เล่าสู่กันฟัง เรื่องของมะเดื่อ ตอน ลูกกรวด กะโผ๊ะ
สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้เอาเรื่องของไม้ที่ชื่อว่า “มะเดื่อ” มาเล่าสู่กันฟัง หลายคนเคยได้ยิน “ มะเดื่อมันไม่ค่อยดีเพราะมีแมงหวี่เข้าไปอยู่ข้างใน ” จะดีหรือไม่ดีก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ที่แน่ๆ มะเดื่อมีหลายชนิด บางชนิดกำลังจะสูญพันธุ์ จากการทำลายของมนุษย์เรา เพราะใช้พท.เพื่อปลูกพืชเศรษฐกิจแย่งที่อยู่อาศัยของไม้ในธรรมชาติ อาจมองว่ามะเดื่อไร้ประโยชน์ไม่ได้ใช้สอย หรือกินไม่ได้ จะด้วยเหตุผลอันใดก็แล้วแต่ นับวันมะเดื่อก็จะเหลือน้อยลงทุกที
มะเดื่อ เป็นไม้ประเภทไม้เนื้ออ่อน มีข้อปล้อง มีหลายสายพันธุ์ ส่วนใหญ่ผลกินได้ ผลอ่อนของมะเดื่อบางชนิดกินเป็นผักเคียงคู่กับเมนูอาหารบางเมนู บางชนิดกินผลสุกเป็นผลไม้ บางชนิดไม่นิยมกินแต่ปลูกประดับเพื่อความสวยงาม
มีมะเดื่อต้นไหนบ้างที่นำมาเล่าวันนี้ ติดตามกันต่อครับ
ลูกกรวด
ไม้ต้นนี้ผมเห็นครั้งแรกที่ทางขึ้นน้ำตกนกรำ จ.พัทลุง
http://www.bansuanporpeang.com/node/15658
หลังจากนั้นจนบัดนี้ผมก็ไม่เคยเห็นต้นโตๆที่มีผลแบบนี้อีกเลย เจอแต่ต้นเล็กครั้งหนึ่งที่บ้านผญ.โสทร บัดนี้คงโตและอาจมีลูกแล้วก็ได้ มะเดื่อที่ชื่อลูกกรวดนะ ไม่ใช่ผญ.โสทร ฝากข่าวถามหน่อยที่ให้หาให้ผมสักต้นนั้น หาได้แล้วยังครับ
สำหรับชื่อเรียกมะเดื่อต้นนี้ ก็ยังไม่ชัดเจน คนพัทลุง คนนครศรีฯเรียกลูกกรวด ค้นหาข้อมูลทั่วไปก็ไม่มี ผมจึงขอเรียก ”ลูกกรวด” ตามที่ได้ยินมาก็แล้วกัน ส่วนรายละเอียดอื่นๆท่านใดเคยสัมผัสเคยรู้จัก หรือมีข้อมูล นำมาเพิ่มเติมได้ครับ อ้อ เกือบลืม ผลสุกกินได้ครับ เขาว่ามา
ส่วนภาพด้านล่าง จะเป็นมะเดื่อชนิดเดียวกันหรือไม่ ขออนุญาตนำมาอ้างอิงครับ เพราะเห็นว่ารูปลักษ์ใกล้เคียงกัน
ที่มาของภาพ http://akkarakitt.exteen.com/20091211/episode-ix
ต้นต่อไป
โผ๊ะ,โพ๊ะ,กะโผ๊ะ
ไม้ต้นนี้ผมนำต้นเล็กๆมาจากป่า เอามาปลูกไว้ในสวนเมื่อนานมาแล้ว กะโผะ,กะโผ๊ะ ถ้าค้นจากกูเกิ้ลก็จะเจอแต่คำลงท้ายนามสกุลของบุคคล ถ้าค้นในบ้านสวนพอเพียงก็จะเจอhttp://www.bansuanporpeang.com/node/11872,,,และอื่นๆอีกเล็กน้อย
ลองค้นดูจากหนังสือพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ฉบับเก่า ฉบับใหม่พุทธศักราช๒๕๕๔ก็ไม่มี แม้แต่พจนานุกรมภาษาถิ่นใต้ พุทธศักราช๒๕๕๐ ก็ไม่มี นักพฤกษศาสตร์เขาให้ชื่อไว้ว่าอย่างไรหนอ หรือตกสำรวจละเจ้ามะเดื่อที่ชื่อว่า กะโผ๊ะ เพราะฉะนั้นงานนี้ทั้งต้นลูกกรวด ทั้งต้นกะโผ๊ะข้อมูลทางพฤกษศาสตร์จึงไม่มีไปโดยปริยาย
ถ้าถามว่าทำไมผมจึงเอามาปลูกล่ะ ตอบง่ายๆครับ ผลอ่อนขนาดนิ้วโป้ง สดๆจิ้มน้ำพริกครับ หรือต้มก่อนก็ได้ แกงกะทิกับเนื้อรสชาติก็ไม่เลว ผลอ่อนมันกินได้ครับ ส่วนผลสุกก็กินได้ แต่ไม่อร่อยเท่านั้นเอง
เหลือบขึ้นไปดูที่เล่ามา ชักยาวแง่ะ ...พบกับต้นมะเดื่อต้นต่อไป ในบล็อกต่อไปนะครับ สวัสดี.
- บล็อกของ เสิน
- อ่าน 21282 ครั้ง
ความเห็น
เสิน
22 มิถุนายน, 2015 - 15:51
Permalink
Re: เล่าสู่กันฟัง เรื่องของ มะเดื่อ
ช่วงนี้หาต้นได้เหลยม่ายน้อง
..โอกาสไม่ได้มีทุกวัน..
หน้า