ย่าน้องโฟกัส...

หมวดหมู่ของบล็อก: 

ลงบล็อกเรื่องการถนอมอาหารแล้วทำให้คิดถึงย่าน้องโฟกัส..



แม่ท่านเลี้ยงปลานิลหมัน...ใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงประมาณ 6-8 เดือนในพื้นที่ สระ 15 ไร่


เกษตรเชิงเดี่ยว....ปล่อยปลา..ซื้ออาหารให้ปลา..ขายปลา..เก็บเงินไว้ลงงวดต่อไป เป็นแบบนี้ทุกปี  ก็เลยพยายามหาเมล็ดผักแปลกๆใหม่แบ่งส่งไปให้ท่านบ้างเพราะท่านเป็นคนขยันมากมีอะไรทำอยู่ตลอดเวลา...ผักท่านก็ปลูกกินเอง...




ย่าน้องโฟกัส....นั่งตกปลาเพื่อนำมาฝากลูกชาย...



ปลากำลังติดเบ็ดแล้ว....นอกจากตกเบ็ดเก่งหว่านแหก็เป็นด้วย



ปลากำลังลอยเข้ามาแล้ว..



มาถึงฝั่งจนได้ ปลานิลอีก 1 ตัว



ตัวนี้ก็ประมาณ ครึ่งกิโลครับ



ผลงานของเบ็ดตกปลาของย่าน้องโฟกัส...แม่บ่นว่านานได้ ตกได้ที่ละตัว "ศิษฐ์ไปเอาแหมา"


ที่นี้ละที่เดียวได้เต็มถังเลยครับ   แต่ก็คัดเอาแต่ตัวใหญ่ๆหน่อย  แล้วก็จัดการทำปลาฝากลูกชายไว้ไปกินอยู่บ้านนอกเอาไว้กินได้หลายๆวัน...นี้แหละครับคุณครูผู้สอนผม...ในการทำการถนอมอาหารจนเป็น 3 บล็อก ที่ได้มาลงให้เพื่อนสมาชิกชมกันละครับ...


ความเห็น

คุณ แม่ คุณ วิศิษฐ์ ดู ท่านอายุ ไม่มาก เลย ครับ ตก ปลา เก่ง อีกด้วย ครับ ปลานิลหมัน คือ ปลานิลที่ ขยายพันธ์ เอง ไม่ได้ แบบนี้เปล่า ครับ ผมถามตามประสาคนไม่เคยทำไร่ ทำ นา นะครับ เวลาจับปลา ขายใน สระ ใหญ่ๆ แบบนี้ ท่านทำ อย่างไร นะครับ

คุณตุ้ย..ปลานิลหมัน คือ ปลาที่เขาทำให้มันไม่ขยายพันธ์ต่อได้  ข้อดีคือโตเร็ว จับขายอายุสั้นลง


แต่ถ้าเลี้ยงครั้งหน้าต้องซื้อลุกปลากับเขาอีกเหมือนเดิมครับ  ส่วนเวลาที่เอาปลาขึ้นขายลดน้ำโดยเปิดท่อออกแล้วค่อยใช้อวนลงลากมาขายครับ....แต่ตอนนี้กั้นสระให้ขนาดน้อยลง จึงง่ายต่อการจัดการเรื่องน้ำครับ...

 

สมัยก่อนป้าอยู่ทางอิสานมีแต่ปลานิลกับปลาทับทิมทางCPทำให้มันเป็นหมัน

จะได้ต้องไปซื้อลูกปลาของเขาอีก  คนขายก็ชอบเพราะโตเร็วก็แล้วแต่คนชอบ

ย่างทีน้ำมันเยิ้มแฉะไปหมดเพราะปลามันมากๆเลยแต่ป้าจี๊ดชอบปลาธรรมชาติ

มากกว่าค่ะ 

แบ่งปันน้ำใจส่งต่อกันไป ....ไม่รู้จบ

นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นคุณย่าน้องโฟกัส คงคิดว่าเป็นแค่คุณป้่าน้องโฟกัสแน่ๆ

...ทางครอบครัวผมก็เคยเลี้ยงปลาสลิดแบบเกษตรเชิงเดี่ยว ผมใช่เวลาอยู่นานหลายปีกว่าจะเปลี่ยนความคิดคนในครอบครัวได้(แต่ยังไม่ทั้งหมด) ปัจจุบันเปลี่ยนมาเลี้ยงปลานิลรวมกับกุ้งขาวเป็นปีแรก ซึ่งเป็นการเลี้ยงแบบกึ่งธรรมชาติ คือปล่อยขอบบ่อให้รกๆ ไม่มีการตีน้ำ ให้อาหารบ้างเล็กน้อยแบบว่าถ้าไม่อิ่มก็ให้ไปหาอาหารกินเอง ผ่านไปมา 5 เดือน ปล่อยกุ้งไปแล้ว 3 รอบ ดักกุ้งขายไปแล้ว 2 รอบ ซึ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายปรากฏว่าได้ดีกว่าการเลี่ยงปลาสลิดแบบเชิงเดี่ยวทั้งปี ส่วนปลานิลตอนนี้ก็ขนาดน่าจะตัวละประมาณครึ่งกิโลแล้ว

เขาเลี้ยงกุ้งขาวกับปลา..มันเป็นยังไงครับกุ้งขาว..อยากเห็นจัง ครับพี่..

 

วิศิษฐ์ กุ้งขาวน่าตาแบบนี้ครับ หรือที่เรียกกันว่ากุ้งแชบ๊วย

ป้าขอถามเป็นความรู้หน่อยค่ะ 

กุ้งแชบ๊วยปล่อยน้ำเข้ามาแบบธรรมชาติใช่ไหมคะ

ปลาสลิดเป็นปลาที่กินสัตว์เล็กด้วยแต่ปลานิลไม่กินลูกกุ้งใช่ไหมคะ

ถึงเลี้ยงด้วยกันได้  แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าอาหารไม่พอเพราะว่ามักจะรู้

ก็ต่อเมื่อปลาแกร็นเสียแล้ว

แบ่งปันน้ำใจส่งต่อกันไป ....ไม่รู้จบ

ปลาจี๊ดครับ กุ้งแชบ๊วย ซื้อพันธุ์มาปล่อยครับเพราะบ่อที่เลี้ยงเป็นน้ำจืดอยู่ในเขตชลประทาน(ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่า) เวลาให้อาหารกุ้งก็ให้เวลากลางคืนประมาณ เที่ยงคืน ตีหนึ่งซึ่งเป็นเวลาที่ปลานิลไม่กินอาหารโดยใส่ยอเล็กๆ ตอนเช้าก็ไปดูอาหารในยอ ถ้าอาหารไม่เหลือก็แสดงว่าอาหารกุ้งเริ่มไม่พอ ต้องเพิ่มอาหาร

สวนปลานิลเป็นปลากินพืชครับ ปล่อยให้ขอบบ่อรกๆ มีหญ้า มีผักบุ้ง มีแหนเกิด ก็จะเป็นอาหารของปลา นอกจากอาหารตามธรรมชาติแล้ว ก็มีการให้อาหารเสริม เป็นเศษขนมปังหรือ เศษโคนไอศครีม ที่ซื้อจากโรงงาน ส่วนการสังเกตุว่าอาหารเพียงพอกับปลาหรือไม่ก็ดูจากแหนในบ่อครับ ถ้าแหนบางลงก็แสดงว่าอาหารไม่พอสำหรับปลาแล้ว ก็ต้องให้อาหารเป็นอาหารเม็ดบ้างเพื่อไม่ให้ปลากินแหนจนหมดบ่อ แต่ก็ต้องไม่ให้มากเกินไป เดียวปลาจะเคยตัว ไม่ยอมหากินเอง พอแหนเริ่มหนา ก็หยุดให้อาหาร ก็ทำอย่างนี้

สลับกันไปครับ

 

นี่คือสิ่งที่ได้เวลาดักกุ้งขายครับ เป็นลูกปลานิลตัวเล็ก

ซึ่งแสดงว่าการเลี้ยงปลาด้วยวิธีนี้ ทำให้ปลาที่ซื้อพันธ์ุมาปล่อยไม่เป็นหมันครับ

โฮ้...บรรยากาศน่าสนุกจัง

ทำความดีนะครับ จะได้มีความสบายใจ   msn/krawmovie@hotmail.com

สนุกครับ..ตกปลา

 

หน้า