สูงสุดคืนสู่สามัญ
ตั้งแต่เริ่มกรอกใบสมัครและได้ตอบแบบสอบถามจากนายทะเบียนบ้านสวนพอเพียงพอหอมปากหอมคอ ก็เป็นอันว่าผู้ใหญ่บ้านท่านได้ตรวจสอบคุณสมบัติดูแล้วว่าครบถ้วนเหมาะที่จะมาเป็นลูกบ้านที่นี่ได้ ล่วงมาถึงวันนี้ ก็ยังไม่ถึง 1 เดือนดีค่ะ
ในระหว่างนั้นก็จะเข้ากระทู้ที่เขาแจกเมล็ดพันธ์แทบทุกระทู้ และได้ส่งชื่อ ที่อยู่ เพื่อขอรับน้ำใจจากสมาชิก ด้วยเพราะมาคิดแล้วว่า เราคงหาเมล็ดพันธ์ที่เราต้องการปลุกได้ไม่ง่่ายนัก
และสิ่งที่ได้รับมาเป็นระยะๆ มิใช่แค่เมล็ดพันธ์เท่านั้น แต่ยังได้รับ cd ที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการใช้ชีวิตแบบพอเพียงของคุณ โจน จันได ที่พี่ยุพินกรุณาส่งมาให้ดูแนวคิดของคนอื่น แล้วนำมาประยุกต์กับแนวคิดของตัวเอง ซึ่งดูแล้วก็ได้ข้อคิดที่คล้ายๆกันว่า ......ชีวิตที่สูงสุด มักต้องการคืนสู่สามัญ
จุดสูงสุดของทุกชีวิตคงเอามาปรียบเทียบกันไม่ได้นะคะว่าตรงไหนคือที่ที่สูงที่สุด บางคนอาจไต่ไปจนถึงหอคอยงาช้างและขึ้นต่อไปไม่ได้แล้ว ซึ่งตรงนั้นคือจุดสูงสุดที่คนทั่วๆไปสามารถมองเห็นได้ ในขณะที่บางคนไต่ไปได้แค่ระดับ หนึ่ง สอง หรือสามเท่านั้น ก็ไปต่อไม่ได้แล้ว ซึ่งตรงนั้นก็คือจุดสูงสุดของอีกหนึ่งชีวิตเหมือนกัน
ใครจะรู้ว่าจุดสูงสุดของใครอยู่ตรงไหนได้ดีกว่าตัวเองคงไม่มี
สำหรับตัวเองคือรู้สึกว่าชีวิตนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปมันไม่น่าตื่นเต้นอีกแล้วกับชีวิตที่ตื่นมาตอนเช้า แต่งตัวไปทำงาน ตกเย็นสังสรรค์ และกลับบ้านมานอน เพื่อจะทำแบบเดียวกันนี้ในวันต่อๆไป ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของการถวิลหาการกลับคืนสู่สามัญ
คิดว่าคงจะเป็นเช่นเดียวกันกับเพื่อนๆที่บ้านสวนพอเพียงถึงแม้อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด แต่ก็เชื่อว่าส่วนมากคงมาจากจุดสูงสุดของชีวิตกันแล้วทั้งนั้น
บางคนอาจจะเบื่อหน่ายกับสังคมซึ่งเราไม่สามารถกลืนไปกับสภาพแวดล้อมเหล่านั้นได้ เราจึงจำเป็นที่ต้องเป็นฝ่ายเดินออกมาไม่ใช่เพราะหนีปัญหา แต่คิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพยายามแก้ปัญหาโดยโดดเดี่ยว การหวลคืนสู่สามัญด้วยการกลับมาอยู่กับธรรมชาติ ต้นใม้ ใบหญ้า อย่างน้อยก็ทำให้เราไม่ต้องรับแรงกดดันจากคนอื่น
พื้นที่ว่างเปล่าข้างๆบ้านซึ่งถูกปล่อยให้รกร้างจนงูเห่าเข้ามาจับจองพื้นที่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ถูกปรับปรุงเมื่อช่วงที่กลับมาอยู่บ้านคราวนี้เอง
ในระหว่างที่ปรับปรุงพื้นที่ว่างเพื่อรอปลูกต้นไม้และทำบ้านในฝันอยู่นั้นก็ได้ทยอยขอรับแจกเมล็ดพันธ์จากสมชิกบ้านสวน ซึ่งกว่าจะรู้ว่าขอไปมากแค่ไหนก็เมื่อเช้านี้เองค่ะที่ได้เอาออมาดูเพื่อจะวางแผนว่าจะปลูกอะไรตรงไหนดี แต่แค่เห็นก็เหนื่อยแล้วค่ะ เพราะดินที่บ้านแข็งมาก ไม่สามารถจะขุดแล้วฝังเมล็ดได้เลยพราะเป็นที่ถมใหม่ จึงต้องมีการขุดให้ใหญ่กว่าปกติ และต้องหาดินที่มีธาตุอาหารสมบูรณ์มาใส่ก้นหลุมแล้วจึงค่อยหยอดเมล็ดลงไป
และด้วยศักยภาพของตัวเองคือคิดว่าสามารถขุดได้วันละไม่เกินสองหลุม คือเช้าหนึ่งเย็นหนึ่ง กลางวันไม่ต้องพูดถึงเพราะแดดร้อนออกขนาดนั้น แค่เดินผ่านก็ดำแล้ว คงไม่กล้าหาญไปทำอะไรกลางแดดหรอกค่ะ ต่อให้มีอุดมการณ์อันแรงกล้าในการจะเป็นสาวชาวสวนให้ได้ก็เถอะ แต่สิ่งที่ยังหวงยิ่งกว่าก็คือกลัวดำค่ะ
ก็เลยกลายเป็นว่าจำต้องเข้ามาขออภัยพี่ๆ ป้าๆ ที่กรุณาส่งเมล็ดพันธ์มาให้ด้วยนะคะ แต่ก็จะปลูกทุกต้นค่ะ เพียงแต่อาจจะส่งการบ้านช้าหน่อยเท่านั้นเอง ตอนนี้ที่ปลูกเป็นต้นแรกคือดอกอัญชัญค่ะ เพราะที่บ้านไม่มีไม้ดอกเลยค่ะ อยากให้บ้านมีสีสรรก่อน และต่อจากนั้นก็จะทยอยปลุกต้นแคสีชมพูที่ป้าต่ายกรุณาส่งมาให้
แต่อย่างไรก้ตาม หากในระหว่างนี้ เพื่อนๆพี่ๆจะมีการแจกเมล็ดพันธ์อะไรกันอีก ถ้าหากเจอเพชรีลงชื่อขอรับด้วยก็อย่าแซวกันนะคะ
- บล็อกของ หมวยเล็ก
- อ่าน 4220 ครั้ง
ความเห็น
หมวยเล็ก
17 พฤษภาคม, 2011 - 22:47
Permalink
ขอบคุณป้าต่ายค่ะ
สาวน้อย
17 พฤษภาคม, 2011 - 22:59
Permalink
การเยอะเลย
อย่าตากแดดมาก...รักษาสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ
คุณครูคงให้เวลา..นักเรียนใหม่...เอาใจช่วยค่ะ
ชีวืตที่เพียงพอ..
ชวิน
18 พฤษภาคม, 2011 - 00:37
Permalink
คุณเพชรี
ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ปลูกวันละนิด วันละหน่อย อีกไม่นานก็เต็มพื้นที่แล้ว
เมล็ดพันธ์ น่าจะเพาะให้งอกก่อนแล้วค่อยลงดิน
พอเพียงเพื่อเพียงพอ
jabee_68@hotmail.co.th
ยุพิน เทลเก็น
18 พฤษภาคม, 2011 - 01:01
Permalink
น้องเพชรี
จริงอย่างคุณชวินว่าค่ะ ค่อยเป็นค่อยไป ไม่นานน้องก็จะมีผักและดอกไม้เต็มสวน
แผ่นดินไหนก็ไม่มีความสุขเหมือนแผ่นดินเกิด อยากกลับบ้านจัง
ทดสอบ
เม mopa
18 พฤษภาคม, 2011 - 03:21
Permalink
ถ้าจะทำอะไร ต้องทำด้วยใจ
หลังจากที่เข้ามาใช้เวปนี้ได้สักระยะ เมได้รู้ว่า ในเวปนี้มีสมาชิกอยู่สองประเภท..ทำเพราะใจรัก เเละทำเพราะกำลังหนี..
ลุงพูน
18 พฤษภาคม, 2011 - 06:10
Permalink
คุณ petcharee
ถ้าดินแข็งแบบนี้แนะนำให้ทำน้ำหมักก่อนครับ แล้วใช้น้ำหมักรดที่ดิน จะช่วยทำให้ดินร่วนซุยขึ้นครับ
พัฒน์..ลูกธรรมดา
18 พฤษภาคม, 2011 - 07:52
Permalink
คุณเพชรี
อย่าเพิ่งท้อนะครับค่อยๆทำไปเดี๋ยวก็เต็มเอง
อ่าน
เจ้โส
18 พฤษภาคม, 2011 - 08:56
Permalink
เป็นกำลังใจ
ถ้าดินแข็งมาก ๆ ก็ปลูกกล้วยไว้ก่อนให้ดินมีความชื้น ที่บ้านก็เป็นแบบนี้ลงกล้วยเต็มพื้นที่เลย
:cheer3:
garden_art1139@hotmail.com
sam k.
18 พฤษภาคม, 2011 - 09:20
Permalink
น้องเพชรี
ร่ายยาว55555กลัวตัวดำ..อิอิ ช้าๆไดพร้าเล่มงาม ปลูกกล้วยไปก่อน(แบบที่ป้าโสว่านั่นละดินจะชุ่มน้ำได้เอง)+หญ้าแฝกแล้วค่อยทำอย่างอื่น เม็ดผักต่างๆเพาะลงกะถาง10นิ้วตั้งไว้รอบๆก่อนกะได้จ้ะ แล้วค่อยลงแปลง..แค่นี้ก็มีผลงานส่งอาจารย์แล้ว...
ป้าเล็ก..อุบล
18 พฤษภาคม, 2011 - 09:35
Permalink
ปลูกกล้วยห่มดิน
ปลูกกล้วยเลยค่ะ จากร้อนกลายเป็นเย็น ที่บ้านจุดที่ปลูกกล้วย ตอนแรกมีแต่หญ้าคา พอกล้วยโต หญ้าคาหายไป ใต้กล้วย ปลูกมัน หว่างกอปลูกมะละกอ ปลูกไปตามที่มีแรงค่ะ ปีเดียวก็เต็มพื้นที่
084-167-4671
anongrat2508@hotmail.com
หน้า