เที่ยวไปในเยอรมัน ตอนที่ 12 เมืองเอ้าบวก (Augsburg)

สวัสดีครับพี่น้องชาวบ้านสวนพอเพียงทุกท่าน เนื่องจากผมติดภารกิจต้องไปทำงานที่เมืองเอ้าบวก ตั้งแต่ 23-11-2556 ที่ผ่านเป็นเวลาเดือนกว่าๆและที่บ้านพักก็ไม่มีอิเตอร์เน็ตจึงไม่ค่อยได้เข้ามาทักทายหรือคอมเม้นบล็อกต่างๆของเพื่อนสมาชิกครับ เพิ่งกลับมายังที่ทำงานเดิมอาทิตย์นี้เองครับ วันนี้จึงขอนำภาพของเมืองเอ้าบวกมาให้ชมเล็กน้อยครับ เนื่องจากช่วงนี้ทางเยอรมันเริ่มหนาวแล้วจึงไม่ค่อยจะได้ไปเที่ยวที่ไหนครับ เมืองนี้อยู่ห่างจากเมืองมิวนิค 69 กม.นั่งรถไฟราว 40 นาทีครับ ต้นทาง มิวนิค-ปลายทาง อูม ครับ

จะขอเล่าเกี่ยวกับเมืองเอ้าบวกก่อนนะครับ เมืองเอ้าบวกเป็นเมืองใหญ่อันดับท่ีสามของรัฐบาเยิร์น  (หรือเมืองเอาก์บูร์กในภาษาอังกฤษ)เป็นเมืองเก่ามีความยาวนานกว่า 2,000 ปี ตั้งแต่ 15 ปี ก่อนคริสตกาลจากค่ายกองทัพโรมันเติบโตเป็นเมืองทรงอิทธิพลชื่อ เอากุสทาวินเดลิโครุม จากนั้นก็กลายเป็นศูณย์การค้าและศาสนา มีศาลากลางและหอคอยแพร์ลาคทูร์ตั้งเด่นเป็นสง่า ตัวศาลากลางก่อสร้างในปี 1615- 1620 และมีห้องโถงทองคำ (โกลเดเนอร์ซาล)อยู่ภายในอาคาร เป็นห้องโถงที่สร้างโดยมีส่วนผสมของทองคำ ห้องอันวิจิตรเป็นสัญลักษณ์ความมั่งคั่งของชนชั้นกลางในสมัยนั้น จะเป็นอย่างไรนั้นตามมาชมกันเลยครับ

กำแพงเมืองเก่าซึ่งเป็นป้อมป้องกันข้าศึกในสมัยอดีตครับ

ถึงจะผ่านมานานแล้วเขาก็ยังรักษาไว้เป็นอย่างดีครับ

ระบบขนส่งของเมืองมีรถรางและรถเมล์เป็นหลักครับ โดยใช้รางควบคู่ไปกับถนนที่รถยนต์วิ่งครับ

ภายในรถรางครับ

จะมีจอให้ดูและมีเสียงประกาศให้ทราบถึงป้ายรถต่อไปเหมือนรถไฟฟ้าบ้านเราครับ รถเมล์ก็เหมือนกันครับถ้าบ้านเรามีแบบนี้คงจะดีครับ

หอคอยแพร์ลาคทูร์ เป็นหอนาฬิกาและศาลากลางเมืองเอ้าบวกครับ

ช่วงนี้หน้าศาลากลางกำลังจัดงานขายของเกี่ยวกับวันคริสมาสที่เยอรมันเรียกว่า ไวนัค Weihnachten จะมีจัดตามเมืองต่างๆทั่วประเทศเป็นเวลาเกือบเดือนครับ ร้านนี้ขายหมวกและรองเท้ากันหนาวครับ

พวงมาลัยจากขนมปังแบบต่างๆครับ

ขนมหลากหลายแบบให้เลือกชิมครับ

แกวดื่มลายสวยๆก็มีให้เลือกครับ

ที่ขาดไม่ได้อีกอย่างก็คือไส้กรอกย่างหลากหลายแบบให้เลือกครับ

น่ากินทีเดียวครับเป็นอีกอย่างที่ขึ้นชื่อของเยอรมันครับ

งานไวนัคขาดไม่ได้ก็คือ ไวน์อุ่นจากผลไม้ต่างๆครับ เหมาะสำหรับหน้าหนาวเท่านั้นครับ

 จะมีโต๊ะเล็กๆให้วางแก้วจิบไปคุยกันไปครับ

สำหรับคนไม่ดื่มแอลกอฮอลล์ก็มีให้เลือครับ อันนี้ของผมชื่อว่า คินเดอพุน หรือสำหรับเด็กนั่นเองครับ คินเดอ แปลว่า เด็ก ครับ ราคา 2 ยูโรครับหรือประมาณ 80 บาท

จุดต่อไปก็ต้องขึ้นไปชมห้อง Goldener Saal หรือห้องโถงทองคำ คำว่า ศาลากลางในภาษาเยอรมันคือ Rathaus ราทเฮ้าส์ ค่าเข้าชมท่านละ 2.50 ยูโรครับ

ที่นี้ให้ถ่ายภาพได้ครับ ข้างบนเพดานเป็นไม้แกะสลักและภาพวาดครับ สร้างในปี ค.ศ.1615-1620 หรือ 398 ปีที่ผ่านมาครับ

อยากบอกว่าของจริงสีทองเขาสวยทีเดียวครับ

มีนักท่องเที่ยวเข้าชมไม่ขาดสายเลยครับ

ต้องยอมรับคนออกแบบเก่งจริงๆ อาคารปูนและไม้เป็นเพดานไม้เข้ากันดีครับ

เป็นห้องโถงใหญ่โล่งๆไม่มีเสาตรงกลางบดบังเลยครับ

ประตูไม้บานใหญ่สวยทีเดียวครับ

มีโต๊ะสองตัวที่กลางห้องครับ

ข้างห้องใหญ่ก็มีห้องเล็กอีกสองห้องครับอันนี้ห้องแรกครับ เขาแกะสลักไม้สวยเหมือนกันครับ

ตกแต่งด้วยไม้รอบห้องครับ

ลายฝ้าเพดานทำจากไม้ก็งาม ถ้าช่างทำฝ้าเพดานบ้านเราเก่งแบบนี้ คงจะรายได้ดีที่เดียวครับ

ห้องที่สองฝั่งตรงกันข้ามครับ วงกบประตูก็ทำจากไม้บานใหญ่ที่เดียวครับ

ปูด้วยพื้นไม้และตกแต่งด้วยไม้รอบห้องเหมือนกันครับ

สีสันก็ออกสีไม้ล้วนๆแต่ก็สวยครับ

ฝ้าเพดานไม้ก็คนละแบบกับห้องที่แล้วครับ

แล้วก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ครับ ถ้ามีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ไหนอีกจะนำมาเล่าให้ฟังต่อไปครับ ถ้าไม่เห็นเข้ามานานๆก็แสดงว่าต้องเดินทางไปทำงานต่างเมืองนะครับ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณบ้านสวนพอเพียงที่ให้โอกาสผมได้แบ่งปันครับ

                 และขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาชมครับ