ลุงพีขี้เมา พาไปชิมเหล้าที่สวิสฯ
จากที่เคยโพสต์ไว้ในบล็อกเรื่องเมื่อขี้เหล้าเข้าวัด ว่าในอดีตผมเคยบินไปชิมวิสกี้ถึงสวิสฯ ค้นเจอรูปเก่าๆเลยขอถือโอกาสนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
บังเอิญผมมีธุระต้องไปทำงานที่อิตาลี่ทางตอนเหนือ จึงเลือกที่จะบินไปต่อเครื่องที่เมืองซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เพราะทราบมาว่าเค้าจะมีงานเทศกาลวิสกี้ที่นั่นพอดี เลยไปก่อนกำหนดหนึ่งวันเพื่อที่จะแวะเข้าไปชมงานซะหน่อย
ของโปรดแบบนี้ มีรึลุงพีจะพลาด
ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง เนื่องจากผมไม่ได้ขอวีซ่าสวิสมา มีแต่วีซ่าเข้าอิตาลี่ แต่เค้าเป็นประเทศในกลุ่มแชงเก้น (ประเทศที่เคยร่วมรบในสงครามนาโต้) คงไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า ผมจึงบอกเค้าไปว่าจะแวะพักหนึ่งคืนแล้วรุ่งขึ้นจะไปดูงานเทศกาลวิสกี้ คำถามแรกของเค้าเล่นเอาผมอึ้ง ถามว่ามีเงินติดตัวมาเท่าไหร่ ผมนึกในใจ อารายว้า มาถึงนี่ยังเจอพวกขอเงินใต้โต๊ะอิกรึ บอกไปว่ามีนิดหน่อย พร้อมเปิดกระเป๋าให้ดู คิดว่าจะยอมให้มันซักยี่สิบยูโร มากกว่านี้ นอนรอต่อเครื่องที่สนามบินดีกว่า อิอิ มีงกอีกแน่ะแต่ความจริงถ้าขอมาร้อยก็คงจ่าย ผีถึงป่าช้าแล้วนี่นา
เค้ายิ้ม แล้วบอกว่าที่นี่โรงแรมแพงนะ ลองไปดูที่บอร์ดแถวโน้น มีโรงแรมราคาถูกให้เลือก โห.....ผิดคาด เห็นสารรูปคงนึกสงสารกะเหรี่ยงอย่างเรา กลัวว่าจะมาอดตายซะที่เมืองเค้า ชื่อเสียงประเทศเค้าจะเสียหายไปหมด
ปรากฏว่างานนี้ ได้ทั้งดู ทั้งดม ทั้งชม ทั้งชิมครับท่าน มาวกันถ้วนหน้า
งานนี้ใครสนใจตัวไหนเชิญชิมได้เต็มที่
นี่เหล้าแบบถังเดี่ยวๆ (Single Barrel) บรรจุขวดโดยไม่รวมกับถังบ่มอื่นๆ พ่อหนุ่มเยอรมันสองคนนั่นก็เชื้อเชิญจัง พี่ตั้มเห็นคงโดดเข้าใส่
ยอมเสียเงินไปนั่งศึกษาวิธีชิมวิสกี้
แก้วซ้ายสุด ใสเหมือนตาตั๊กแตน ออกจากหม้อกลั่นสดๆ
ส่วนแก้วขวาสุดนั่นบ่มมาสามสิบหกปี คุ้มแล้วกับที่บินมาชิมถึงที่นี่
ดูมาดของ อีตา Charles MacLean เค้าซะก่อน
คนนี้สุดยอดแล้วเรื่องราวของสก๊อตและก็วิสกี้
ดมๆๆ แล้วก็ดม
มีเรื่องโจ๊กด้วย พอดมเสร็จอาจารย์เค้าจะถามว่าได้กลิ่นอะไรบ้าง
เสร็จแล้วแกก็บอกว่าคราวนี้ให้ลองจิบดู อมไว้ในปากสักครู่แล้วกลืน
ทำปากพองๆ รับรู้ถึงกลิ่นหอมกรุ่นในช่องปาก
เอาน้ำกลั้วคอ กลืนน้ำลาย
เอ้า ดมใหม่ หายใจออกยาวๆ หายใจเข้าช้าๆ แล้วลองชิมใหม่
ถึงตอนนี้ปรากฏว่า มีสาวๆที่นั่งด้านหลัง ส่งเสียงโวยวายว่าเหล้าหมด
ทั้งห้องหัวเราะลั่น เค้าให้จิบ นี่พวกหล่อนเล่นกระดกซะหมดแก้ว
ดีนะ ที่อาจารย์เริ่มจากเหล้าราคาถูก
นี่ถ้าเริ่มจากแก้วขวาสุด ไม่รู้ว่าแกจะยอมเติมเหล้าให้ใหม่อีกรึเปล่า
ให้ท่านปรมาจารย์เซ็นต์ชื่อที่ปกหนังสือ เป็นที่ระลึกซะหน่อย
ตรงนี้ก็มีฮา ใครว่าเซียนเหล้าระดับอาจารย์จะไม่เมา
ผมมีหลักฐานยืนยัน 5555
ซื้อหนังสือมาแบบฟลุ๊คๆ ระหว่างไปเดินเตร็ดเตร่รอเวลาเข้าชมงาน เจอผู้เขียนเลยได้แถมลายเซ็นต์
ตรงที่แกเซ็นต์ให้ผมนี่แหระครับ หลักฐานยืนยันว่าระดับแก ก็เมาได้เหมือนกัน
ไม่รู้ว่าบล๊อกนี้จะไปยั่วต่อมน้ำลายใครเข้าบ้างรึเปล่านะ
งดเหล้าเข้าพรรษาเด้อพี่น้อง
- บล็อกของ ลุงพี
- อ่าน 8398 ครั้ง
ความเห็น
ยายอิ๊ด
7 กันยายน, 2010 - 21:29
Permalink
หือ...
ใช่ย่อย..
#แตกต่าง.แต่.ไม่แตกแยก#
rose1000
7 กันยายน, 2010 - 21:30
Permalink
ลุงพีครับ
ลุงพีเอารูปสมัยไหนมาลงเนี่ย ช่างแตกต่างกับเมื่อวานมากเลยนะ ลุงพี
ลุงพี
7 กันยายน, 2010 - 21:36
Permalink
นานมากแล้วครับ
นั่นตอนสมัยหนุ่มๆอ่ะครับ พอเลิกดื่มเหล้าก็แก่เลย
พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง
รัตนพงษ์
7 กันยายน, 2010 - 22:31
Permalink
ต้องเริ่มดื่มใหม่
เผื่อจะได้คล้ายๆ เดิม อิ อิ
มิตรภาพไร้พรมแดน
ลุงพี
7 กันยายน, 2010 - 22:42
Permalink
ผมกำลังจะเริ่มดื่มใหม่ครับ
ผมจะดื่มน้ำฟักข้าวของคุณรัตนพงษ์ทุกวัน
เพื่อที่จะกลับไปเป็นหนุ่มเหมือนเดิมครับ
พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง
lekonshore
7 กันยายน, 2010 - 21:32
Permalink
ไปชิมไกลนะค่ะนี่
ไปชิมไกลนะค่ะนี่ ช่วงเข้าชิมไวน์กับพี่กลอย
ตอนค่ำ ชิมวิสกี้ เหมาตาลายหมดแล้ว
msn:lekonshore@hotmail.com
ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร
ann
7 กันยายน, 2010 - 21:57
Permalink
แค่ชิม...
แค่ชิม... แค่เห็นก็

....ความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง....
เจ้โส
8 กันยายน, 2010 - 07:45
Permalink
ลุงพี....
เย้.......มีคนเล่าความหลังให้ฟังอีกคนแระะะะะะ..... เลิกเหล้าได้ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะคะลุงพี
garden_art1139@hotmail.com
ลุงพี
8 กันยายน, 2010 - 08:52
Permalink
ยังมีอีกเยอะครับ เจ๊
ตามประสาคนแก่เนอะ ถนัดนักหละ เรื่อง กินของขม ชมเด็กสาว เล่าความหลัง
โดยเฉพาะเรื่อง เหล้า(ที่เป็น)ความหลัง
พอกิน พอใช้ พอใจ คือความหมายของ พอเพียง
panatda
8 กันยายน, 2010 - 08:08
Permalink
ลุงพี
ลุงพี สมัยตอนหนุ่มๆๆ ไม่ไช่ย่อย นะคะ
ไปชิม ( ) ถึงโน่นเลยค่ะ
หน้า