เที่ยวไปในเยอรมัน ตอนที่ 11 พระราชวังแฮเร็นเคียมซี ( Royal Palace of Herrenchiemsee)
สวัสดีครับพี่น้องชาวบ้านสวนพอเพียงทุกท่าน ในวันที่ 23 ก.ย. 2556 ผมได้มีโอกาสเดินทางคนเดียวไปเที่ยวที่พระราชวังแฮเร็นคิมเซ
ในภาษาเยอรมันอ่านว่า แฮเร็นคิมเซ( Royal Palace of Herrenchiemsee )นับเป็นครั้งแรกที่นั่งรถไฟออกไปเที่ยวต่างเมืองคนเดียวครับสนุกดีครับ หลังจากเช็คสภาพอากาศแล้วกลางวันอุณหภูมิ 14 องศาเซลเซียส กลางคืน 6 องศาเซลเซียส มีแดด 50 % ถือว่าอากาศดีเหมาะสำหรับเดินทางครับ นั่งรถไฟจากบ้านพักสาย S1 สนามบินมิวนิค - ขนส่งมิวนิคตะวันออก เวลา 10.07 น. แล้วไปต่อที่สถานีมิวนิคในเที่ยวเวลา 10.48 น. เป็นรถไฟวิ่งระหว่างเมือง ต้นทางสถานีเมืองมิวนิค - ปลายทางเมืองซาลบวก ประเทศออสเตรียครับ (Munchen - Salzburg) ระยะทางจากมิวนิค ถึงสถานีพรีนคิมเซ 98 กิโลเมตรครับ
ขอเล่าเกี่ยวกับพระราชวังก่อนครับ ขอขอบคุณข้อมูลจากวิกิพิเดีย มา ณ ที่นี้ด้วยครับ ข้อมูลเพิ่มเติมตามลิ้งค์นี้ครับ
พระราชวังแฮเร็นเคียมเซ หรือ วังใหม่ (ภาษาอังกฤษ: Herrenchiemsee หรือNeues Schloss) ตั้งอยู่ที่เกาะแฮเร็นกลางทะเลสาบเคียมเซ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นบาวาเรีย สร้างโดยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรียตามแบบส่วนกลางของพระราชวังแวร์ซายส์ที่ฝรั่งเศส เป็นวังใหญ่ที่สุดที่ทรงสร้าง
ประวัติ[แก้]
วังใหม่ออกแบบโดยของคริสเตียน แย้งค์, ฟรานซ์ ไซทซ และจอร์จ โดลมันน์ สร้างระหว่างปี ค.ศ. 1863 ถึงปี ค.ศ. 1886 ทรงใช้ค่าก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 16,579,674 มาร์ค[1] ในการสร้างซึ่งเท่ากับ 4,795,000,000 บาท (ค.ศ. 2007) รัฐธรรมนูญของประเทศเยอรมนีร่างกันที่วังนี้ในปี ค.ศ. 1948 ในปี ค.ศ. 1995 วังแฮเร็นเคียมเซปรากฏในคอมพิวเตอร์เกมGabriel Knightเกมเกิดขึ้นที่บาวาเรียและเกี่ยวกับลุดวิกที่ 2 และ ริชาร์ด วากเนอร์
การออกแบบ[แก้]
วังแฮเร็นเคียมเซเป็นวังที่แสดงถึงความชื่นชมที่พระเจ้าลุดวิกที่ 2 ทรงมีต่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ในห้องกระจกบนเพดานเป็นภาพเขียนของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงประสงค์จะสร้างวังนี้ให้ทัดเทียมกับพระราชวังแวร์ซายส์ แต่ทรงสร้างเสร็จเพียงส่วนกลางก่อนที่จะสิ้นพระชนม์จึงเหลืออีก 50 - 70 ห้องที่ยังไม่ได้สร้าง การสร้างมิได้ทรงตั้งใจจะให้เหมือนไปเสียทุกตารางนิ้วเพราะบางส่วนที่สร้างทรงสร้างเหนือไปจากแวร์ซายส์ ห้องกระจกยาวกว่าต้นฉบับและห้องเลี้ยงรับรองมีโคมระย้ากระเบื้องไมเซ็นที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนั้นตัวสิ่งก่อสร้างยังได้ประโยชน์การใช้วิธีการสร้างที่ใหม่กว่าเมื่อสร้างแวร์ซายส์เมื่อสองร้อยปีก่อนหน้านั้น เช่นพระราชวังแวร์ซายส์ไม่มีห้องน้ำแม้แต่ห้องเดียว และระบบน้ำก็มีเพียงน้ำพุจากภาพนอกตัวอาคารเท่านั้น พระเจ้าลุดวิกทรงใช้ระบบสมัยใหม่ที่มีทั้งห้องน้ำและอ่างอาบน้ำอุ่น แต่ที่วังแฮเร็นเคียมเซไม่ขึ้นชื่อเท่าวังอื่นก็คงเป็นเพราะทางเดียวที่จะเข้าเยี่ยมชมได้คือต้องนั่งเรือข้ามไปดูเพราะวังอยู่บนเกาะ
ส่วนจะมีอะไรบ้างตามมาชมกันเลยครับ
คันนี้ครับจะพาไปเที่ยวเวลา 10.48 น.ครับ
เป็นรถไฟฟ้าสองชั้นครับ อันนี้ชั้นล่างครับ
มาถึงแล้วครับ เวลา 11.49 น.ใช้เวลา 1 ชม.1 นาที ตรงตามตารางเวลาในแผ่นพับเป๊ะครับ
สถานีพรีนคิมเซครับ
แวะซื้อขนมปังในสถานีและถามทาง คนขายบอกว่าให้มาขึ้นรถตรงข้างๆสถานีรถไฟครับ
นี่ไงครับจอดรออยู่หลายสายครับ ใช้ตั๋วบาเยิร์นทิคเก็ท ใบเดียวจากเวลา 9.00-03.00 น.ขึ้นได้สบายครับ ต้องขึ้นรถไปลงที่สถานี พรีนฮาเฟ็น ครับ Prien Hafen สายรถเมล์ที่ผ่านคือ 9424 และ 9586
ป้ายเดียวครับไม่ถึง 5 นาทีครับ ลงรถแล้วก็จะเห็นท่าเรือ พรีน Prien ครับ
เรือจอดรอแล้วค่าโดยสารไป-กลับคนละ 7.20 ยูโรครับ
ข้างล่างเรือไม่มีคนนั่งครับ
มานั่งชั้นสองตากแดดชมวิวนี่เองครับ
มองไปเห็นเกาะอยู่โน่นครับ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีครับ
จากทะเลสาบจะเห็นภูสูงเด่นอยู่ไกลทะเลสาบคิมเซ เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของรัฐบาเยิร์น ครับ
มีเรือใบเล่นอยู่เยอะเหมือนกันครับ
ฝั่งอีกด้านก็เป็นเนินและป่าไม้ครับ
วานเขาเก็บภาพบนเรือสักหน่อยครับ
มาถึงก็มีนักท่องเที่ยวรอขึ้นเรือกลับครับ เวลา 13. 15 น.
ถึงแล้วครับท่าเรือแฮเร็นอินเซล
ขึ้นมาก็จะเจอซุ้มน้อยๆข้างหน้าครับ
ด้านซ้ายก็ชายน้ำและทางเดินครับ
ขึ้นฝั่งมาด้านขวาก็จะเป็นร้านขายของที่ระลึกครับ
เข้ามาก็จะเจอแผนที่และสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะครับ
ตารางเดินเรือครับออกทุก 30 นาทีครับ
ถ่ายจากร้านขายของที่ระลึกสวยดีครับ
ซื้อตั๋วเข้าชมรอบ 14.15 น. ราคา 10 ยูโร ต่อท่านครับ
เห็นบันไดขึ้นเนินมองไปเห็นร้านอาหารขากลับค่อยแวะครับ
มีรถม้าไว้บริการครับเที่ยวเดียวราคา 3 ยูโรครับ
อากาศเย็นสบายเดินเล่นไปเรื่อยๆครับ
เนินหญ้าเขียวๆมองไปสบายตาดีครับ คิดถึงตอนเป็นเด็กเลี้ยงควายเห็นหญ้าไม่ได้ครับฮ่าๆ
เดินเล่นไปเรื่อยๆครับ
นักท่องเที่ยวที่มาก่อนก็เดินสวนออกมาไม่ขาดสายครับ
ป่าสนสูงลิ่วบังแดดเย็นสบายครับ
แล้วก็มาถึงครับ
ป้ายบอกแผนผังของวังครับ
ตัวพระราชวังถึงจะเก่าแต่ก็สง่างามกลางเกาะ หมู่แมกไม้ล้อมไว้ครับ
นักท่องเทียวก็มาไม่ขาดสายเหมือนกันครับ
น้าพุหินอ่อนสวยเด่นอยู่เชิงบันไดครับ
เก็บภาพก่อนครับ เปลี่ยนกันถ่ายภาพก็แล้วกันครับ
วานนักท่องเที่ยวถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกครับ
จากตรงน้ำพุมองออกไปก็จะเห็นทะเลสาบคิมเซครับ
รอบๆมีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นดีครับ
สักพักน้ำพุก็เริ่มมาสวยทีเดียวครับ
น้ำพุด้านขวาครับ
น้ำพุด้านซ้ายครับ มองดูไกลๆสวยเหมือนกันครับ ศิลปะจริงๆครับ
ตัวพระราชวังเป็นอาคารสามชั้นครับ ด้านล่างริมสุดเป็นร้านอาหารครับ
ร้านขายของที่ระลึกชั้นล่างครับ
เนื่องจากข้างในเขาไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ รูปภาพและเนื้อหาบางส่วนผมจึงคัดลอกมากบล็อคของคุณ chedtha จากเว็บโอเคเนชั่น ต้องขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ข้อมูลเพิ่มเติมตามลิ้งค์นี้ครับ
http://www.oknation.net/blog/chedtha/2008/06/29/entry-1
เนื่องจากไกด์บรรยายเป็นภาษาอังกฤษผมก็ไม่ค่อยจะเข้าใจ ก็เดินดูซะเป็นส่วนใหญ่ครับ แต่ข้างในสวยมากครับ
ห้องนอนครับ
ห้องกระจกที่โดดเด่น ของจริงสีหมองลงกว่านี้นะครับ เพราะอายุ 150 ปีมาแล้วครับ
ห้องนอนครับ
ห้องทำงานครับ
ห้องดนตรี ไกด์บรรยายเขาบอกมาอีกทีครับ
ห้องนี้น่าจะเป็นระเบียงครับ
ห้องอาหารพื้นใต้โต๊ะจะแยกออกได้ และอาหารก็จะโผล่ขึ้นมาครับ ทันสมัยทีเดียวครับ
อันนี้ไม่รู้ว่าห้องอะไรครับ
ห้องทำงานครับ
อ่างอาบน้ำครับ
โคมระย้าทำด้วย porcelain ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ถึงเวลาต้องเดินทางกลับแล้วครับ เวลาเกือบ 16.00 น.แล้วครับ
ออกจากป่ามาเห็นเนินสูงๆใกล้กับที่จอดรถม้าขึ้นมามองลงไปสวยดีครับ
บนเนินก็เป็นวังอีกหลังหนึ่งแต่ไม่ใหญ่ครับ เวลาน้อยไม่ได้เข้าไปครับ ข้างบนนี้มีร้านอาหารด้วยครับ
มองออกไปเห็นทะเลสาบคิมเซอยู่ข้่างล่างครับ
นั่งเรือมาถึงฝั่งเดินดูรอบๆท่าเรือมีม้านั่งชมวิวริมทะเลสาบครับ
มองออกไปเห็นภูเขาลูกใหญ่อยู่ไม่ไกลครับ จำชื่อภูเขาไม่ได้ครับอยู่ในหนังสือท่องเที่ยวเคยอ่านเจอครับ
มีเรือให้เช่าจอดอยู่หลายลำครับ เห็นดำๆในน้ำคือนกเป็ดน้ำนะครับ
นกเป็ดน้ำริมฝั่งกำลังเพลินครับ
จากท่าเรือ พรีน(Prien) เดินกลับมาสถานีรถไฟ พรีนคิมเซ (Prien Chiemsee ) เดินประมาณ
10 นาทีครับ
จากสถานีรถไฟมองไปเห็นภูเขาใหญ่อยู่ไม่ไกลครับ ตรงไปก็เมือง ซาลบวก ประเทศออสเตรีย ครับ
ขากลับได้ขึ้นไปนั่งชั้นบนครับ เที่ยวเวลา 17.07 นาที เดินทางถึงสถานีเมืองมิวนิค เวลา18.17 นาทีครับ
เก็บภาพวิวข้างทางสวยดีครับ คล้ายๆเหมือนไปเมืองฟุสเซ่น
หมู่บ้าน ทุงหญ้า ป่าสนครับ
ขอจบด้วยภาพนี้ครับ และแล้วก็จบทริปนี้ครับ นั่งรถไฟ ไปคนเดียว เที่ยววันหยุด สุดสะบายใจ กำไรชีวิตครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณบ้านสวนพอเพียงที่ให้โอกาสผมได้แบ่งปัน
และขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาชมนะครับเจอกันใหม่ครับ
- บล็อกของ สนิทเมืองอุดร
- อ่าน 11904 ครั้ง
ความเห็น
สมจิต
8 ตุลาคม, 2013 - 07:06
Permalink
Re: เที่ยวไปในเยอรมัน ตอนที่ 11 พระราชวังแฮเร็นเคียมซี (...
สวยมากค่ะน้องสนิท
สนิทเมืองอุดร
8 ตุลาคม, 2013 - 19:43
Permalink
Re: เที่ยวไปในเยอรมัน ตอนที่ 11 พระราชวังแฮเร็นเคียมซี (...
ขอบคุณครับเอื้อยสมจิต ที่ตามมาเที่ยวครับ สถานที่ ทิวทัศน์ อากาศป่าไม้เข้ากันแบบลงตัวครับ
ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว
บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
สมจิต
8 ตุลาคม, 2013 - 07:06
Permalink
Re: เที่ยวไปในเยอรมัน ตอนที่ 11 พระราชวังแฮเร็นเคียมซี (...
สวยมากค่ะน้องสนิท
สนิทเมืองอุดร
8 ตุลาคม, 2013 - 19:45
Permalink
Re: เที่ยวไปในเยอรมัน ตอนที่ 11 พระราชวังแฮเร็นเคียมซี (...
ขอบคุณครับพี่สมจิต
ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว
บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
rose1000
8 ตุลาคม, 2013 - 07:44
Permalink
Re: เที่ยวไปในเยอรมัน ตอนที่ 11 พระราชวังแฮเร็นเคียมซี (...
พระราชวังสวยงามตระการตามากครับ
เออเห็นรถไฟของบ้านอื่นเมืองอื่นก็ให้คิดสะกิดใจว่าทำไมมันช่างแตกต่างกับบ้านเราอย่างสิ้นเชิง เฮ้อ ใช่ว่าพวกผู้บริหาร คนใหญ่คนโตจะไม่เคยไปดูงานกัน แต่ไปกันจนเหมือนเอาภาษีไปถลุง กลับมาทุกอย่างก็ต้วมเตี้ยมเตาะแตะ ถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่าง ไปมันเรื่อยๆอย่างนี้ เมื่อไหร่จะพัฒนาเสียที
เสิน
8 ตุลาคม, 2013 - 13:25
Permalink
Re: เที่ยวไปในเยอรมัน ตอนที่ 11 พระราชวังแฮเร็นเคียมซี (...
น้องโรส บ้านเรากินก่อน เหลือแล้วค่อยทำ
..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..
สนิทเมืองอุดร
9 ตุลาคม, 2013 - 04:43
Permalink
Re: เที่ยวไปในเยอรมัน ตอนที่ 11 พระราชวังแฮเร็นเคียมซี (...
แหมพี่เสินพูดได้ถูกใจเลยครับ คงจะจริงอย่างนั้นเห็นแล้วก็หดหู่ครับ
ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว
บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
สนิทเมืองอุดร
8 ตุลาคม, 2013 - 19:47
Permalink
Re: เที่ยวไปในเยอรมัน ตอนที่ 11 พระราชวังแฮเร็นเคียมซี (...
เขาสร้างได้งามจริงๆครับ บ่อยครั้งที่ได้นั่งรถไฟของเยอรมัน ผมก็อดคิดถึงรถไฟบ้านเราเมื่อไหร่หนอจะมีแบบนี้บ้างขอบคุณครับลุงโรสครับ
ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว
บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
วรนุช
8 ตุลาคม, 2013 - 08:49
Permalink
Re: เที่ยวไปในเยอรมัน ตอนที่ 11 พระราชวังแฮเร็นเคียมซี (...
สักวันการคมนาคมบ้านเราจะเหมือนเค้าแน่นอนเนอะ/สวยงามมาก อิจฉาคนได้ไปเที่ยวเนาะ
คงจะดี ถ้า...
สนิทเมืองอุดร
8 ตุลาคม, 2013 - 19:50
Permalink
Re: เที่ยวไปในเยอรมัน ตอนที่ 11 พระราชวังแฮเร็นเคียมซี (...
ก็ได้แต่หวังแบบนั้นครับพี่อุ๊ คงจะดีเลยทีเดียวครับ กลัวอิจจฉาเลยเอามาให้ดูแล้วไงขอบคุณครับ
ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงหรือต่ำอยู่ที่ทำตัว
บุคคลจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
หน้า