ในสายตา....ของครูคนหนึ่ง (2.1)

หมวดหมู่ของบล็อก: 

30 พ.ค. 2554 

07.50 น.

ศุนย์ฯเดิม ยังไมมีภาพของเด็กคนนั้น  ตั้งใจว่าวันนี้ต้องรู้ให้ได้ว่าลูกหลานใคร

ไม่กี่นาทีต่อมา รถจักรยานยนต์วิ่งมา พร้อมเด็ก 2 คน คนหลังเป็นเด็ก ป.4 ที่โรงเรียน ข้างหน้าในตักคนขับ เป็นเด็กชายตัวเล็กคนนั้นผู้ที่มาส่งน่าจะเป็นตา รู้จักกันดี พ่อแม่เด็กน่าจะทำงานในเมืองเลยเอาลูกมาฝากไว้

หลังจากทราบแล้วว่าเป็นหลานใคร ก็ได้สอบถามว่าเด็กคนนั้น  หลานของคนนั้น น่าจะอายุเท่าใหร่ (ผมเองมองว่าไม่น่าถึง 2 ขวบ) และทุกคนตอบเหมือนกันว่า เด็กคนนั้น ไม่ถึง 2 ขวบ

 

อนิจจา  จากที่เคยเข้าใจว่า 2 ขวบกว่า กลับเป็นขวบกว่า แล้วคนที่ดูแลก็ไม่ได้ทำงานอะไรด้วย

 

เมื่อเป็นอย่างนี้ ไม่สามารถย้ายบ้านพักหนีภาพนั้น แล้วสายตาของครูจะหันไปทางไหน

 

ในสายตาของครู..

ความเห็น

เมื่อรู้ว่าไม่ถึง 2 ขวบก็ยิ่งเศร้า แต่เมื่อได้รู้ว่า คนดูแล ก็ไม่ได้ทำอะไร ยิ่งเศร้าหนักกว่า .... เป็นกำลังใจให้ครับครู บางครั้งเราก็ได้แค่มอง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ..... ทำได้อย่างเดียว คือ "ทำใจ" ครับ 

เมื่อรู้สึกว่ากำลังแย่ จงให้กำลังใจตัวเอง ด้วยการคิดว่า "ยังมีคนอื่นที่แย่กว่าเราอีก"

ได้แต่ทำใจ

ตอนเป็นเด็ก....มีแรง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน กลางคน.....มีเงิน มีแรง แต่ไม่มีเวลา ปั้นปลาย.....มีเงิน มีเวลา แต่ไม่มีแรง

หันหน้ามาทางปร้าตีน หรือปร้าหัวนอน หรือปร้าออกแทนก็ได้น้อง จะได้ไม่เป็นภาพอันบาดตาบาดใจ............ :sweating:

อนิจจา สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม คนดูแลไม่ทำงานอะไร แต่อาจจะไม่ว่างดุแลเด็กก็ได้จ้า เวลาไปทำอย่างอื่นที่เขาเห็นว่าสำคัญกว่า(ในความคิดของเขานะ)

 

 

msn:lekonshore@hotmail.com

ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุข สนุกกับชีวิต อย่ามัวคิดอิจฉาใคร

หันไปหาเมียหวา เผื่อมีลูกเอง

ตอนเป็นเด็ก....มีแรง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน กลางคน.....มีเงิน มีแรง แต่ไม่มีเวลา ปั้นปลาย.....มีเงิน มีเวลา แต่ไม่มีแรง

สงสารเด็กจัง เราเปลี่ยนค่านิยม เปลี่ยนความคิดคนอื่น ๆ ไม่ได้ทั้งหมด เพราะเรามีแค่เสียงเล็ก ๆ ในสังคม แต่จะมีวิธีใดบ้างที่จะสร้างความเข้าใจ ให้ผู้ปกครองเข้าใจความรู้สึกของเด็กบ้าง ตอนนี้ทำได้แค่เพียงตั้งใจว่าเราจะไม่ให้ลูก หลาน เราต้องอยู่ในสภาพแบบนั้น เพราะบางคนก็ต้องการให้ลูกหลานมีพัฒนาการที่ดี ทันเพื่อนตามที่นักวิชาการต่าง ๆ ได้ออกมาแนะนำ บางคนพูดว่าร้องให้ไม่กี่วันเดี๋ยวมีเพื่อนก็จะหายเอง คำนี้เพื่อนดิฉันพูดกับดิฉันทางโทรศัพท์เมื่อถามว่าหลานดิฉันสองขวบครึ่งไปโรงเรียนหรือยัง เมื่อดิฉันตอบว่ายัง เป็นห่วงเขา ยังช่วยเหลือตัวเองได้ไม่ดีพอ เขาก็บอกว่าเขาจะได้ปรับตัว จะได้ฝึกช่วยเหลือตัวเองได้งัยล่ะ แต่นั่นแหละ นานาจิตัง แต่ในใจดิฉันไม่อยากให้ลูกหลานเป็นอย่างภาพที่ครูตี๋มองเห็นทุกวัน 

แบ่งปัน สร้างสรรค์ พอเพียง

 

ไม่อยากเห็นภาพนั้น

ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานใคร

ตอนเป็นเด็ก....มีแรง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน กลางคน.....มีเงิน มีแรง แต่ไม่มีเวลา ปั้นปลาย.....มีเงิน มีเวลา แต่ไม่มีแรง

เมื่อก่อนพี่สรแค่เห็นคนหาบไขปิ้งขายก็สงสารอย่างบอกไม่ถูก (เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่น ที่หาเงินโดยใช้สมองมากกว่าแรงกาย) สำหรับบางชิวิต เลือกไม่ได้จริง ๆ เช่นเด็กคนนั้น ที่ไม่ได้รู้เรื่อง รู้ราวอะไรเลย

ที่มันบาดตาคือพอผู้ปกครอง ขับรถกลับ เด็กคนนั้น วิ่งไปที่วางรองเท้า รีบหยิบรองเท้าแล้ววิ่งตาม พี่เลี้ยงต้กหน้ากอดแล้วอุ้มไว้ แล้วเด็กคนนั้นก้ร้องต่อไป

ตอนเป็นเด็ก....มีแรง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน กลางคน.....มีเงิน มีแรง แต่ไม่มีเวลา ปั้นปลาย.....มีเงิน มีเวลา แต่ไม่มีแรง

*  คนที่พร้อมทุกอย่าง มีบ้าน หน้าที่การงาน คนเลี้ยงดู แต่ดันไม่ยักกะมีลูก  รอแล้วรออีก  :confused:

*  เมียนอนเจ็บคิดว่าคงไม่รอดแน่แล้ว ผัวขับรถไปไหนต่อไหนได้สบายแต่กลับโดนรถทับตาย   :confused:

:admire:   สู้ ๆ คะ

เพราะชีวิต...คนเรา    เกิดมา....ไม่นาน ก็ต้องตาย
ต้องกลายเป็นความว่างเปล่า
Cr. เ่ท่าที่มี - กางเกง

อ่านแล้วเศร้าครับ

ตอนเป็นเด็ก....มีแรง มีเวลา แต่ไม่มีเงิน กลางคน.....มีเงิน มีแรง แต่ไม่มีเวลา ปั้นปลาย.....มีเงิน มีเวลา แต่ไม่มีแรง

หน้า