ที่ดินแปลงนี้
เมื่อประมาณกลางปีที่แล้วมีเหตุให้ผมต้องใด้ที่ที่ดินแปลงนี้มาใว้ในครอบครองด้วยภาวะจำยอม ต้นของเหตุเนื่องมาจาก ความผิดพลาดทางการบริหารการเงินของเจ้าของเดิม ซึ่งก็คือญาติห่างๆกัน โดยการหยิบยืมไปก้อนหนึ่งโดยหวังว่าจะพลิกฟื้นสถานะทางการเงินของครอบครัวกลับมาใด้ ก็เกื้อกูลกันไปตามกำลัง แต่ไม่เป็นผล จึงจำเป็นต้องตกลงซื้อไว้ตามราคาที่เสนอมาโดยไม่มีการต่อรองหลังจากที่เจ้าของเดิมใช้เวลาในการประกาศขายต่อบุคคลทั่วไประยะหนึ่งแล้วแต่ไม่สำเร็จ ที่ดินแปลงนี้อยู่ห่างจากบ้านที่อยุ่ปัจจุบันหากลากเป็นเส้นตรงระยะทางน่าจะไม่เกิน 1 กม. หากเดินทางไปต้องหลายแยกหลายครั้งหน่อยและไม่อยู่ในเส้นทางจะต้องผ่านเป็นประจำด้วย แต่เคยเข้าไปเมื่อหลายปีก่อนด้วยเหตุมีกิจธุระอื่น ก็มีใจชอบอยู่ด้วยสาเหตุที่เป็นสวนผลไม้ท้องถิ่นที่แทรกตัวอยู่ในป่าที่รกมากๆ เมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวจึงจะถางกันที่หนึ่ง ที่จำได้ต้นไม้ต้นโตๆ ก็มี ต้นกะท้อนพันธุ์พื้นเมือง ลูกเตียน ตะเคียน จำปาทอง ตีนเป็ด และมีที่ไม่รู้จักอีกส่วนหนึ่ง หลังจากโอนเรียบร้อยแล้วผ่านไปประมาณ 1 เดือนมีเวลาว่างจึงเข้าไปดู สภาพที่เห็นใจหายมาก ไม่เหลือเค้าของภาพที่ยังติดตาเมื่อหลายปีก่อนอยู่เลย ต้นไม้โตๆที่กล่าวมาข้างต้นเขาตัดขายไปก่อนหน้านี้ไม่นานเกือบหมดแล้ว รวมทั้งไม้ผลที่มีอยู่ด้วย เหลืออยู่ประมาณไม่ถึงยี่สิบเปอร์เซ็นของพื้นที่
ต้นไม้ป่าที่มีเหลืออยู่บ้างไม่กี่ต้น ที่ดินแปลงอื่นด้านข้างจะเป็นสวนยางพารา
ไม้ผลที่เหลืออยู่ประมาณ 20 เปอร์เซ็น ของพื้นที่เดิม มี ลางสาด สะตอ มังคุด ระกำ (สภาพที่เป็นเหมือนงอกเองจากเมล็ดที่สัตว์คาบมา) รวมๆแล้วมีอยู่ประมาณ 20-30 ต้น ต้นมังคุด ที่มีอยู่ส่วนหนึ่งจะบอบช้ำ ส่วยยอดตายจากภัยแล้งเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งพืชชนิดนี้เหลือแค่ใหนก็จะอยู่แค่นั้นตลอดไปไม่มีการแตกยอดใหม่แล้ว
ซากตอไม้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 100-150 ซม ที่เจอคือส่วนหนึ่ง
ความหลากหลายของพืชพันธุ์ที่มีอยู่กระจัดกระจายอยู่ในที่ดินแปลงนี้ ตอนนี้กำลังใช้ความคิดจะทำอย่างไรกับที่ดินแปลงนี้ หากเป็นสภาพเดิมๆแบบเมื่อหลายปีก่อน ก็จะปล่อยให้อยู่ต่อไปแบบที่เป็นอยู่ ผลตอบแทนจะได้เท่าไหร่ก็คือกำไรล้วนๆ แต่เมื่อสภาพปัจจุบันเป็นแบบที่เห็น หากปล่อยไว้ที่เป็นที่รกร้างก็ไม่ใด้ใช้ประโยชน์ หากจะตัดโค่นที่เหลือเพื่อปลูกใหม่ทั้งแปลง ก็ทำใจยากอยู่พอควรเพราะกว่าจะโตมาถึงขนาดนี้ แต่อาจคงต้องตัดใจ สรรพสิ่งมีเกิดต้องมีดับ แม้จะผิดธรรมชาติอยู่บ้างก็ต้องปรับตัวเพื่อเกิดประโยชน์ที่เกื้อกูลต่อกัน เมื่อผลประโยชน์ลงตัว ความสงบสุขก็จะเกิด
- บล็อกของ ธีระชัย_พรหมคีรี
- อ่าน 3229 ครั้ง
ความเห็น
nusita_angel
19 มกราคม, 2013 - 11:25
Permalink
Re: ที่ดินแปลงนี้
อ่านมาทั้งหมดแล้วตัดสินใจยากอยู่เหมือนกันนะคะ แต่ไม่ว่าพี่ธีจะตัดสินใจอย่างไร น้องเืชื่อว่า เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดแล้วค่ะ
ปล. เสียดายไม้่ใหญ่ที่เราเคยชอบ
ป้าเล็ก..อุบล
19 มกราคม, 2013 - 11:38
Permalink
Re: ที่ดินแปลงนี้
ปรับหญ้าให้เป็นระดับ แล้วจะดูดีเองค่ะ ดูแล้ว ความเป็นธรรมชาติ ก็ยังดีกว่าอีกหลายๆที่นะคะ
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
auttaya
19 มกราคม, 2013 - 14:13
Permalink
Re: ที่ดินแปลงนี้
เหลือไม้กินผลไว้ทั้งหมดค่ะ ชอบเพราะที่บ้านไม่มีค่ะ
mutita.co.uk
19 มกราคม, 2013 - 16:33
Permalink
Re: ที่ดินแปลงนี้
นัทเห็นด้วยกับคุณป้าเล็กค่ะ เพราะมองดูยังร่มรื่นสวยงาม ปรับแล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะทำอะไร เสียดายต้นไม้ที่ถูกโค่นกับผลไม้แปลกๆที่เคยมีอยู่ ลางสาดดกเชียวค่ะคุณธีระชัย
สมจิต
19 มกราคม, 2013 - 17:53
Permalink
Re: ที่ดินแปลงนี้
ผลไม้ดกมากเลย ถ้าตัดคงเสียดายมากเลยค่ะ
แจ้ว
19 มกราคม, 2013 - 18:54
Permalink
Re: ที่ดินแปลงนี้
เก็บมังคุดขายก่อนเลย
อ้อยหวาน
19 มกราคม, 2013 - 19:58
Permalink
Re: ที่ดินแปลงนี้
ชอบที่ต้นไม้เยอะดีค่ะ ดูร่มรื่น แต่ในขณะเดียวกันก็กลัวงูเอามากๆ
ธีระชัย_พรหมคีรี
19 มกราคม, 2013 - 20:11
Permalink
Re: ที่ดินแปลงนี้
ผมไม่ถึงกับกลัวแต่หากเจอก็จะเลี่ยง มีคนพูดถึงว่าเจอ "บองหลา" บ่อยๆและมีหลักฐานที่เชื่อได้ว่ามีจริง ถึงจะเป็นสัตว์มีพิษร้ายแรง ก็ควรค่าแก่การอนุรักษ์แล้ว เพราะอยู่ในภาวะไกล้สูญพันธุ์
ดีใจที่เกิดมาเป็นคน จึงเลือกที่จะทำและไม่ทำในสิ่งใดๆใด้ดีกว่า
ศิรินันท์
19 มกราคม, 2013 - 20:22
Permalink
Re: ที่ดินแปลงนี้
ความคิดเห็นของนันท์นะค่ัะ นันท์จะคิดว่าเป็นสวนของนันท์เอง
1.ตัดแต่งกิ่งผลไม้ที่แก่ทำสาวใหม่ 2.ปรับถางหญ้าแล้วเอา ลูกผลไม้ที่ร่วงโตเป็นต้นไม้ไปปลูกแซม3.เห็น ธารน้ำแว๊บๆ สวนที่มีแอ่งน้ำ ถือว่าเยี่ยม น่าทำสวนผสม กึ่งป่า ก็ได้ค่ะ(ถ้าอยากได้ เมล็ด มะค่า บอกมานะค่ะ ไม่มีหมด)
https://www.facebook.com/Sirinanpraewa
OOD
19 มกราคม, 2013 - 20:59
Permalink
Re: ที่ดินแปลงนี้
ค่อย ๆ ทีละน้อยดีกว่ามั๊ยคะ อันไหนรกไปแน่นไปก็เอาออกบ้าง อะไรที่ยังเก็บไว้ได้ก็เอาไว้ก่อน แบบว่าค่อยเป็นค่อยไปน่ะค่ะ
หน้า