ปูเล่อีกครั้ง

ไม่ได้เขียนบล็อกเสียนานวันนี้มาแจ้งความคืบหน้าเรื่องปูเล่อีกครั้ง    หลังจากที่เฝ้าทนุถนอมมานานพอสมควร  ผลผลิตที่ได้น่าภูมิใจมากๆ   ปูเล่ ต้นนี้สีม่วงก้านใบแข็งแรงสวยงามเหมือนดอกไม้พลาสติก แต่กินได้กรอบอร่อยมาก 

ต้นนี้สีเขียว ทั้งความงามและความอร่อยไม่ได้ด้อยกว่ากันเลย

อยากจะบอกว่าการปลูกปู่เล่ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายนัก  หากจะเพาะต้นกล้าขอให้เพาะในช่วงที่อากาศเย็นๆสักหน่อย หน้าจะเป็นช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม จะดี ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนเดือนเมษายนแบบนี้โอกาสรอดจะยากสักหน่อย เมื่อเพาะรอดแล้วก็จะอยู่นานๆๆๆเลยที่เดียว

และขอบอกว่าปูเล่ไม่ชอบแสงแดดจัดๆ ยิ่งเป็นแดดช่วงเที่ยงวันถึงช่วงบ่ายยิ่งไม่ดีต่อเจ้าปูเล่เป็นอย่างมาก ถ้าให้ดีต้องมีร่มเงาให้สักหน่อย  และถ้าปลูกในกระถางช่วงที่อากาศร้อนมากก็ต้องหมั่นให้น้ำบ่อยๆ 

และเมื่ออากาศเย็นมากหน่อยก็จะเริ่มห่อตัวเหมือนกระหล่ำปี แบบนี้

แต่เมื่อเริ่มห่อตัวแล้วอย่าให้โดนน้ำฝนอย่างเด็ดขาดมิเช่นนั้นจะเป็นแบบนี้

และก็ตาย.....

แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้เรื่อยๆ โดยที่ลำต้นยังไม่เน่าก็จะมีแขนงแตกออกมาอย่างนี้  หลายตำราบอกว่าแขนงนี้เอาไปเพาะเป็นต้นใหม่ได้  แต่ว่าป้ายังไม่มีเวลาแยกเลยยังไม่ทราบผล เดี๋ยวมีเวลาจะลองดู

และก็ต้องระวังเพื่อนบ้านจะมาเยือน แบบนี้ ตอนเช้าๆเดินดูและเก็บออกไปแล้วได้หนอนเป็นสิบตัวเลย

สรุป ตอนนี้มีความสุขกับการปลูกปูเล่ จำนวน 100 กระถางพอดิบพอดี ได้กินปูเล่กรอบๆ ทุกวันสบายไป

แถมด้วยมะเขือเทศเชอรี่กำลังสุกพอดี  แต่ชุดนี้ยังไม่ใช้การบ้านจากคุณอ้อยหวานนะ ของคุณอ้อยหวานขอค้างไว้ก่อนช่วงนี้อากาศร้อนจัดมากๆ เกรงว่าเพาะเม็ดแล้วจะไม่รอด 

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาคะ พบกันใหม่บล็อกหน้าคะ