นิทานสะตอดอง
เมื่อวานได้ไปเยี่ยมลูกน้องเนื่องจากแฟนเขาคลอดลูกขากลับพ่อเขามีของฝาก
คือสะตอเยอะมาเลยเอามาทำสะตอดองเก็บไว้ทาน
เลยนึกถึงนิทานคติสอนใจลูกหลานไม่ให้ลืมถิ่นฐานบ้านเกิด
(นิทานบ้านเรามักจะเริ่มต้นอย่างนี้)
ลุงคนนึงแกมีลูกบ่าวคนเดียว แกอุตส่าห์ทำนาทำสวนส่งให้เรียนจนจบได้เสื้อเนฯ(หมายถึงจบปริญญาตรีนิติศาสตร์ได้ใส่เสื้อครุย) ทำงานทำการใหญ่โต แกก็ดีใจ นานหลายปีลูกบ่าวไม่มาหาสักที แกก็เลยว่าจะไปเยี่ยม ตระเตรียมข้าวของไปฝากลูก อย่างหนึ่งที่ลืมไม่ได้เพราะเมื่อลูกเป็นเด็กนั้นชอบนักหนา นั่นคือสะตอดอง แกจัดอย่างดีดองเกลือใส่กระบอกไม้ไผ่อัดแน่นไว้เต็มกระบอกเตรียมไปให้ลูก
ไปถึงบ้านลูก(ในนิทานไม่ได้บอกว่าไปถึงได้อย่างไร)หลังใหญ่โตมีรั้วรอบขอบชิดเข้าบ้านไม่ได้ แกก็ตะโกนเรียก "ไอ้ไข่ ไอ้ไข่...”ตามที่เคยเรียกมาแต่อ้อนแต่ออก เมียของลูกบ่าวแต่งตัวสวยพริ้งโผล่หน้ามาดู แต่ก็ไม่เปิดประตูให้เข้าบ้าน คงกลัวเพราะไม่รู้ว่าเป็นใคร สักเดี๋ยวลูกบ่าวก็ชะโงกหน้ามาดูอีกคน แกย่อมจำลูกได้แม้มันจะเป็นหนุ่มใหญ่แต่งตัวโก้ขนาดไหน ก็ตะโกนด้วยความดีใจ "ไอ้ไข่ ไอ้ไข่ นี่พ่อมึงนิ" ลูกบ่าวตกตะลึงพรึงเพริด หลบหน้าผลุบเข้าบ้านไปนาน แกก็นึกว่ามันคงดีใจตื่นเต้นได้เจอหน้าพ่อเตรียมเนื้อเตรียมตัวไม่ทัน ก็ยืนคอยต่อไปด้วยใจเอ็นดู เป็นนานสองนานก็ไม่มาเปิดประตูให้สักที แกก็ตะโกนเรียกอีก คราวนี้ลูกสะใภ้โผล่ออกมาเต็มตัว พูดข้าหลวง(ภาษากลาง)ถามแกว่า
"ลุงเป็นใคร มาหาใคร"
แกย่อมฟังข้าหลวงออกแต่พูดไม่ได้ ก็บอกเป็นภาษาบ้านเราออกไปว่า
"กะพ่อของไอ้ไข่นั่นแหละ ลำนึกมันกะมาหา เปิดปักตูตะ นี่พ่อเอาตอดองมาฝากนิ"
คุณนายภาคกลางส่ายหน้า
"ลุงพูดอะไรไม่รู้เรื่อง ไปซะเถอะ ไม่มีใครบ้านนี้รู้จักลุง"
คราวนี้แกอึ้ง แต่ก็ไม่ยอมแพ้
"ไม่รู้จักพรือ นี่มันไม่รู้จักพ่อมันแล้วหรือไอ้ไข่ ไปเรียกมันออกมาทิ"
เธอส่ายหน้าลูกเดียวพร่ำพูดให้แกไปให้พ้น ๆ หน้าบ้าน อย่ามารบกวน ถ้าไม่ฟังจะแจ้งตำรวจ บ้านนี้บ้านผู้พิพากษานะจะบอกให้ นานแล้วที่ยืนคอย นานแล้วที่อุตส่าห์ดั้นด้นจากบ้าน มาได้รับคำตอบเช่นนี้จิตใจช่างแสนเจ็บปวด แกฉวยกระบอกสะตอดองออกมาเปิด แล้วเทสาดลงตรงหน้าบ้านนั้น
“เอาล่ะ ในเมื่อมึงไม่รู้จักพ่อของมึงแล้ว ตอดองนี่กูตั้งใจจะเอามาฝากมึงกิน กูก็จะฝากไว้ให้มึงตรงนี้ นานไปขอให้ชีวิตของมึงจงเป็นไปพร้อมกับตอดอง ให้เน่าเหม็นอย่าได้ลบหาย แล้วกูกับมึงก็ขาดกันแต่เท่านี้ อย่าได้เป็นพ่อเป็นลูกกันอีกเลย"
คำสาปแช่งของแกกลายเป็นจริง ในเวลาต่อมาผู้พิพากษาคนนั้นก็ตกอับเจ็บป่วยด้วยโรคที่ไม่รู้สาเหตุ และตายไปอย่างเดียวดายไร้ญาติ
“จำไว้นะลูกนะ ไปร่ำเรียนได้ดิบได้ดีแล้วอย่าลืมพ่อแม่ปู่ย่าตาทวด อย่าลืมถิ่นกำเนิดของตัวเอง ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นเช่นผู้พิพากษาสะตอดองคนนี้"
นี่คือคำสอนของพ่อลุง
- บล็อกของ lekonshore
- อ่าน 9145 ครั้ง
ความเห็น
Tui
4 กันยายน, 2010 - 14:38
Permalink
ขอบคุณ สำหรับ เรื่อง ราวดีๆ
ขอบคุณ สำหรับ เรื่อง ราวดีๆ ครับ
lekonshore
4 กันยายน, 2010 - 19:32
Permalink
ไม่เป็นไรค่ะคุณตุ้ย
ไม่เป็นไรค่ะคุณตุ้ย เล่าสู่กันฟัง
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
ครองขวัญ
4 กันยายน, 2010 - 14:50
Permalink
โห...เกินไปจริง ๆ
โห...เกินไปจริง ๆ พ่อของตัวเองเนี่ยนะ ทำได้
lekonshore
4 กันยายน, 2010 - 19:34
Permalink
เรื่อง่จริงก็ยังมีให้เห็นบ่อย
เรื่อง่จริงก็ยังมีให้เห็นบ่อย ๆ นะค่ะ
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
chai
4 กันยายน, 2010 - 15:28
Permalink
อิอิ
มาขอบคุณก่อนที่นำนิทานมาฝาก แต่ยังไม่อ่านอะ มันยาวไว้ว่างๆก่อน
ทำความดีนะครับ จะได้มีความสบายใจ msn/krawmovie@hotmail.com
lekonshore
4 กันยายน, 2010 - 19:35
Permalink
อย่าลืมอ่านนะค่ะ
อย่าลืมอ่านนะค่ะ เผื่อตรงกับใครบ้าง ล้อเล่งค่ะ
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
เจ้โส
4 กันยายน, 2010 - 15:30
Permalink
สมน้ำหน้า
เค้าเรียก วัวลืมตีน ลืมกำพืดดัวเอง มันมีจริง ๆ นะน้องเล็กไม่ใช่นิทาน
ภาษาใต้วันละคำ เสนอ....
พูดข้าหลวง หมายถึง พูดภาษากลาง
พูดข้าหลวงน้ำเคย หมายถึง คนปักษ์ใต้พูดภาษากลาง
ใช่ม่ะ เหะ เหะ
garden_art1139@hotmail.com
lekonshore
4 กันยายน, 2010 - 19:37
Permalink
เจ๊โสส่วนมากนิทานเกิดจากเรื่อ
เจ๊โสส่วนมากนิทานเกิดจากเรื่องจริงทั้งนั้นค่ะ
ภาษาใต้วันละคำ คนมันไม่โร่หวัน
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
chutinan
4 กันยายน, 2010 - 15:33
Permalink
คนไม่ดี..
แล้วจะเป็นทนายที่ดีได้ไง
lekonshore
4 กันยายน, 2010 - 19:39
Permalink
สงสัย เกลียมัว
สงสัย เกลียมัว กลัวเมียรับไม่ได้
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
หน้า