มะเดื่ออุทุมพร,มะเดื่อชุมพร
สวัสดีครับทุกท่าน จากการเดินทางไปโน่นนี่ของผม สิ่งหนึ่งที่ต้องนำไปด้วยและมักจะไม่ลืมคือกล้องถ่ายรูปครับ เพราะกล้องถ่ายรูปคือเมมโมรี่ที่ช่วยเราเก็บข้อมูลภาพ ช่วยบันทึกรายละเอียดความจำให้เรา และนี่ก็อีกตัวอย่างที่ผมได้บันทึกภาพเหล่านี้ไว้ แล้วนำมาเล่าต่อ เพราะไม้ต้นที่จะให้ท่านได้ชมต่อไปนี้ได้ล้มหายตายจาก เป็นตำนานให้กับคนที่นั่นไปแล้ว เมื่อครั้งพายุขึ้นฝั่งทะเลอ่าวไทย ๑พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา หลายท่านคงพอจะจำได้กับความเสียหายเป็นวงกว้างในครานั้น
มะเดื่ออุทุมพร ต้นนี้อยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งทะเลของอ.สทิงพระครับ.. ผมกับน้องเก้ไปเยี่ยมผู้ใหญ่ชาญซึ่งเป็นญาติ ได้คุยกันถึงเรื่องต้นไม้ ท่านจึงอาสาพาไปดู ซึ่งมะเดื่ออุทุมพรต้นนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านท่านนัก คนที่นี่เรียกกันว่า ลูกเดือย
ผู้ใหญ่ชาญช่วยเป็นนายแบบให้ด้วย ขอขอบคุณมา ณ ที่นี่อีกครั้งนะครับผู้ใหญ่
ส่วนอายุต้น ผู้ใหญ่บอกว่าเห็นมาแต่เด็กแล้ว และต้นที่โตกว่านี้ยังมีอีก แต่อยู่ไกลออกไปครับ
ก่อนที่เราจะไปชมกันต่อ มาดูข้อมูลของ มะเดื่ออุทุมพรกันสักนิดนะครับ
มะเดื่ออุทุมพร,มะเดื่อชุมพร
โพธิญาณพฤกษา
พันธุ์ไม้ที่พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ประทับตรัสรู้
ต้นมะเดื่อ (ต้นอุทุมพร)
ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 33 พระสุตตันตปิฎก เล่ม 25 ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ โกนาคมนพุทธวงศ์ กล่าวไว้ว่า พระพุทธเจ้าองค์ที่ 26 พระนามว่า พระโกนาคมนพุทธเจ้า ทรงบำเพ็ญธรรม 10 ประการบริบูรณ์ ข้ามทางกันดารได้แล้ว ทรงลอยมลทินทั้งปวงแล้ว ทรงบรรลุสัมโพธิญาณอันอุดม ณ ควงไม้มะเดื่อ หลังทรงบำเพ็ญเพียรอยู่ 6 เดือนเต็ม
มะเดื่อ มีถิ่นกำเนิดในประเทศศรีลังกา จีนตอนใต้ เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สายพันธุ์มะเดื่อที่มีอยู่ในโลก ซึ่งทางพฤกษศาสตร์ได้มีการรวบรวมไว้นั้นมีประมาณ 600 สายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่บ้านเรารู้จักกันดี คือ มะเดื่อชุมพร มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า “Ficus racemosa Linn.” อยู่ในวงศ์ Moraceae
ต้นมะเดื่อ ในภาษาบาลีเรียกว่า “ต้นอุทุมพร” หรือ “ต้นอุทุมพระ” มีชื่อท้องถิ่นกันแตกต่างไปในแต่ละท้องถิ่น ได้แก่ อีสาน เรียก “หมากเดื่อ”, แม่ฮ่องสอน-กะเหรี่ยง เรียก “กูแช”, ลำปาง เรียก “มะเดื่อ”, ภาคกลาง เรียก “มะเดื่ออุทุมพร, มะเดื่อชุมพร, มะเดื่อเกลี้ยง”, ภาคเหนือ-ภาคกลาง เรียก “มะเดื่อ, เดื่อเกลี้ยง”, ภาคใต้ เรียก “เดื่อน้ำ”
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ สูง 5-20 เมตร ลำต้นเกลี้ยงสีน้ำตาลหรือน้ำตาลปนเทา มีน้ำยางขาว กิ่งอ่อนสีเขียว กิ่งแก่มีสีน้ำตาลเกลี้ยง หรือมีขนปกคลุม ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่หรือรูปใบหอก ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ดอกออกเป็นช่อ ดอกช่อเกิดภายในฐานรองดอกที่มีรูปร่างคล้ายผล ออกที่ลำต้นและกิ่ง ผลรูปกลมแป้นหรือรูปไข่ มีขน ออกเป็นกระจุกตามกิ่งและลำต้น ภายในผลมีเกสรเล็กๆ อยู่ เมื่อสุกมีสีแดงอ่อนจนถึงเข้ม ขึ้นในธรรมชาติบริเวณป่าดิบชื้น บริเวณริมแม่น้ำลำคลอง ริมลำธาร หรือปลูกตามบ้านและริมทาง พบได้ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ออกดอกระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคม และออกผลระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ขยายพันธุ์โดยเมล็ด
มะเดื่อได้ถูกบันทึกไว้ในตำนานของชาวฮินดูว่าเป็นไม้มงคล และเป็นที่นับถือของคนไทย พม่า และมอญ มาแต่โบราณ ได้มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยาและกรุงศรีรัตนโกสินทร์ว่า มีการนำไม้มะเดื่ออุทุมพรมาทำเป็นพระที่นั่ง กระบวยตักน้ำมันเจิมถวาย และหม้อน้ำที่กษัตริย์ใช้ถวายน้ำในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แต่ปัจจุบันคนไทยนิยมปลูกเป็นไม้ประดับกลางแจ้ง
มะเดื่อ มีสรรพคุณด้านพืชสมุนไพร ได้แก่ เปลือกต้นมีรสฝาด แก้ท้องร่วง (ที่ไม่ใช่บิดหรืออหิวาตกโรค) ชะล้างบาดแผล สมานแผล แก้ประดง ผื่นคัน แก้ไข้ ท้องเสีย ไข้รากสาดน้อย และแก้ธาตุพิการ, รากมีรสฝาดเย็น แก้ไข้ กระทุ้งพิษไข้ ถอนพิษไข้ และแก้ท้องร่วง, ผลมีรสฝาดเย็น แก้ท้องร่วง และสมานแผล, ผลสุกเป็นยาระบาย ซึ่งมีงานวิจัยออกมาว่าในผลมะเดื่อแต่ละผลนั้นจะมีปริมาณน้ำตาลธรรมชาติอยู่ถึง 83% เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและไฟเบอร์สูงมาก มีวิตามินเอ, บี และซี อยู่มาก ช่วยระบบขับถ่ายที่ดีเยี่ยม
ปัจจุบัน ต้นมะเดื่อชุมพรเป็นไม้มงคลพระราชทานประจำจังหวัดชุมพร
ข้อมูลนี้จากhttp://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=12396
ส่วนมะเดื่ออุทุมพรต้นนี้ คือต้นที่ผมนำมาทายในบล็อกที่ผ่านมานั่นแหละครับ อยู่ในวัดแหลมวังใกล้บ้านแม่นั่นเอง.....
กับสำนวนที่ว่า "มะเดื่อมันไม่ค่อยดี เพราะมีแมงหวี่เข้าไปอยู่ข้างใน "ลองเข้ามาอ่านในนี้ดูนะครับ:
ttp://www.doctor.or.th/article/detail/2290
h
ลักษณะใบ คล้ายกับฉิ่งมากครับ
ผล เนื้อแน่น กว่ามะเดื่อชนิดอื่นๆเท่าที่ผมเห็นมา
แม่ค้าในตลาด นำมาให้ลูกค้าทานกับขนมจีน
ผมก็อุดหนุนแม่ค้ามาทานที่บ้านเหมือนกัน
รู้อย่างนี้แล้ว ท่านที่มีที่ทางที่พอจะปลูกได้ อยากมีไว้สักต้นมั๊ยครับ สวัสดี.
- บล็อกของ เสิน
- อ่าน 25901 ครั้ง
ความเห็น
sujiraporn
5 มิถุนายน, 2013 - 15:21
Permalink
Re: มะเดื่ออุทุมพร,มะเดื่อชุมพร
ป้านวลไม่ต้องปลูก ริมคลองในโรงเรียนมีต้นใหญ่ต้นนึ่ง
เด็ก ๆ จะแวะเวียนไปเล็มลูกสุกแทบทุกวัน
และชาวบ้านใกล้เคียงจะเก็บลูกที่ยังไม่แก่ไปแกงกะทิ
บุบพอแตกแกงกับหมู อร่อยด้วยค่ะ
เสิน
5 มิถุนายน, 2013 - 21:24
Permalink
Re: มะเดื่ออุทุมพร,มะเดื่อชุมพร
แต่พี่นวลครับ ผมว่าถ้าหาไปปลูกไว้ที่ป่าข้างบ้านพี่สักต้นน่าจะดี เผื่อเหลือเผื่อขาด อนาคตไม่แน่นอน บางทีทางโรงเรียนอาจจะใช้พื้นที่บริเวณนั้น แล้วจะได้ของครับ
..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..
ไอรินลดา
5 มิถุนายน, 2013 - 11:52
Permalink
Re: มะเดื่ออุทุมพร,มะเดื่อชุมพร
เห็นลูกเดือย (มะเดื่อ) แล้วนึกถึงขนมจีน หรือไม่ก็ข้าวราดแกงไตปลา
ส่วนรูปด้านล่างเห็นมีแส้ด้วยนึกถึงพี่ดงดมเลยค่ะ
เสิน
5 มิถุนายน, 2013 - 21:27
Permalink
Re: มะเดื่ออุทุมพร,มะเดื่อชุมพร
ในความรู้สึก ระหว่างเดือยกับฉิ่ง พี่ว่าเดือยหรอยหวานะ กรอบๆมันๆ
..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..
ป้าเล็ก..อุบล
5 มิถุนายน, 2013 - 12:28
Permalink
Re: มะเดื่ออุทุมพร,มะเดื่อชุมพร
นึกว่ากินไม่ได้
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
เสิน
5 มิถุนายน, 2013 - 21:30
Permalink
Re: มะเดื่ออุทุมพร,มะเดื่อชุมพร
สำหรับคนที่ฟันยังดี กินหรอยหวาลูกฉิ่งเหลยป้าเล็กเห้อ
..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..
soison
5 มิถุนายน, 2013 - 12:42
Permalink
Re: มะเดื่ออุทุมพร,มะเดื่อชุมพร
กินสดๆ เลยใช่ไหมค่ะ
ขอบคุณค่ะ
เสิน
5 มิถุนายน, 2013 - 21:33
Permalink
Re: มะเดื่ออุทุมพร,มะเดื่อชุมพร
ใช่ครับ หรือจะนำไปแกงกะทิแบบพี่นวล(sujiraporn)ว่าก็อร่อยครับ
..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..
eve_chanida
5 มิถุนายน, 2013 - 12:56
Permalink
Re: มะเดื่ออุทุมพร,มะเดื่อชุมพร
เห็นแล้วอยากกินเมี่ยงลำข่า
""
เสิน
5 มิถุนายน, 2013 - 21:35
Permalink
Re: มะเดื่ออุทุมพร,มะเดื่อชุมพร
ทางอีสานมีมั๊ยน้องอีฟ
..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..
หน้า