เที่ยวไปในโลกกว้าง ตอน Grand Canyon Mule Rides

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ก่อนอื่นมารู้จักกับ "Mule" กันก่อนนะค่ะ  Mule เป็นลูกครึ่ง ระหว่าง "แม่ม้า กับพ่อลา" คือเป็นพันธุ์ผสม Hybrid F1 คือ ใช้ ม้าตัวเมียเท่านั้น ไปผสมกับ ลาตัวผู้ เมื่อผสมกันแล้ว ไม่ว่าลูกจะออกมาเป็นตัวผู้หรือเมีย ลูก Mule ไม่สามารถเอาไปขยายพันธุ์ต่อได้ เพราะโดนทำหมันแล้วเรียบร้อย 55555+ อย่าว่าแต่เมล็ดผักนะค่ะที่ถูกทำหมัน สัตว์ก็ยังไม่ละเว้น ฮ่าๆๆๆ

เมื่อมาถึงก็เห็นเจ้า Mule เข้าแถวรออยู่แล้ว พวกนี้ถูกฝึกมาอย่างชำนาญแล้วค่ะ มันจะรู้หน้าที่เป็นอย่างดี ว่าควรไปทางใหน ไม่ต้องกลัวหลง ถึงหลงมันก็พาเรากลับมาที่เดิมเหมือนเจ้าถิ่น

 

เจ้า Mule ตัวนี้เป็นตัวเมียค่ะ มีชื่อว่า "วิคกี้อัพ" Wickiup ค่ะ แปลว่า กระโจม หรือบ้านพักของชาวอินเดียแดง (เซิสกูเกิ้ลได้เลยค่ะ) เจ้าวิคกี้ตัวนี้แหล่ะ จะพาอ๊อดไปเที่ยวป่า ชมวิว ใครสนใจ ตามมาเลยค่ะ

สีน้ำตาลนี้ของแฟน ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว เป็นตัวผู้ค่ะ Mule ทุกตัวจะมีชื่อของมันอยู่แล้ว ไกด์เขาจะเลือก Mule ให้เราตามน้ำหนักตัว ใครตัวใหญ่ก็ไปขึ้นตัวใหญ่หน่อย อ๊อดตัวเล็ก น้ำหนักน้อย เขาเลยเลือก เจ้าวิคกี้ให้ จะได้ไม่หนักเกินไป

ไกด์ของเรา ดูแลดีมากค่ะ ช่วยเหลือลูกทีมทุกคนเป็นอย่างดี แถมหน้าตาก็หล่อเหลาพอใช้ได้ อิอิ โสดอีกต่างหาก

*************************

ท้องฟ้าวันนั้น เดี่ยวปิด เดี่วเปิด เป็นช่วงๆ ไกด์นำทางไม่อนุญาตให้เอากระเป๋า สิ่งของ หรือสัมภาระใดๆติดตัวไปเลย นอกจากเสื้อกันหนาว แล้วก็กล้องถ่ายรูป น้ำดื่มก็ห้ามเอาไป เพราะมีรอบริการอยู่ข้างหน้า

มองออกไปแค่ศอก แค่วา อ๊อดก็ขาสั่นแล้วค่ะ ว๋ายยยยย หวาดเสียว

เลาะขอบริมหน้าผากันมาเป็น ชม.แล้วค่ะ หยุดพักกันตรงนี้ เพราะทัวร์ที่อ๊อดกับแฟนซื้อนั้นแค่ครึ่งวัน ไม่ได้ทัวร์เต็มวัน ก็เลยหยุดพักทานน้ำกันแค่ตรงนี้

อ๊อดใช้กล้องซูมมาจนสุด ได้แค่นี้เองค่ะ

ตรงสะพานที่เห็นเล็กๆนั่น มีคนเดินไปแคมปปื้งกันบ่อยมาก บางคนไปไม่รอด เป็นลม ต้องเรียกเฮลิคอปเตอร์มารับส่งโรงพยาบาลบ่อยมาก

ระหว่างเดินทางอ๊อดก็ถามไกด์ว่า ทำไมต้องใช้ Mule? ทำไม่ใช่ใช้ ม้า Horse? ไกด์ก็บอกว่า ทางขึ้นลงแคนย่อนนี้ สูงชันมาก ม้าไม่แข็งแรงพอที่ปืนป่ายหน้าผา ม้ามีปัญหาที่ "ข้อขาเล็ก" ต้องพักทุกๆ 10-20 นาที ขาขึ้นไม่เท่าไหร่ แต่ขาลง หัวมันทิ่มลง แล้วรับเอาน้ำหนักของคนที่ขี่หลังมารวมไว้บนหลังทั้งหมด ทำให้ม้าไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้ ก็เลยต้องผสม ม้า กับลา เข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ม้าที่แข็งแรง

และอีก 1 ข้อเสียของม้าก็คือ ตกใจง่าย หากมีเสียงอะไรที่ดังแปลกประหลาด ม้าจะตกใจ วิ่งกระเจิดกระเจิง พาคนตกเหว ตกหน้าผาตาย Mule มันอึดกว่า หน้ามึน ไม่ค่อยตกใจง่าย บางทีเดินๆไป มีกวางเดินผ่านมา ม้ามันตกใจ นึกว่ามีอะไร มันก็วิ่งพรวดพลาดตกเหวตายทั้งคนทั้งม้าเลย

จะเห็นว่า Mule ข้อขาใหญ่ๆ หูยาวๆ หูตั้ง นิ่ง ไม่เหมือนม้า ที่ล๊อกแล๊ก มองนู้นมองนี่ หวาดระแวงไปทั่ว ผิดกลิ่นหน่อยก็ไม่ได้ ดีดกัน เตะกัน แต่ Mule มันจะนิ่งกว่า แล้วก็ต้องการมีงานทำ จะพามันเดินทั้งวันมันก็เดินได้ มันชอบที่จะให้คนใช้งาน คือ มันมีความรู้สึกว่า เกิดมาไม่" useless " ค่ะ

ไกด์เขาก็ต้องรู้ด้วยว่า ตัวใหนไม่ถูกกัน ตัวใหนควรเดินน้ำหน้า ตัวใหนควรเดินตามหลัง เหมือนคนค่ะ ที่รู้ว่าใครคือ "ผู้นำทาง" แล้ว Mule บางตัวไม่ถูกกันก็มี ถ้าตัวใหนที่ไม่ถูกกัน มันก็จะกัดกัน เตะกัน (ใช้ขาหลังดีด) ไกด์ก็ต้องจับแยก เอาตัวที่เข้ากันได้มาอยู่ไกล้ๆกัน

ระหว่างที่เดิน อ๊อดวังเกตเห็นว่า เจ้าวิคกี้มันชอบกิน เดินผ่านใบไม้เขียวๆไม่ได้เลย เป็นต้องหยุด คอยื่นคอยาวไปกิน ไกด์บอกอ๊อดว่า อย่าให้มันกิน ดึงคอมันขึ้นมา อ๊อดก็ดึงมันขึ้น มันก็มีอาการฟืดๆในคอนิดๆ แบบว่า ไม่พอใจที่ไม่ให้มันกิน อิอิ น่ารักดีค่ะ

แต่ตัวสีขาวที่เดินออกหน้าอ๊อดนี่ไม่ไหวค่ะ ผู้ชายคนนี้มาจาก "กรุงลอนด่อน" เจ้าตัวสีขาวนี้ ผายลมตลอดทางเลย เดี่ยวปู๊ด เดี่ยวป๊าดดดด เดี่ยวหยุดอึ คนตามหลังนี่แทบสลบ แล้วตดเสียงดังมากเลย เป็นที่เฮฮาของกลุ่มทัวร์ทั้งคณะ เรียกเสียงหัวเราะกันได้ตลอดทาง

ส่วนคนที่ตามหลังมา มีเด็กๆจาก รัฐเท็กซัส โดนเจ้า Mule ของแฟนอ๊อด อึใส่ขา อึตกเข้าไปในรองเท้าบูท เพราะเดินเข้ามาไกล้เกิน ฮ่าๆๆ เด็กคนนั้นบอกว่า "ผมหยุดมันไม่เป็น ผมบอกให้มันหยุดแล้วแต่มันไม่ยอมหยุด มันเดินเข้าไปจนชิดก้นของเจ้าตัวหน้า" เลยเรียกเสียงหัวเราะกันได้อีกระรอกนึง

***********

ขอบคุณเพื่อนๆที่ติดตามบล๊อกท่องเที่ยวของอ๊อดนะค่ะ ไว้โอกาสหน้าเจอกันใหม่ค่ะ

*******************

ดูภาพเพิ่มเติม

 

 

ภาพสุดท้ายนี้ แถมค่ะ ถ่ายมาจากปฏิทิน ที่บ้าน

*******

 

ความเห็น

ธรรมชาติสวยงามจริงๆค่ะ ได้ความรู้อีกต่างหาก ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ แล้วเจ้าmule บ้านเรามีมั๊ยคะ

Cool คงจะดี ถ้า...

ไม่แน่ใจค่ะว่าบ้านเราเรียกอะไรไม่มีประสบการณ์ตรงนี้เลยที่เอามาเล่าสู่กันฟังนี่ก็ถามไกด์มาทั้งนั้น5555

ชีวิตเดินทางไม่สิ้นสุด เก็บความสุขสบาย ร่างกายจิตใจสบายมากขึ้นๆๆๆเด้อ น้องสาวคนดี

 ปีหน้าอยากไปเจ็ดยอดอีกแต่ขอดูสุขภาพก่อนนะค่ะพี่สาวคนสวย แต่ต้องเป็นช่วง กุมภา- มีนาคมเด้อ เมษาไปไม่ได้แล้วมีสัมนาต่างรัฐครึ่งเดือนโน้นน่ะ บอกแต่เนิ่นๆเด้อจ้า จะได้ฟิตร่างกายรอ

ตามคุณอ๊อดมาเที่ยวคะ บ้านเราเรียกว่า    ล่อคะ       วันก่อนได้ดูรายการกบนอกกะลา ทางกองทัพฝึกเจ้าล่อไว่ส่งเสบียงไปให้ทหารทางแนวหน้าด้วยคะ

เขาเรียก" บักล่อ" จริงเหรอ? เดี่ยวต้องไปค้นหาขู้อมูลซะหน่อยไม่รู้จักเลยค่ะ. ขอบคุณค่ะที่มาแลกเปลี่ยนความรู

ขอบคุณค่ะ Supernatural!

ตามคุณ พี่มาเที่ยวด้วยคนค่ะ

เดิมเรียกว่า "ฬ่อ"แล้วก็มาเป็น "ล่อ" เพราะคนรุ่นใหม่ไม่ชอบอะไรที่ยากๆ เดิมเป็น "วินาฑี" ก็มาเป็น "วินาที" ล่อมีข้อดี คือ อดทนกว่าม้า เดินได้ไกลๆ แต่ม้าต้องหยุดเป็นระยะไม่งั้นมันจะเหนื่อยตาย ดีกว่า ลา เพราะ ลาเดินช้า ล่อเดินเร็วกว่าลา ชาวเขาในทางภาคเหนือใช้ขนของขึ้นและลงดอยมานานแล้ว ทหารทางภาคเหนือใข้ขนสัมภาระเข้าไปในป่าที่รถเข้าไม่ถึง เขาเรียกกองพันที่รับผิดชอบทางด้านนี้ว่า "กองพันสัตว์ต่าง" ต่าง ภาษาทางภาคเหนือแปลว่า บรรทุก เช่น "เอาล่อต่างข้าวเปลือกลงไปสีที่ตีนดอย แล้วก็ใช้ล่อต่างข้าวสารและสิ่งของอื่นๆปิ๊กขึ้นมาแหมกำ"             ปิ๊กขึ้นมาแหมกำ แปลว่ากลับขึ้นมาอีกที

หน้า