"กล้วย...กล้วย กล้วย นะ(ต้องมีวิธีการ)" ตอน โยเกิร์ตผลไม้จากกล้วย

"กล้วย...กล้วย กล้วย นะ(ต้องมีวิธีการ)" ตอน โยเกิร์ตผลไม้จากกล้วย

 เครือกล้วยสวย...ที่แม่พระธรณีนี้มอบให้ ถูกตัดลงมาจากต้นแล้ว

เริ่มสุก ทยอยแจกจ่ายแบ่งกันกิน ทั้งเพื่อนบ้าน

แม่ค้าสัมตำ

ที่ขาดไม่ได้เห็นจะเป็นแม่ค้าผักเจ้าประจำที่เอื้อเฟื้อส่งพ่อค้าประจำร้านมาช่วยตัดเครือให้ 

กล้วยถูกแปรรูป รายการแรก จาก สมช.ที่สนับสนุนคำแนะนำ กล้วยแขก

เมนูที่สองที่เล็งไว้ น่าจะได้กล้วยย่าง

วันนี้เป็นการแปรรูป ปรุงกล้วยสุกให้เป็นโยเกิร์ตผลไม้

...ผลไม้ ที่มีในบ้าน รวมถึงมะเขือเทศ เพื่อช่วยให้มีรสออกเปรี้ยว

ขิงอ่อน สองแว่น

น้ำกะทิ ครึ่งถ้วย

กล้วยน้าว้าสุก สองผล

เกลือป่นอีกนิดสักปลายช้อนแกง

ล้างสะอาด หั่นชิ้นให้เล็กลง

ใส่ในเครื่องปั่น

ตามด้วยกะทิ

เติมเกลือป่น

...ปั่น...

ชิมและปรุงให้ได้รสตามชอบ เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม

เทใส่ถ้วย ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง(เมืองไทย)สักสี่ชั่วโมง 

แค่นี้ล่ะค่ะ ได้โยเกิร์ตผลไม้ไทยๆ ทรงคุณค่าจากผลไม้ที่ อุดมด้วยเอ็นไซม์จากเนื้อผลไม้และการหมักตัวเองในระยะเวลาสั้นๆ 

อาจใส่ตู้เย็นสักหน่อย

เมื่อพร้อมเสิร์ฟ  แต่งหน้าด้วยเมล็ดกระบกคั่ว ยอดใบกระเพรา หรือสะระแหน่  ตามด้วยผลเชอรี่และดอกเชอรี่

...กล้วย กล้วยนะ  

ขอขอบคุณต้นตำหรับโยเกิร์ตผลไม้  คุณไพโรจน์ อรรคสีวร

         โยเกิร์ต ผลไม้รวม จากมะพร้าว

          มะพร้าว เป็นพืชอายุยืน ใช้ทำประโยชน์ได้หลากหลาย โยเกิร์ตที่ได้จากมะพร้าว  มีคุณค่าทางอาหาร มากกว่าโยเกิร์ตจากนมวัว  

          สูตร  ๑  

          ผลไม้  ตามฤดูกาลทุกชนิด หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า (ประมาณขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย) ใส่กะทิสด  ทานเป็นผลไม้รวม

หากตั้งทิ้งไว้  ประมาณ ๔ ชั่วโมง ก็จะเป็นโยเกิร์ต    จะนำไปแช่ในตู้เย็น  หรือ ไม่แช่ก็ได้  หลายวันจะเปรี้ยวเพิ่มขึ้น แต่ไม่บูด ไม่เสีย

          สูตร   ๒ 

          ผลไม้ทุกชนิด ตามฤดูกาล มีกล้วยน้ำว้า ผลไม้เปรี้ยว-หวาน ปั่นรวมกันกับกะทิสด ไม่ต้องเติมน้ำ และ น้ำตาล ดื่มเป็นน้ำผลไม้รวม พอผ่านไป ๔ ชั่วโมง ก็จะเปลี่ยนไปเป็นโยเกิร์ต เก็บใส่ตู้เย็นไว้รับประทาน                                

           สูตร ๓

          ถั่วงอก งางอก ผลไม้ตามฤดูกาล ปั่นใส่กะทิสด ดื่ม  ทิ้งไว้ ๔ ชั่วโมง เป็นโยเกิร์ตผลไม้รวม

          วิธีรับประทาน  รับประทาน หลังอาหาร  ให้คนหริอเขย่าขวดก่อน    ลองรับประทานแต่น้อย ๑ - ๒ ช้อนโต๊ะ แล้วค่อยเพิ่ม    หากท้องผูก ตื่นเช้า หลังดื่มน้ำสะอาด แล้วดื่ม ๑ แก้ว จะช่วยระบาย เป็นการดีท็อกซ์แบบไทย

          ประโยชน์

          ๑.  ให้   บี ๑๒

          ๒.  ช่วยในการย่อย - ดูดซึมอาหาร

          ๓.  ช่วยให้ สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ช่วยคลายกล้ามเนื้อ แก้เมื่อย   

          ๔. ให้ไขมัน ที่ใช้หล่อลื่นได้นานกว่าไขมันจากแหล่งอื่น ผิวไม่แห้ง

          ๕. ใช้ขับพิษออกจากร่างกาย(ดีท็อกซ์) ด้วยการดื่มตอนเช้า ขณะที่ท้องว่าง ประมาณ ๑ แก้ว(หลังดื่มน้ำ) จะช่วยขับมูก เมือก สิ่งตกค้างบริเวณทางเดินอาหารออกมาหมด

          ๖. ดื่ม แก้เมารถ เมาเรือ หรือ เวลามีอาการไมเกรน จากอากาศร้อน  ๗. ทาหน้า พอกผม เพื่อบำรุงผิวหน้า และ ผม

          ข้อควรระวัง    ถ้ากินเกิน จะมีอาการ  

          ๑. รู้สึกแสบท้อง เพราะเป็นกรด      

          ๒. เจ็บที่หัวใจ เพราะรสมันเกิน 

          ๓. ระบาย เพราะรสเปรี้ยวเป็นธาตุน้ำ  แต่จะไม่เพลีย ไม่มีผลเสีย                                                            

          หมายเหตุ  

          ๑.  กะทิ หรือ พืชที่ให้ไขมัน ต้องทานกับผักสด ผลไม้ รสเปรี้ยว

          ๒. ไม่ควรทานมาก  เพราะเป็นยาระบาย  (แล้วแต่ธาตุหนัก-เบา)

          ๓. ในฤดูหนาว  และ วันที่ฝนตก ไม่ควรทานมาก เพราะจะเย็น

จากหนังสือ "กิน-อยู่ เพื่อชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่า" โดย นายไพโรจน์ อรรคสีวร