เดินป่า หาเฟิรน์
สวีสดีครับทุกท่าน ช่วงปลายฤดูแบบนี้ งานในสวนครัว ก็มีน้อยลง ปีนี้ทั้งปีไม่ได้ปลูกผักล้มลุกเลยครับ เนื่องจากเดินทางไกลกันบ่อย ปลายปีนี้ก็ต้องเดินทางกันไกลกันอีก ผักที่ขึ้นมาให้ทานที่บ้านก็มากันเองตามฤดูกาล ผักไหนที่มาตามฤดูแต่ไม่มีที่บ้านเราอยากทาน ก็ต้องไปหาเก็บเอาครับ บล็อกนี้เป็นบล็อกเดินป่า หาของทาน
ป่าเขตนี้ไปเดินบ่อยเพราะไม่ไกลจากบ้าน ขับรถไป สี่สิบห้านาที เป็นเขตสงวน ไม่ใหญ่โตมานัก มีถนนลาดยางตัดผ่าน และมีจุดตั้งแคมป์ และห้องน้ำ ให้บริการสะดวกดี
ฤดูในไม้ผลิแบบนี้ จะมีเฟิรน์ ให้เก็บครับ เฟิรน์ ที่เก็บนี้มีอยู่ทั่วไปในรัฐนี่ครับ แต่เลือกมาเก็บที่นี่ เพราะยอดอวบ และมีอยู่เยอะเลย เฟิรน์ชนิดนี้นั้น จะแตกยอด ช่วงใบไม้พลิ และต้นจะตายในช่วงหน้าหนาว เขตที่หนาวไม่มากต้นจะไม่ตาย ยอดออกมาใหม่จะไม่อวบ เจ้เจ้าของบ้านจะชอบทานยอดอวบๆ เลยเป็นที่มาให้ต้องขับรถขี้นเขามาเก็บ ฤดูเก็บส้้นครับ แค่เดือนเดียว พอใบเริ่มคลี่ กางออก ก็ทานไม่ได้ แล้ว
เฟิรน์ที่เก็บนี่ เรียก แบลค์เคนเฟิรน์ มีอยู่ทั่วโลกครับ เมืองไทยก็มี ที่บ้านเจ้เข้าก็มี โดยธรรมชาติเป็นเฟิรน์มีพิษครับ มีสารพิษหลายอย่างร่วมถึงมีสารก่อให้เกิดมะเร็ง ก่อนจะนำมาทานนั้น ต้องต้มแช่น้ำ เปลี่ยนน้ำกันหนึ่งถึงสองวันครับก่อนจะทานได้ ใบยิ่งแก่ยิ่งมีพิษเยอะ ดั้งนั้นจะเก็บกันแต่ยอดอ่อนๆที่ใบยังไม่คลี่ ครับ ในเขตหนาวนั้น ปีหนึ่งทานได้ครั้งเดียว เฟิรน์แบบนี้ที่บ้านเจ้เขามีขายตามร้านขายผักทั่วไป เจ้เขาจึงทราบวิธีการเตรียม ก่อนนำมาทาน ผมสองคนทราบได้อย่างไรว่าเป็นเฟิรน์ชนิดเดียวกัน เราสองคนเอาต้นไปถามเพื่อนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเฟิรน์มาครับ เลยทราบข้อมูลเยอะเลย รู้แน่เลยกล้าเก็บ ป่าเขตนี้มี แบลค์เคนเฟิรน์ เยอะมาก เก็บกันเพลิน เฟิรน์นี่ทานรากได้ด้วยครับ รากเป็นแป้งเหมือนมันทั้วไป แต่เล็กกว่า ป่าเขตนี้ห้ามขุดครับ เก็บได้ อย่างเดียวผมสองคนเลยไม่ได้ขุดรากมาทาน เราเคารพกฎครับ เขามีป้ายห้ามเราก็ไม่ทำ ช่วยกันอนุรักษ์ได้เราก็ทำครับ
เจ้เขาว่าต้นแห้งๆ แบบนี้ถึงดีครับยอดออดมาใหม่อร่อยดี
สังเกตดูครับ ยอดจะแทงออกมาจากดินแบบนั้นครับ ยอดที่ใบม้วนๆเราก็เก็บได้ เก็บเราก็ใช้หักเอา ส่วนที่กรอบก็จะหักออกมา ยอดที่ใบเขียวๆแล้วเราก็ปล่อยไว้ครับ
เราเดินเก็บเลาะลำน้ำไปเรื่อยๆครับ
เก็บเสร็จเราก็ล้างมือก่อนกลับ เพราะขนเฟิรน์ ก็มีพิษ ล้างนานไม่ได้ครับ น้ำเย็นมากๆ ปวดนิ้วมือได้
ผลงานที่เก็บมาทานกันครับ จากนี้เจ้เขาก็จะต้มเปลี่ยนน้ำล้างสารพิษออกแล้วเราก็เอามาทานได้ คนที่บ้านเจ้ทานกันมานานแล้ว เฟิรน์แบบนี้ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราไม่ได้ทานทั้งปี ปีหนึ่งมีให้ทานช่วงสั้นๆช่วงเดียว ด้วยความวิตกกังวล ของผม ผมก็ได้ไปตามอ่านหาข้อมูลสารพิษในแบลค์เคนเฟิรน์มา และก็เป็นที่น่าแปลกใจว่า ทุกประเทศที่บริโภค เฟิรน์ชนิดนี้ รู้วิธี ล้างสารพิษเหมือนกันหมด อาจต่างกันบ้างเรื่องระยะเวลาการแช่น้ำ เปลี่ยนน้ำ ผมถามคุณน้าคนไทย ท่านก็ว่าท่านต้มทิ้งน้ำ ล้างน้ำอีกจนหมดขนดำๆ แล้วก็เอามาจิ้มน้ำพริกทาน ผมจำชื่อภาษาอีสาน ไม่ได้ครับโทษที คนพื้นเมืองที่นี่ก็เก็บมาทานด้วยครับ พอผมได้ข้อมูลแบบนี้ ผมค่อยทานได้สะดวกปากไปกับเจ้เข้าด้วยครับ
รสเป็นอย่างไรนั้น เหมือนผักทั่วไปครับ กรอบๆ ลื่นๆ มีเมือกอ่อนๆ ไม่มากเหมือนกระเจียบ เจ้เขาเอามาใส่ซุป เต้าเจี้ยว เอามายำ ทานเพลินๆไปอีกแบบ
ไปครั้งนั้นได้เดินป่าด้วย เก็บผักด้วย และยังได้ดูต้นไม้พื้นเมืองที่ออกดอกในช่วงใบไม้ผลิด้วยครับ ไปครั้งเดียวคุ้มเลย มีบล็อกต่อเนื่องตามมาครับ
เจอกันในบล็อกต่อไปครับ
ผมตุ้ย คนสวน กับเจ้เจ้าของบ้าน
- บล็อกของ Tui
- อ่าน 7854 ครั้ง
ความเห็น
Max Sitthichai
25 พฤศจิกายน, 2013 - 13:02
Permalink
Re: เดินป่า หาเฟิรน์
แถวบ้านก็มีครับแต่ต้องขึ้นเขาไปอีกหลายกิโลเมตร แต่ไม่กินครับเพราะคนเก่าแก่ไม่พากินเลยไม่กล้ากิน แต่จะกินผักกรูดแทนซึ่งจะอยู่ตามลำธารน้ำเย็นใสขึ้นเองตามธรรมชาติครับ
รักบ้านเกิด ชอบเศรษฐกิจพอเพียง
Tui
25 พฤศจิกายน, 2013 - 17:20
Permalink
Re: เดินป่า หาเฟิรน์
สวัสดีครับคุณ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ถ้าเจ้เจ้าของบ้านผมไม่พาทานผมก็ ไม่กล้าทานนะครับ ผักกูด ปลูกอยู่ แต่ในกระถางครับที่บ้าน พอ หนาวมา ต้นไม่ไม่แข็งแรงเลย ผมเลยไม่กล้าลงดิน ช่วงนี้งามหน่อย อากาศ อุ่นขึ้น ผมชอบเก็บผัก เก็บหญ้าตามธรรมชาต ครับ เพลินดี
uthai.l
25 พฤศจิกายน, 2013 - 13:13
Permalink
Re: เดินป่า หาเฟิรน์
สวัสดีครับพี่ตุ้ย ทราบมาว่าเฟิร์นบางชนิดกินได้ แต่ผมไม่ค่อยเชี่ยวชาญเรื่องนี้ แม่บ้านผมจะถนัดกว่าเลยต้องตามใจเค้าครับ แต่ผมเอาแบบง่ายๆ ผักกูดดีกว่าครับ
Tui
25 พฤศจิกายน, 2013 - 17:37
Permalink
Re: เดินป่า หาเฟิรน์
สวัสดีครับ คุณ ผมนั้น เก็บอะไร ตามป่ามาทานเองไม่เป็น นะครับ หาเจอแต่ใบบัวบก ผักกูด นั้น ผมปลูกใส่กระถางยังไม่กล้าทานเลยครับ กลัวต้นไม่งาม ถ้าต้นตายไป หามาปลูกใหม่ ยาก เลยต้องถนอมเอาไว้ ก่อน ครับ อีกซัก สองปี ขายเยอะ หน่อย คงพอได้ทานบ้าง
หน้า