กินเปลี่ยนโลก...กินอย่างไร

เดี๋ยวนี้  กินผัก  กินสมุนไพร  

กินเมื่อหิว  กินพอดีๆ  ไม่ซื้ออาหารมาตุนมาก  ในตู้เย็นปล่อยโล่งๆ  ใส่ของถนอมอาหาร   เก็บผักรอบบ้านกิน 

ความคิดที่มีอยู่  ไม่มีความรู้สึกว่า  กินแบบนี้ผิด  แบบนี้ถูกนะ  ร่างกายของแต่ละคน  ต้องการไม่เหมือนกัน  ปรับได้ไม่เท่ากัน  

ก็ขอให้  กินแล้ว  ทำจิตใจให้เบิกบาน  ร่างกายก็จะปกติ

สื่อ  มีมากมาย  ดูก็รู้ได้  ว่าควรเลือกอันไหน  ควรกินแบบไหน  แต่ว่า  ถ้าทำไม่ได้  ก็ ลองทีละนิด  จะได้รู้ว่า  เราได้พยายามแล้ว

ย้อนกลับไปสมัยปู่ย่าตายาย...ไปนาได้ปูได้ปลา ไปป่าได้ของป่า ไม่ต้องซื้อหา ไม่อดไม่อยาก...กลับกันทุกอย่างเปลี่ยนไป ตามบ้านนอกทุกวันนี้ในเมืองมีอะไร บ้านนอกมีหมด...วิถีชีวิตบ้านๆ เปลี่ยนไป คนไม่หาอยากหากิน รอซื้อของตลาด ยิ่งทุกวันนี้มีตลาดเคลื่อนที่ (มอเตอร์ไซค์พ่วงของขายเต็มรถ) มาขายถึงหน้าบ้าน...แถมบางหมู่บ้านออกไปทำไร่ทำนา รถตลาดเคลื่อนที่ยังตามไปบริการอีก...แบบนี้คนเปลี่ยนไปหรือโลกเปลี่ยนไปก็ไม่รู้... :confused:

ส่วนผมไม่รู้เป็นอย่างไรวันหนึงกินแค่มื้อเดียวแต่ไม่เป็นเวลา

สมัยนี้ การกิน-อยู่ เปลี่ยนไปมาก ครอบครัวส่วนใหญ่ จะต้องซื้ออาหารทุกอย่าง ไม่ยอมปลูก ยอมหา ทำงานได้ตังค์มาก็ซื้อมันทุกอย่าง ไปตลาดทีนึง นอกจากเติมน้ำมันรถตัวเองเพื่อไปซื้อ ยังช่วยเติมน้ำมันรถให้แม่ค้าคนกลางด้วย บางครั้งของที่ซื้อมามีความจำเป็นแค่ 30 เปอร์เซนต์จากของที่ซื้อมาทั้งหมด นอกจากนั้นเป็นของที่ไม่คิดว่าจะซื้อ แต่ซื้อเพราะอยากซื้อ..เมื่อเห็น เท่านั้น

เด็กๆก็เหมือนกันจะได้รับการปลูกฝังผิดๆมาก พ่อ-แม่บางคนพูดว่า ลูกอยากกินหนม....(ชื่อร้านสะดวกซื้อ)พ่อ-แม่ไม่ปลูกฝังเด็กจะรู้จักมั๊ยเนี่ย

กินอย่างพอดี  ไม่มองคนที่มีความสามารถมากกว่าแล้วเอามาเทียบตัวเรา  ว่าเราต้องมีเหมือนเขาให้ได้  สุดท้ายก็ต้องเป็นหนี้เสียดอกพูดง่าย ๆ ต้องไม่ฟุ่มเฟือย........คำว่าฟุ่มเฟือยขยายความกว้างนะครับไม่ว่าจะเป็นน้ำ  ไฟฟ้า  หรือข้าวของเครื่องใช้  กับข้าวทำพอประมาณคนในบ้าน  ไม่หมดนำกับมาอุ่นใหม่   กินข้าวนอกบ้านก็เช่นกันสั่งมาพอดีกินให้หมดอย่าเอาวัฒนธรรมยุโรปมาใช้  ที่มองว่าการกินหมดเป็นคนตะกละ  ไม่มีมารยาท   อีกอย่างสมัยนี้เด็กประถมพ่อแม่ก็ซื้อโทรศัพท์พกกันเกลื่อนกลาดไปหมดแล้ว   ยังหารายได้ไม่เป็นเลย

จะพยายามปลูกเพื่อกิน...และก็จะกินทุกอย่างที่ปลูก  โชคดีที่มารู้จกกลับบ้านสวนฯ  ทำให้ไฟด้านการเกษตรนั้นลุกขึ้นอีกครั้ง...ปีนี้จะตั้งใจทำในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำมานานแล้วให้ประสบผลสำเร็จดูบ้าง  แม้จะเพียง 10-20 เปอร์เซนต์ ก็ยังดีกว่าไม่ได้คิดที่จะเริ่มลงมือทำ  หลังจากที่เหลือพื้นที่ว่างไว้จำนวน 2 ไร่กว่าๆไม่ปลูกยางพาราหมด ทุกคนที่เห็นก็ถามว่าทำไมไม่ปลูกยางพาราให้หมดเหลือไว้ทำไม่..ผมก็ถามกลับไปว่ายางพารากินได้ไหม..!! ที่นี้แหละจะปลูกพืชผักแล้วจะลองกินเปลี่ยนโลกดูครับ...."เงินทอง  คือมายา  ข้าวปลา คือของจริง " อ.ยักษ์พูดไว้เป็นความจริงครับ..

พื้นที่ว่างๆไม่ปลูกยางพารา..ประมาณ 2 ไร่ 

ก่อนขุดลอกสระน้ำที่ตื้นเขิน

ต้นปี 53 ขุดลอกใหม่ตอนนี้มีน้ำเหลือพ้นแล้งแล้ว....จะได้เริมปฎิบัติการกินเปลี่ยนโลกบ้างแล้วละ

ได้กินกล้วยทั้งปีไม่อดไม่อยากแถมยังได้แจก เป็นของฝากให้คนอื่นด้วย

กินเปลี่ยนโลก ...ไม่กินสิ่งที่ไม่ควรกิน อีกอย่างคิดว่ากินอย่างที่ไม่ผิดศีลห้านะคะ การกินหากว่าหมายถึงการบริโภคละก้อคุณแจ้ว น่าจะหมายรวมไปถึงกินทางตา หู จมูก ปาก ฯลฯ แหม หากว่าคุยเรื่องนี้อาจต้องคุยกันเป็นวัน ...อย่างนี้เอาคุยพอเป็นกระสายก่อนก็แล้วกันนะคะ