เดิน...ออกกำลังกาย ลดโลกร้อน
ครั้งแรกที่มาอยู่ที่นี่(NZ) รู้สึกว่าการใช้ชีวิตของเรามันลำบากเหลือเกิน จะไปไหนแต่ละทีก็ต้องเดินเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีมอไซด์ปากซอยให้นั่ง จะไปป้ายรถเมล์หรือสถานีรถไฟก็ต้องเดินอย่างเดียว (ตอนนั้นไม่มีรถ) วันหนึ่ง ๆ เดินประมาณเกือบสองกิโล เวลาไปทำงาน แต่แปลกว่า คนที่นี่ชอบเดินกันมาก ขนาดว่ามีรถเมล์ผ่าน เขาก็เดิน ซึ่งพออยู่ไนาน ๆ ก็เริ่มซึมซับ ว่าวัฒนธรรมของเขาเป็นอย่างนี้ เขาคิดว่าเดินไม่ต้องเสียเงิน และมันก็ไม่ได้เสียเวลาอะไรมาก เพียงแต่ตื่นเช้าขึ้นมาสักหน่อย แม้แต่ระดับผู้บริหารก็เดินค่ะ หากต้องการไปทำธุระไกล้ๆ ที่พอเดินได้ และไม่ใช้ใครไปด้วย (ถ้าเป็นบ้านเราคงใช้คนอื่นไป) พออยู่ ๆ ไปก็เริ่มคุ้นเคยกับการเดิน ก็คิดว่าดีนะ ได้ออกกำลังกาย
แต่พออยู่ไปเริ่ม มีรถ ก็เริ่มห่างไกลกับการเดิน แม้แต่เมื่อก่อนทำงานที่ไกล้บ้านประมาณสองกิโลได้ ซึ่งเมื่อก่อนเราเดินได้สบาย พอมีรถก็เริ่มขี้เกียจ ยิ่งเวลาหน้าหนาวยิ่งท้อ ห้าข้อแก้ตัวต่างๆ นานาให้ตัวเอง แต่วันนี้แหละจะกลับมาย้อนความหลังอีกครั้ง เหมือนตอนที่มาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆ ฉันจะเดิน.... เมื่อวานอ่านคอลัมในหนังสือเขาบอกว่าเดินได้วันละหมื่นเก้า ทำให้เราสุขภาพดี ลดน้ำหนักได้ค่ะ (และนั่นคือเป้าหมายของเรา เย้..เย้..)
ซึ่งจุดมุ่งหมายของการเดินวันนี้คือ ไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตค่ะ นี่เป็นลักษณะของถนนหนทางที่นี่ เขาจะมีทางเฉพาะสำหรับคนเดิน และคนพิการ ซึ่งเป็นทางเรียบ ขนานไปกับถนน เป็นแบบนี้ในถนนทุกเส้น และซอย ต่างๆ ทุกซอย เพื่อสะดวกกับคนที่เดินและคนพิการ เพราะคนพิการที่นี่ใช้ชีวิตแบบคนปกติค่ะ ไปซื้อกับข้าวเอง ทำหลายๆ อย่างด้วยตัวเอง ไม่เป็นภาระกับใคร
เดินไปสักพัก เจอป้ายนี้ หมายความว่า ระวังม้า เพราะแถวนี้เป็นเขตฟาร์ม บางทีเจ้าของอาจขี่ม้าไปทำกิจกรรมต่างๆ
เดินต่อไป ตอนนี้ถนนค่อนข้างเงียบเพราะ ขณะนี้เวลาประมาณสิบโมงเช้าค่ะ
รู้ไหมคะว่าการเดินเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุด และไม่ต้องสิ้นเปลือง อาจจะซื้อรองเท้าดี ๆ ซักคู่ที่ออกแบบมาเพื่อการเดิน เพราะรองเท้านี้จำเป็นอย่างยิ่งกับผู้ที่มีปัญหาทางด้านเข่า หรือข้อเท้า ส้นเท้า หรือผู้ที่มีน้ำหนักเกิน (อย่างขวัญ) รองเท้าพวกนี้จะออกแบบมาพิเศษ ในการรองรับส้นเท้า ข้อเท้า และหัวเข่า หากใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะกับเท้าอาจทำให้เกิดปัญหาระยะยาวได้ค่ะ
ถึงซุปเปอร์มาเก็ต แต่ไม่กล้าถ่ายรูป ยามยืนอยู่กลัวเขาว่า เอาเป็นว่ามาดูว่าวันน้ได้อะไรมาบ้าง ที่มีใน list ที่จดไปมีแค่น้ำยาล้างจานอย่างเดียวค่ะ ของอื่นที่จดไปไม่ได้มาเพราะหยิบอย่างอื่นมาเต็มแล้วนึกได้ว่าเราเดินมา ถ้าซื้อมากแบกกลับไม่ไหว เลยได้มาแค่นี้
มารณรงค์ลดโลกร้อนด้วยกันนะคะ ด้วยการใช้ถุงผ้าเวลาไปชอปปิ้ง (ถ้าเป็นไปได้เดินไปด้วยก็ดี ประหยัดน้ำมันค่ะ) ที่ซุปเปอร์มาเก็ตที่นี่จะมีถุงที่เป็นโลโก้ของเขา จำหน้ายที่เค้าท์เตอร์จ่ายเงิน ในราคาถูกเพื่ิอเป็นทางเลือกแทนที่จะใช้ถุงพลาสติกค่ะ สรุปว่าวันนี้ได้เหงื่อไปเยอะเหมือนกันค่ะ นาน ๆ ได้เดินไกล ๆ แบบนี้ทีหนึ่ง ไปกลับประมาณหกกิโลเมตร ตอนไปสบาย แต่เวลากลับนี้ เหนื่อยเอาการอยู่ค่ะ เพราะถุงหนักอ่ะค่ะ
ต่อไปนี้จะพยายามเดินให้บ่อยขึ้นเพื่อสุขภาพด้วย มาเดินด้วยกันนะคะ
- บล็อกของ ครองขวัญ
- อ่าน 6208 ครั้ง
ความเห็น
ประไพ ทองเชิญ
26 กุมภาพันธ์, 2011 - 05:01
Permalink
น้องครองขวัญ ที่รัก
เดิน เดิน พี่หยอยเดินทุกวันอยูในชีวิตประจำวันจ้า ชีวิตชาวสวน ชาวนา เขาเดินทุกวัน มนุษย์เงินเดือนนี้แหละจะทำอย่างไร ชอบบล็อค local Market มากค่ะ
ครองขวัญ
26 กุมภาพันธ์, 2011 - 11:56
Permalink
ชอบค่ะ พี่หยอย เดินทุกวัน
ชอบค่ะ พี่หยอย เดินทุกวัน อยู่กับไร่กันสวน อายุยาวค่ะ ไม่ต้องทะเลาะกับใคร ไม่ต้องแข่งขันกับใคร สมัยที่ทำงานกรุงเทพ ขวัญเจอมาหมด แต่ละแบบของเพืิ่อนร่วมงาน ถ้าเลือกได้ อยากทำไร่ทำสวนมากกว่าค่ะ หากยังอยู่ที่กรุงเทพ ตอนนี้คงลาออกจากงานกลับไปทำไร่กับแม่แล้ว (แบบพอเพียง) ขอบคุณพี่หยอย ที่ชอบบล็อกของขวัญนะคะ เดี๋ยววันหลังพาเที่ยวแบบสนุก ๆ อีกค่ะ
oddzy
26 กุมภาพันธ์, 2011 - 05:20
Permalink
คุณขวัญ
เมื่อก่อนจะไปเดินกับคนข้างบ้านทุกวัน แต่เดีย่วนี้ไม่ได้เดินเลยค่ะ เพราะเขาแก่แล้วเดินไม่ไหว อ๊อดเลยต้องไปปั่นจักรยานคนเดียวแทน ไม่สนุกเลยค่ะ ถ้ามีเพื่อนเดิน เดินไปคุยไปจะเพลินมากๆค่ะ
ครองขวัญ
26 กุมภาพันธ์, 2011 - 11:53
Permalink
เมื่อก่อนเคยชวนแฟนไปเดินด้วยเ
เมื่อก่อนเคยชวนแฟนไปเดินด้วยเหมือนกันค่ะ แต่เดินไปไม่ค่อยเพลิน เพราะชอบบ่นกัน เพราะเขาเดินไวมาก เราก็เหนื่อย แต่เขาบอกว่ามาเดินก็ต้องให้เหนื่อย เดินคนเดียวน่าจะเพลินกว่านะคะ สำหรับขวัญ
bnakorn
26 กุมภาพันธ์, 2011 - 06:18
Permalink
ข้อดีอีกอย่างคือ
ข้อดีอีกอย่างคือ ทำให้ประหยัดครับ เพราะต้องซื้อของได้ไม่มาก ไม่งั้นแบกกลับไม่ไหว
เรียกง่ายๆว่า ขวัญก็ได้นะครับ my nickname
ครองขวัญ
26 กุมภาพันธ์, 2011 - 11:51
Permalink
อันนี้จริงค่ะ
อันนี้จริงค่ะ เห็นด้วยอย่างมาก เพราะเวลาเอารถไปซื้อของ หยิบแบบไม่ค่อยคิด แต่พอเดินไป หยิบของก็ต้องดูว่าหนักไหมอันนี้ ถ้าซื้อเพิ่มแล้วรวกันจะหนักเท่าไร อันนี้เรื่องจริงค่ะ ช่วยเราประหยัดแบบคาดไม่ถึง :uhuhuh:
tantawan-ตะวัน
26 กุมภาพันธ์, 2011 - 07:28
Permalink
พี่ขวัญ
เป้าหมายเดี่ยวกันเลย ถนนดูเงียบนะค่ะไม่มีรถเลย ตะวันเดินไปทำงานเกือบสามป้ายรถเมล์ เพราะรถมันติดมากๆ เดินถึงก่อนอีกแถมประหยัดเงินในกระเป๋า :uhuhuh: :uhuhuh:
ครองขวัญ
26 กุมภาพันธ์, 2011 - 11:49
Permalink
น้องตะวัน แนวคิดดีค่ะ
น้องตะวัน แนวคิดดีค่ะ ประหยัดเวลา ประหยัดเงิน ถ้ารถเมล์ช้ากว่าเดินก็ไม่รู้จะขึ้นให้เสียตังค์ทำไมเนอะ
Tui
26 กุมภาพันธ์, 2011 - 07:33
Permalink
น้อง ขวัญ อ่าน เรื่อง
น้อง ขวัญ อ่าน เรื่อง น้องขวัญ แล้วนึก ถึงตัวเอง เดิน เพลิน เลยครับ สมัย เป็น นัก เรียน พอมี เงิน หน่อย เริ่ม ขี้ เกียจ จริงๆ ตอนนี้กลับ มาเดินอีก เหมือน กัน แต่ไป กลับ แค่ สามกิโล เองครับ เวลาไปซื้อ ของ หก กิโล แบบน้อง ขวัญผมคง คิด หนัก เห็น ของ ในตระ กร้า น้อง ขวัญ แล้ว ของขายคล้ายกันมากครับ ผมนั้น เวลาไป ซื้อ ของ แบก เป้ ไป ครับ ซื้อ ใส่ เป้ เอา หนาวๆ ผม เดิน ทน ร้อนๆ แบบนี้ เดิน ไม่ค่อย ไหว ครับ
ครองขวัญ
26 กุมภาพันธ์, 2011 - 11:46
Permalink
ใช่ค่ะ เมื่อก่อนไม่มีเงิน
ใช่ค่ะ เมื่อก่อนไม่มีเงิน ไมมีรถ ไกลแค่ไหนก็เดินไ้ด้ เดี๋ยวนี้ชักขี้เกียจ หาเหตุผลให้ตัวเองต่างๆ นานา ตอไปนี้ขวัญจะพยายามบังคับตัวเองให้มากขึ้นค่ะ สำหรับของกินของใช้ ในนิวซีแลนด์ส่วนมากก็อิมพอร์ต มาจาก ออสเตรเลียค่ะ เลยเหมือนกันมาก เรียกว่าของอะไรที่มีในออสเตรเลีย ก็มีในนิวซีแลนด์อ่ะค่ะ
หน้า