เล่าสู่กันฟัง “ฝันร้ายที่ พริเพียต.. ยูเครน”
เมื่อเขียนบล็อก “มินะมะตะ” แล้ว จะไม่เขียนถึงโศกนาฏกรรมที่เลวร้ายที่สุดอีกเรื่องหนึ่งของโลก ก็คงไม่ใช่อ้อยหวาน ภัยพิบัติต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ในโลก ที่ร้ายแรงที่สุด คงจะไม่มีเรื่องใดเทียบเท่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนเวิล (หมายเหตุคำว่า “Chernobyl” ภาษารัสเซียอ่านว่า “เชอร์โนเวิล” ไม่ใช่ เชอร์โนบิล) และเกิดจากฝีมือของมนุษย์! ถึงแม้เรื่องนี้จะเป็นอุบัติเหตุ แต่มนุษย์เป็นตัวต้นเหตุ
อ้อยหวานขอพาเพื่อนๆ ไปที่ เมือง‘พริเพียต’ (Pripyat) เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศยูเครน
ในปี 1970 ยูเครนอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต ในตอนนั้นรัฐบาลมีคติว่า ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ มีความปลอดภัยกว่าจากพลังงานอื่นๆ จึงได้มีการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนเวิล ขึ้น และได้สร้างเมืองใหม่ใกล้ๆ กัน มีชื่อว่าเมืองพริเพียต มีการวางแผนผังและสร้างเมืองอย่างพิถีพิถัน มีศาลากลางเมือง โรงพยาบาล โรงเรียน โรงแรม ช้อปปิ้งมอลหรูหราขนาดใหญ่ สวนสาธารณะ พร้อมทั้งสวนสนุก
แต่..น่าเศร้าใจที่ 16 ปีต่อมา ก็เกิดเหตุร้ายขึ้น
ในเดือนเมษายน ของปี 1986 ผู้คนในเมืองพริเพียตต้องพบกับฝันร้ายที่สุดในชีวิต เมื่อเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนเวิลได้ระเบิดขึ้น
การระเบิดครั้งนี้ทำให้มีปริมาณของสารกัมมันตรังสีและสารพิษออกมาสู่ชั้นบรรยากาศ สูงกว่าระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมา ญี่ปุ่น ถึง 500 เท่า
ขอบคุณ youtube และ คุณ Tonemapped
สารกัมมันตรังสี Iodine 131 ได้กระจายไปทั่วยุโรป เมื่อมนุษย์ได้รับสารนี้เข้าไปในร่างกาย จะทำลายต่อมไทรอยด์ และกัดกินส่วนอื่นๆ ในร่างกาย ในเวลาต่อมา
สาร Caesium 131 เป็นสารที่กำจัดได้ยากมาก จะปนเปื้อนอยู่บนทุกอย่างที่มันสัมผัส อยู่นานถึง 30 กว่าปี
สาร Strontium 90 หนึ่งในสารกัมมันตรังสีที่มีอันตรายมากๆ สารนี้จะโจมตีกระดูกไขสันหลัง เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งในกระดูก มะเร็งของเนื้อเยื่ออ่อนที่อยู่ใกล้กระดูก และมะเร็งเม็ดเลือดขาว
วงจรชีวิตของสาร Strontium 90 ยาวนานถึง 90 ปี!!!
ก๊าซพิษ Xenon 133 เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งในปอด แม้แต่ฝนก็ไม่สามารถชำระล้างมันได้ แต่จะเปลี่ยนสภาพจากก๊าซมาเป็นสารกัมมันตรังสีที่แข็งตัว และจะอยู่คู่โลกอีกหลายร้อย หลายพัน หรือหลายหมื่นปี
สุดท้ายคือ สาร plutonium 239 เป็นสารที่มีอันตรายที่สุด และเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งหลายๆ ชนิด สาร plutonium 239 กำจัดได้ยากมาก
ข่าวร้ายคือ ..จะอยู่คู่โลกไปถึง 24,000 ปี
“ร่างของพวกเขามีสีแปลกๆ แม้แต่ภายใต้เสื้อผ้าที่ฉีกขาดรุ่งริ่งก็มีรอยใหญ่ปรากฏขึ้น สีแทนของนิวเคลียร์ เป็นการตายที่น่ากลัวที่สุด” จาก เชอร์โนเวิล คืนวันสิ้นโลก (Chernobyl: The night of the end of the world)
เหตุการณ์ฝันร้ายนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตโดยตรง 31 คน ผู้ที่รอดชีวิตจากการระเบิดจะเสียชีวิตด้วยความทุกข์ทรมานในชั่วโมงต่อมา บางคนมาถึงโรงพยาบาลด้วยร่างที่เกือบละลาย
รัฐบาลยูเครนรายงานว่าเหยื่อเชอร์โนเวิล 642,000 คน จากทั้งหมด 3 ล้านคน คือเด็ก
เหยื่อเชอร์โนเวิล
เหยื่อเชอร์โนเวิล
เหยื่อเชอร์โนเวิล
ในปัจจุบันนี้เมืองพริเพียตเป็นเมืองร้าง ไร้ผู้คน และจะเป็นเมืองร้างไปอีกนานแสนนาน
ภาพเมืองพริเพียต อดีตและปัจจุบัน
มนุษย์โลกจะได้บทเรียนไหมหนอ?
เรามักจะสร้างก่อน เกิดปัญหาแล้วค่อยแก้เอาทีหลัง
แม้ในขณะนี้ วันนี้ วินาทีนี้
เราก็ยังไม่สนใจกับบทเรียนราคาแพง บทเรียนที่ต้องสูญเสียทั้งชีวิตของผู้คนและสิ่งแวดล้อม
จะต้องได้บทเรียนเช่นนี้อีกกี่ครั้งกี่หน??
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ค่ะ
http://www.postiar.com/post/15934/chernobyl-25-years-later.html
http://en.wikipedia.org/wiki/Chernobyl_disaster
http://en.wikipedia.org/wiki/Chernobyl_Nuclear_Power_Plant
http://en.wikipedia.org/wiki/Pripyat
http://www.bcd-urbex.com/chernobyl-nuclear-power-plant-ukraine/
http://shahray-shahray.blogspot.ca/2011/04/ghost-city-of-chernobyl.html
http://timster1973.wordpress.com/2012/10/13/the-firefighters-of-chernobyl/
http://www.theatlantic.com/infocus/2011/03/the-chernobyl-disaster-25-years-ago/100033/
https://maryloudriedger2.wordpress.com/tag/chernobyl-at-the-united-nations/
http://totallycoolpix.com/2011/04/chernobyl-25-years-later-then-and-now/
http://becuo.com/chernobyl-radiation-victims
I would like to Thanks everyone for all the resources for this blog. Thank you.
ขอให้เพื่อนๆมีแต่ความสุข
ขอบคุณค่ะ
อ้อยหวาน
- บล็อกของ อ้อยหวาน
- อ่าน 24787 ครั้ง
ความเห็น
อินเนียร์
22 ตุลาคม, 2014 - 10:39
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง “ฝันร้ายที่ พริเพียต.. ยูเครน”
เรื่องนี้ผมคิดอย่างนี้ครับ:มนุษย์ติดกับการเสพความสะดวกสบายอย่างไม่รู้จักพอ คิดอะไรใหม่ๆมาเพื่อให้ไม่ต้องออกแรง(ทำให้มนุษย์เองอ่อนแอลงด้วยซ้ำ)และการสร้างอะไรต่อมิอะไรต้องใช้พลังงานทั้งนั้น รวมการบรรเทิงเฮฮาที่ไม่เคยรู้จักพอก็ต้องใช้พลังงานทั้งนั้น ที่นี้มันก็ต้องหาแหล่งพลังงานมาให้พอ แต่พลังงานฟอสซิลก็กำลังหมดไป ทางออกคือพลังงานนิวเคลียซึ่งมีขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับเขื่อนไฟฟ้าพลังงานน้ำ(และกำลังควบคุมน้ำไม่ได้) ทีนี้การสร้างโรงงานนิวเคลียร์ต้องเพิ่มความปลอดภัยอีกเท่าไรก็ได้ที่ปลอดภัยจริงๆ(เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะยังไงพลังงานชนิดอื่นก็ต้องหมดลงในซักวันหนึ่งข้างหน้าในรุ่นหลานเหลน) บอกให้ลดการใช้พลังงานลงเพื่่อชะลอให้วันนั้นยืดออกไป แต่ใครฟังบ้างเกือบทุกประเทศทั่วโลก ทีนี้มนุษย์ก็อย่างที่พบเห็น อยากได้ที่ทิ้งขยะแต่อย่ามาทิ้งทีบ้านฉันนะ จะทิ้งที่ไหนก็ทิ้งไป โรงงานนิวเคลียร์ก็เหมือนกันสร้างที่ไหนก็ช่างอย่ามาสร้างที่บ้านฉัน นี่ยังไม่นับการโกงกินคอรัปชั่นในการสร้างซึ่งจะส่งผลให้โรงงานขาดความแข็งแรงไม่ปลอดภัย ถามว่าคนสร้าง คนที่โกงกินคิดไหมว่าจะไม่ปลอดภัย ตอบได้เลยว่าไม่คิด ทุกเรื่องมันเป็นแบบนี้ เราอยู่แบบชาวภูฎานได้ไหม เราอยู่ไม่มีไฟฟ้าได้ไหม แม้ว่าเรายอม แต่เราก็ได้ทำลายธรรมชาติไปมากไม่แน่ใจว่าจะเอาอะไรมาจุดจะเกียง จะเอาฟืนที่ไหนมาหุงหาอาหาร และให้ความอบอุ่บร่างกาย(ผู้คนในกลุ่มประเทศหนาว) เราต้องทบทวนประวัติศาสตร์แล้วล่ะครับ *-*ไม่ทราบเขียนยาวไปหรือเปล่า หากยังไงผมมาแก้ไขให้นะครับ *---*ขอบคุณ คุณอ้อยหวานครับที่เขียนเรืองนี้
อ้อยหวาน
22 ตุลาคม, 2014 - 18:26
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง “ฝันร้ายที่ พริเพียต.. ยูเครน”
ที่คุณอินเนียร์กล่าวมานั้นถูกต้องค่ะ มนุษย์เราได้ใช้พลังงานฟอสซิลจนขอดก้นบ่อ ต้องหาพลังงานอย่างอื่นมาทดแทน แต่..พลังงานนิวเคลียร์ ความเสี่ยงและความเสียหายที่ได้นั้นมันสูงเกินไป เหมือนตีลังกาทรงตัวด้วยมือบนหลังเสือหิวโหย ที่อยู่กันเป็นฝูง ทำไมเราต้องเสี่ยงถึงขนาดนั้น ทำไม????
อินเนียร์
31 ตุลาคม, 2014 - 05:43
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง “ฝันร้ายที่ พริเพียต.. ยูเครน”
ทำไมเราต้องเสี่ยงผมได้ให้เหตุผลไปแล้วครับ เอามั๊ยที่เราต้องอยู่กันมืดๆไม่มีไฟฟ้า เอามั๊ยที่เราต้องหุงข้าวใช้ไม้ฟืนฯลฯ ไม่มีพลังงานอื่นที่จะมาทดแทน ยังไม่ได้พูดถึงว่าจะมีไม้ฟืนมาจากไหนเมื่อป่าหมดแล้ว คุณอ้อยเชื่อมั๊ยว่าป่าทั้งป่าตัดมาทำไม้ฟืนไม่กี่วันก็หมด แล้วป่าเหลืออยู่เท่าไหร่ ความต้องการของมนุษย์ทุกวันนี้เป็นอย่างไรก็รู้ๆกันอยู่*-*ไม่ทราบว่าเคยได้ยินหรือเปล่าว่า ขณะนี้มนุษย์มีมากเกินกว่ากำลังการผลิตอาหารให้เพียงพอกับความต้องการ แม้ว่าเมื่อก่อนเลี้ยงไก่8-9เดือนจึงจะฆ่ามาเป็นอาหาร ทุกวันนี้เลี้ยงไก่แค่28วันก็เชือดได้แล้วซึ่งแน่นอนว่าไม่ค่อยมีคุณค่าทางอาหาร และเลี้ยงกันจำนวนเยอะๆมากๆก็ยังไม่พอเพราะมนุษย์มีมากเกินไป มีแผนกำจัดให้คนตายไปโดยวิธีใดวิธีหนึ่งเพือให้มนุษยชาติอยู่รอดต่อไป มีการนำเมล็ดพันธ์พืชไปฝังอยู่ใต้ดินลึกเป็นกิโลเมตรใต้หิมะเพื่อว่าเมื่อมีการกำจัดมนุษย์บางส่วนไปแล้วซึ่งจะทำให้พืชผักตายไปด้วย จะได้นำเมล็ดพืชที่ฝังไว้มาขยายพันธ์ต่อได้(ให้นึกถึงเรื่อง "โนอาห์")*-*ทุ่มให้สุดๆไปในการสร้างโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ให้ปลอดภัย ในพื้นของโรงงานไฟฟ้าพลังน้ำเขาเขียนไว้ว่าพื้นของโรงไฟฟ้ารับแรงไม่จำกัด(หมายความว่ามันปลอดภัยไม่รู้กี่เท่าต่างจากการสร้างพื้นบ้านทั่วๆไปมาก)
*-*สรุปคือ ถ้าวันนึงเราไม่มีไฟแสงสว่างจะไปไหนมาไหน(แต่ก่อนถึงตรงนั้น จะหุงหาอาหารกันอย่างไร และสารพัดที่ต้องใช้ไฟฟ้า จะทำอย่างไร)ผมเคยทำงานในป่าที่ไม่มีไฟฟ้า มืดตึ๊ดตื๋อ ผมรู้สึกได้ ผมเลยหุงข้าวกับหม้อสนามให้ดูไง ฮ่ะๆ คุยกันสบายๆสนุกๆนะครับ*-*แรกเราเอียดๆเดินไปม่ายไฟ ยังจำได้เหลยม่าย ผมเคยอยู่ท่าม้า ตรงข้ามปั๊มสามทหาร เคยจับหิ้งห้อยมาเล่น หุงข้าวใช้ไม้ฟืน ยังจำวันเก่าๆไม่ลืม
ป้าต่าย
22 ตุลาคม, 2014 - 17:02
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง “ฝันร้ายที่ พริเพียต.. ยูเครน”
ผู้มีอำนาจในประเทศไทย บางคน บางพวก บางกลุ่ม โดยเฉพะพวกนักวิชาการที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ผลประโยชน์สวนตัว ก็พยายามจะสร้างโรงไฟฟ้าแบบนี้ในประเทศไทยให้ได้ ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนคิดกัน
คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก
อ้อยหวาน
22 ตุลาคม, 2014 - 18:27
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง “ฝันร้ายที่ พริเพียต.. ยูเครน”
จริงๆ ค่ะ ป้าต่าย โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่ควรจะกำเนิดขึ้นอีก ของเก่ายังเป็นปัญหาแก้ไม่ได้ อย่าสร้างปัญหาใหม่ดีกว่า
ขณะนี้ที่เชอร์โนเวิลก็ยังแก้ไขการระบาดของสารกัมมันตรังสีกันอยู่ ผ่านมา 28 ปี ก็ยังต้องสร้างอาคารคลุมบริเวณเตาปฏิกรณ์ทั้งหมด ธนาคาร European Bank for Reconstruction and Development (EBRD) ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินถึง หนึ่ร้อยล้านยูโร และคาดว่าจะเสร็จในปีหน้า
อินเนียร์
23 ตุลาคม, 2014 - 06:23
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง “ฝันร้ายที่ พริเพียต.. ยูเครน”
ความจริงก็ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับรังสีปรมาณูหรอก อินเนียร์เองก็เหมือนกัน มันไม่ใช่ของล้อเล่นเลย ที่เขียนอย่างนั้นก็เป็นความคิดเห็นหากวันนึงถึงจุดที่หมดพลังงาน ก็มี2ทางให้เลือกคืออยู่แบบไม่มีไฟฟ้าและเชื้อเพลิงอื่นที่ได้จากป่าเพราะไม่มีไม้(มีแต่การโค่น ส่วนที่ชวนกันปลูกไม่เห็นเป็นรูปธรรมสักเท่าไหร่) เมื่อไม่มีไฟฟ้า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องใช้ไฟฟ้าก็ต้องหยุด เช่นน้ำประปา แล้วจะทำอย่างไร จะเอาน้ำจากไหน ได้ข่าวว่าที่นครศรีธรรมราชต้องเอารถไปขนน้ำดิบมาจากสุราษฏร์เพื่อเอามาทำน้ำประปา เวลาน้ำประปาหยุดไหลทุกวันนี้ก็เดือดร้อนกันไม่รู้จะอยู่อย่างไร*-*ที่คุยกันก็แค่แลกเปลี่ยนความเห็นกันเฉยๆครับ ไม่ใช่ว่าจะมีการสร้าง แต่อินเนียร์แค่มองอีกมุมที่ต่างออกไป ไม่ใช่ว่าจะเห็นดีเห็นงามกับโรงงานนิวเคลียร์หรอกครับ
อินเนียร์
23 ตุลาคม, 2014 - 06:24
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง “ฝันร้ายที่ พริเพียต.. ยูเครน”
วรพจน์ เอียดจันทร์
22 ตุลาคม, 2014 - 20:51
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง “ฝันร้ายที่ พริเพียต.. ยูเครน”
หยุดนิ่ง ๆ สักพักหนึ่ง นะครับ ใคร่ครวญ ไตร่ตรอง ถึงในอดีตและปัจจุบัน แล้วหันมาถามตัวเอง เราพอหรือยัง ?
ตามรอยของพ่อมาสิ ...ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง...แล้วทุกคุณจะเข้าใจ " คำที่พ่อสอน " พ่อของแผ่นดินไง ( พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช )
การทำงานต้องรู้จริงทำจริงจึงประสบกับความสำเร็จ
minja
23 ตุลาคม, 2014 - 21:08
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง “ฝันร้ายที่ พริเพียต.. ยูเครน”
หลายอย่างมาจากความเห็นแก่ตัว ละโมภ แม้แต่เทคโนโลยี่ใหม่ๆ ก็นำมาหากินกับเยาวชน ไม่คำนึงถึงผลร้ายที่ตามมา เพียงเพื่อผลประโยชน์อย่างเดียวไม่รู้จักพอ
คำที่พ่อสอนอยู่อย่างพอเพียง ยังถูกคนบางกลุ่มปลูกฝังเยาวชนให้เห็นเป็นสิ่งผิด แต่ต่างประเทศเช่นภูฏาณยังนำปรัชญาของพ่อไปใช้ แต่คนไทยบางคนกลับเห็นผิด
เสิน
25 ตุลาคม, 2014 - 21:18
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง “ฝันร้ายที่ พริเพียต.. ยูเครน”
มาให้กำลังใจกับคนที่เห็นพิษภัยสิ่งเหล่านี้
..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..
หน้า