สายพิน
10 พฤษภาคม, 2011 - 21:34
Permalink
เป็นข่าวที่อดชื่นชมคุณยายไม่ได้ ท่านสละจนหมดตัว และมาป่วย เอาใจช่วยบุญกุศลที่คุณอย่างได้ทำมาคุ้มครองให้ท่านแข็งแรงและมีความสุขใจยิ่งๆขึ้นค่ะ ขอบคุณคุณพัฒน์ที่นำเรื่องควรค่าแก่การอนุโมทนามาบอกเล่าให้ได้ทราบ
พัฒน์..ลูกธรรมดา
10 พฤษภาคม, 2011 - 21:38
ผมชื่นชมความใจบุญและรู้สึกสงสารท่านมากเช่นกันแต่ก็เป็นตัวอย่างในการใช้ชีวิตด้วยครับ
อ่าน
หนุ่มชาวสวน
10 พฤษภาคม, 2011 - 21:49
น่ายกย่องในความเสียสละ แต่ก็ได้แง่คิดครับ บางทีอาจเป็นความสุขของคุณยายก็ได้ครับ(ในสมัยนั้น)
นู๋หวึ่ง
10 พฤษภาคม, 2011 - 22:12
น่าสงสารยายจังเลย
ชีวิตไม่ได้เกิดมา เพื่อยอมแพ้
10 พฤษภาคม, 2011 - 22:15
สงสารเช่นกันครับ ต้องคอยเอาใจช่วยครับ
sam k.
10 พฤษภาคม, 2011 - 23:10
เป็นแง่คิดดีๆที่สามารถปรับปรุงชีวิตได้...เอาไปใช้ได้ให้เห็นว่าทุกๆอย่างควรเดินสายกลางที่พระพุทธองส์ทรงตรัสไว้.. ประมาท ประเมิน ประมาณ ประพฤติ ประสบ ประจัน ประนบ ประจาน ประจัก...
11 พฤษภาคม, 2011 - 07:32
ขอบคุณที่แนะนำครับ สายกลางดีที่สุด
ยุพิน เทลเก็น
10 พฤษภาคม, 2011 - 23:28
จริงอย่างพี่แซมว่าล่ะค่ะ คนเราเดินสายกลางจะดีกว่า รู้ว่ายายแกชอบทำบุญการทำบุญจนหมดตัวแล้วตัวเองลำบาก คิดว่ามันจะบาปมากกว่าได้บุญนะเนี่ย
แผ่นดินไหนก็ไม่มีความสุขเหมือนแผ่นดินเกิด อยากกลับบ้านจัง
ทดสอบ
เม mopa
11 พฤษภาคม, 2011 - 00:26
วันนี้ตั้งเเต่เข้ามาอ่านเรื่องราว..มีอยู่สองเรื่องที่ทำให้รู้สึกหดหู่ที่สุด เรื่องเเรกคือ เรื่องของรองเท้าเล่นบาสของเด็กๆในบล๊อกพี่ศิษฐ์ ส่วนอีกเรื่องก็คือเรื่องนี้ สังคมเรามันเป็นเเบบนี้ิ เยาวชนไม่ได้รับการส่งเสริมจากผู้ใหญ่ คนชราขาดการดูเเลในบั้นปลายของชีวิต
บ้านเมืองเรามันเป็นเเบบนี้ เเล้วฉันจะอยู่เฉยๆ โดยไม่สนใจได้ยังไง ไม่ว่าฉันอยากจะช่วยสักเเค่ไหน ปัจจัยสำคัญมันก็คือเงิน ทั้งๆที่หลายครั้งฉันพยายามบอกตัวเองว่า เงินทองมันไม่ได้สำคัญอะไรเลย ความสุขมันอยู่ที่ใจ
เเต่ ณ.วินาทีนี้ ฉันกลับมีความคิดว่า ถ้าไม่มีเงิน เเล้วฉันจะช่วยพวกเค้าเหล่านี้ได้ยังไง โลกเรามันเป็นเเบบนี้ จริงอยู่..เรี่ยวเเรงฉันคนเดียว มันอาจจะเปลี่ยนเเปลงอะไรไม่ได้มาก เเต่มันก็ยังดีกว่าปิดหูปิดตา ไม่รับรู้อะไรเลยไม่ใช่หรือ..
เกิดมาเป็นคนทั้งที ฉันไม่อยากเป็นคนดีที่อยู่เฉยๆ ขอเป็นคนที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ (ไม่ถึงกับเลวเด้อ )ที่มีส่วนช่วยเหลือสังคมบ้าง เเค่นั่นเเหละ..ที่มนุษย์ธรรมดาอย่างฉันจะทำได้..
11 พฤษภาคม, 2011 - 07:29
เงินมีใด้แต่ต้องไม่ทำให้เราเกิดทุกข์ใช่ไหมครับ
There are currently 0 users online.
ความเห็น
สายพิน
10 พฤษภาคม, 2011 - 21:34
Permalink
เป็นข่าวที่อดชื่นชมคุณยายไม่ไ
เป็นข่าวที่อดชื่นชมคุณยายไม่ได้ ท่านสละจนหมดตัว และมาป่วย เอาใจช่วยบุญกุศลที่คุณอย่างได้ทำมาคุ้มครองให้ท่านแข็งแรงและมีความสุขใจยิ่งๆขึ้นค่ะ ขอบคุณคุณพัฒน์ที่นำเรื่องควรค่าแก่การอนุโมทนามาบอกเล่าให้ได้ทราบ
พัฒน์..ลูกธรรมดา
10 พฤษภาคม, 2011 - 21:38
Permalink
คุณสายพิณ
ผมชื่นชมความใจบุญและรู้สึกสงสารท่านมากเช่นกันแต่ก็เป็นตัวอย่างในการใช้ชีวิตด้วยครับ
อ่าน
หนุ่มชาวสวน
10 พฤษภาคม, 2011 - 21:49
Permalink
น่ายกย่องครับ
น่ายกย่องในความเสียสละ แต่ก็ได้แง่คิดครับ บางทีอาจเป็นความสุขของคุณยายก็ได้ครับ(ในสมัยนั้น)
นู๋หวึ่ง
10 พฤษภาคม, 2011 - 22:12
Permalink
คุณพัฒน์
น่าสงสารยายจังเลย
พัฒน์..ลูกธรรมดา
10 พฤษภาคม, 2011 - 22:15
Permalink
คุณนู๋หวิ่ง
สงสารเช่นกันครับ ต้องคอยเอาใจช่วยครับ
อ่าน
sam k.
10 พฤษภาคม, 2011 - 23:10
Permalink
น้องพัฒน์
เป็นแง่คิดดีๆที่สามารถปรับปรุงชีวิตได้...เอาไปใช้ได้ให้เห็นว่าทุกๆอย่างควรเดินสายกลางที่พระพุทธองส์ทรงตรัสไว้.. ประมาท ประเมิน ประมาณ ประพฤติ ประสบ ประจัน ประนบ ประจาน ประจัก...
พัฒน์..ลูกธรรมดา
11 พฤษภาคม, 2011 - 07:32
Permalink
พี่แซม คุณยุพิน
ขอบคุณที่แนะนำครับ สายกลางดีที่สุด
อ่าน
ยุพิน เทลเก็น
10 พฤษภาคม, 2011 - 23:28
Permalink
คุณพัฒน์
จริงอย่างพี่แซมว่าล่ะค่ะ คนเราเดินสายกลางจะดีกว่า รู้ว่ายายแกชอบทำบุญการทำบุญจนหมดตัวแล้วตัวเองลำบาก คิดว่ามันจะบาปมากกว่าได้บุญนะเนี่ย
แผ่นดินไหนก็ไม่มีความสุขเหมือนแผ่นดินเกิด อยากกลับบ้านจัง
ทดสอบ
เม mopa
11 พฤษภาคม, 2011 - 00:26
Permalink
อ่านเเล้วซึม..
วันนี้ตั้งเเต่เข้ามาอ่านเรื่องราว..มีอยู่สองเรื่องที่ทำให้รู้สึกหดหู่ที่สุด เรื่องเเรกคือ เรื่องของรองเท้าเล่นบาสของเด็กๆในบล๊อกพี่ศิษฐ์ ส่วนอีกเรื่องก็คือเรื่องนี้ สังคมเรามันเป็นเเบบนี้ิ เยาวชนไม่ได้รับการส่งเสริมจากผู้ใหญ่ คนชราขาดการดูเเลในบั้นปลายของชีวิต
บ้านเมืองเรามันเป็นเเบบนี้ เเล้วฉันจะอยู่เฉยๆ โดยไม่สนใจได้ยังไง ไม่ว่าฉันอยากจะช่วยสักเเค่ไหน ปัจจัยสำคัญมันก็คือเงิน ทั้งๆที่หลายครั้งฉันพยายามบอกตัวเองว่า เงินทองมันไม่ได้สำคัญอะไรเลย ความสุขมันอยู่ที่ใจ
เเต่ ณ.วินาทีนี้ ฉันกลับมีความคิดว่า ถ้าไม่มีเงิน เเล้วฉันจะช่วยพวกเค้าเหล่านี้ได้ยังไง โลกเรามันเป็นเเบบนี้ จริงอยู่..เรี่ยวเเรงฉันคนเดียว มันอาจจะเปลี่ยนเเปลงอะไรไม่ได้มาก เเต่มันก็ยังดีกว่าปิดหูปิดตา ไม่รับรู้อะไรเลยไม่ใช่หรือ..
เกิดมาเป็นคนทั้งที ฉันไม่อยากเป็นคนดีที่อยู่เฉยๆ ขอเป็นคนที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ (ไม่ถึงกับเลวเด้อ
)ที่มีส่วนช่วยเหลือสังคมบ้าง เเค่นั่นเเหละ..ที่มนุษย์ธรรมดาอย่างฉันจะทำได้..
พัฒน์..ลูกธรรมดา
11 พฤษภาคม, 2011 - 07:29
Permalink
คุณเม
เงินมีใด้แต่ต้องไม่ทำให้เราเกิดทุกข์ใช่ไหมครับ
อ่าน
หน้า