแก้ว ลีลาวดีหน้าวัว และอ่างเลี้ยงปลา 2 อ่าง ด้านนี้เน้นดอกและกลิ่น เลยร่มรื่น เย็นและหอม เลยนำเก้าอี้ไปตั้งไว้นั่งเล่น
ระเบียน 3 พร้อมเก้าอี้และอ่านเลี้ยงปลา ถ่ายตอนกลางคืน (ถ่ายจากระเบียง 4)
เก้าอี้พร้อมที่วางเท้า (น่านั่งไม่ครับ)
กล้วยไม้ที่ตอนนี้กำลังบาน
|
|
|
จำชื่อไม่ได้ เริ่มบานจะสีแดงนาน ๆ สีเหลือ |
บางกอกซันเซ็ท กลิ่นหอม หากต้นสมบูรณ์บานปีละ 3 ครั้ง |
แคท ข้างในสีม่วงนอกสีเหลือ บานไม่เต็มที่ แต่โดนแมลงเจาะแล้ว |
กล้วยไม้ตระกูลหวายซื้อที่ปัตตานีปี 2534 พายุเกย์เข้าจังหวัดชุมพร กล้วยไม้ป่าส่วนมากขนมาจากตลาดนัดจตุจักร แคทกระถางเล็กจะซื้อต้นเล็ก ๆ จาก กทม ส่วนกระถางใหญ่ซื้อเป็นกอ ซึ่งจะมีคนไปรับจากสวนที่เขารื้อมาขายที่จตุจักร (ขายวันพุธและพฤหัส) ตอนนั้นราคา 80-120 บาท (ตอนนี้แพงแล้ว เพราะมีคนไปซื้อเยอะ) บางกอกซันเซ็ทจะแพงหน่อย หาซื้อยากอีก แต่ผมซื้อต้นเล็ก ๆ และซื้อวันที่เขาจะเก็บกลับบ้านหลังจากออกงานที่ตลาด อตก กรุงเทพ เขาลดราคาให้ 9 กระถาง 1.000 บาท
ระเบียง 3-4 มองจากด้านล่าง
ต้นไม้ใหญ่ เช่น ลีลาวดี แก้ว จำปี จะปลูกในกะละมังขนาดใหญ่สีดำเจาะรูที่ก้น ให้ลำต้นอยู่ในระเบียง ใบและส่งกิ่งให้อยู่นอก ระเบียงจึงไม่รกดังที่เห็น
|
|
พักอยู่ชั้น 3 เวลารดน้ำไม่โดนเสื้อผ้าชั้น 2 หรือ รถยนต์ที่กำลังจะออกจากชั้น 1 หรือ ? แก้ได้ครับ ชั้น 2 เขาตากผ้าตรงกับระเบียงที่ผมตากเช่นกัน ระเบียนด้านอื่นมักจะตากผ้าห่ม แต่นาน ๆ ครั้ง แก้โดยเขาทำที่ตากเข้ามาด้านในนิดหนึ่ง และผมจะรดน้ำเป็นเวลา ซึ่งมักจะเป็นเวลาเช้า ๆ ซึ่งเขาก็รดต้นไม้เขาเหมือนกัน ส่วนรถยนต์จะรู้กันว่าผมจะรดน้ำตอนเช้าตรู หากวันไหนรดตอนสาย ๆ ก็ลงไปดูก่อนว่ามีรดหรือไม่ อีกอย่างที่จอดรถสามารถเข้าออกใต้ถุนแฟลตได้ 2 ทาง เราก็สามารถรดครั้งละทางได้ ต่ำแหน่งที่รดน้ำมาก ๆ ก็เป็นรถยนต์ของผมเองด้วย และหากรดน้ำไม่มากน้ำจะไม่ไหลลงข้างล่างอยู่แล้ว
ระเบียงบ้านเราอยู่นอกบ้าน แต่เป็นวิมานของหลายคู่ นกกระจิบใช้บริการประเภทประจำเสมือนบ้านตัวเองเลย นกเขาชวาใช้บริการชั่วคราวแบบพักนาน ๆ จับคู่ออกไข่ ฟักเป็นตัวแล้วพาครอบครัวจากไป (ไม่ใช่แบบฝรั่งที่เช่าสาวไทย ไข่ทิ้งแล้วจากไป) และอีกไม่กี่เดือนคู่เดิมจะย้อยกลับมาใช้บริการอีก หากเตียงเดิมยังอยู่จะขอจองอีกด้วย ที่ใช้แบบม่านรูดก็นกปรอดจะมาช่วงลูกแก้วสุก งูเขียวธรรมดาชอบมาผลัดผ้าและอาบแดด
|
|
รังนกกระจิบ ซึ่งมีหลายรัง ส่งเสียงร้องทั้งวัน |
รังนกเขาชวา ทำรังหยาบ ๆ ส่วนมากจะมองหารกระถาง กล้วยไม้ที่เหมาะ ๆ มากกว่า |
สิ่งที่สังเกตุเห็น นกกระจิบจะไล่จิกนกกระจอกไม่ให้เข้าใกล้ระเบียง ทำให้ไม่มีนกกระจอกมาทำความรำคาญหรือขี้ใส่ผ้าที่ตากไว้ ได้ทราบว่านกเขาชวาจะอยู่กันเป็นคู่ ๆ หากกลับมาทั้งคู่จะได้เห็นนั่งพลอดรักให้เราได้ดู หากมาตัวเดียวจะส่งเสียงร้องเรียก หาก 2-3 วันไม่มีอีกตัวมากก็จะจากไปด้วยท่าทางที่น่าสงสาร เมื่อไข่ทั้งสองตัวจะผลัดกันกกไข่ให้อีกตัวไปหาอาหาร ขณะกกไข่จะไม่ยอมกินอาหาร (เพราะเคยเอาน้ำเอาข้าวนกไปไว้ใกล้รังก็ไม่สน) เมื่อรดน้ำไปใกล้ ๆ จะส่งเสียงเตือน ไม่ยอมบินหนี เมื่อเราส่งเสียงบอกว่ารู้แล้วก็จะส่งเสียงตอบเบา ๆ หากฝนตกหนัก ๆ จะชวนครอบครัวมานอนที่ระเบียงอีกด้วย ส่วนนกปรอด (นกกรงหัวจุก) และนกอื่น มาเพื่อหาอาหารแล้วบินจากไป เจ้างูเขียวมักจะมาตอนเงียบ ๆ หากเห็นมักจะไม่ต้อนรับให้ไปพักที่อื่น แต่ส่วนมากมักจะเห็นแต่ชุดทรง ที่เจ้างูเขียวถอดทิ้งไว้มากกว่า
ที่เขียนมาเล่า เพราะ สิ่งที่ผมทำช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ และทำอย่างไรการทำสิ่งที่เราชอบจะไม่ไปรบกวนเพื่อนบ้านหรือคนอื่น
วันหลังจะนำภาพกล้วยไม้สวย ๆ ที่เคยถ่ายไว้มาให้ชมนะครับ (ที่เขียนได้ 2 เรื่อง เพราะนั่งรอดูบอลนะ)
ลุงนันต์
- บล็อกของ sunan.psu
- อ่าน 9545 ครั้ง
ความเห็น
Mitta
20 มิถุนายน, 2012 - 13:55
Permalink
Re: ระเบียงแฟลตลุงนันต์
ศิรินันท์
20 มิถุนายน, 2012 - 14:04
Permalink
Re: ระเบียงแฟลตลุงนันต์
https://www.facebook.com/Sirinanpraewa
สมจิต
20 มิถุนายน, 2012 - 14:31
Permalink
Re: ระเบียงแฟลตลุงนันต์
ปลูกเยอะเลยค่ะ
eve_chanida
20 มิถุนายน, 2012 - 15:03
Permalink
Re: ระเบียงแฟลตลุงนันต์
สวยแต่แอบเสียว กลัวกระถางกล้วยไม้หล่นใส่หัว :crying3:
""
sunan.psu
20 มิถุนายน, 2012 - 20:07
Permalink
Re: ระเบียงแฟลตลุงนันต์
รับรองไม่หล่นครับ ลมแรง ๆ หรือ พายุก็โดนมาแล้ว กระถางเบา ๆ ทั้งนั้นนะ
Sopha B'
20 มิถุนายน, 2012 - 17:20
Permalink
Re: ระเบียงแฟลตลุงนันต์
ปลูกบนที่สูงก็ดีไปอย่าง หาม่ายใครมาัลัก ถ้าบ้านหนูปลูกแบบนี้หายหมดค่ะลุง
ป้าเล็ก..อุบล
20 มิถุนายน, 2012 - 18:27
Permalink
Re: ระเบียงแฟลตลุงนันต์
เยอะมากๆ เขียวดี ไม่ร้อน แต่กลัวกระถางตกไปข้างล่าง
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
sunan.psu
20 มิถุนายน, 2012 - 20:04
Permalink
Re: ระเบียงแฟลตลุงนันต์
รับรองไม่มีการตกครับ มีที่แขวนมีลวดมัดอย่างดีครับ ผ่านพายุและลมแรง ๆ มาแล้ว
คนตูล
20 มิถุนายน, 2012 - 19:27
Permalink
Re: ระเบียงแฟลตลุงนันต์
:wow2: :admire2:
sunan.psu
20 มิถุนายน, 2012 - 20:09
Permalink
Re: ระเบียงแฟลตลุงนันต์
นั้นสิ ที่เลือกกล้วยไม้ เพราะหากไม่ว่างหรือไปไหนหลาย ๆ วัน ก็ไม่เสียหาย
หน้า