Re-consume

หมวดหมู่ของบล็อก: 

                   สรุปเพิ่มเติม ... แล้ว

     เช้าวันนี้ .... ข้าพเจ้าเดินตระเวน รดน้ำ ดูแลสุขภาพ ต้นไม้ใบหญ้า ที่ปักดินไว้รอบ ๆ บ้าน อันเป็นกิจวัตร ประจำวัน

     .... เสร็จภารกิจ ... เดินผ่านป้าที่นั่งทานข้าวอยู่หน้าทีวี ดูรายการข่าวเช้า

     ขณะนั้นผู้ดำเนินรายการ กำลังรายงานข่าว เรื่องในประเทศจีน มีผู้คิดค้นนำเอา อุจจาระมนุษย์ มาแปรรูป ใช้แทนเนื้อสัตว์ รับประทานใหม่ ย้ำ ...รับประทานใหม่ และผู้รับประทาน คือ คน ครับ ไม่ใช่ต้นไม้ ต้นไล่ ที่ไหน

     มาถึงตอนนี้ หลายท่านคงคิดในใจ หรือคิดออกมาดัง ๆ ว่า เอาอะไรมาเขียน ใคร่เรียนยืนยันว่า ข่าวเป็นเช่นนี้จริง ๆ และคงมีหลาย ๆ ท่านได้ชมด้วย

     ด้วยคงเช่นเดียวกับหลายท่านที่ข้าพเจ้ากล่าวไปในย่อหน้าที่ผ่านมา ป้าซึ่งนั่งทานข้าวอยู่ ผลักจานออกห่าง ข้าพเจ้ามองหน้า (ดูตาไม่เห็นครับ เพราะป้าสวมแวนดำ) เห็นสีหน้าผะอืดผะอม ของป้า

     “อิ่มเหลอ?" ... ข้าพเจ้าถาม “กินไม่หมด แล้วตักเยอะทำไม?” ถามต่อโดยไม่ทันฟังคำตอบแรก

        ป้าส่ายหน้า พร้อมตอบ “กินไม่ลง... จะอ้วก”

     “ไม่สบายเรอะ?” ข้าพเจ้าถาม

        “ไม่ ... กำลังกิน ฟังข่าวนี่แล้ว จะอ้วก” ป้าอธิบาย

     “อ้าว ... เขาแค่เล่า” ... ข้าพเจ้าติง “ไม่เห็นมีรูปซะหน่อย”

     ป้าปุ้ยปากไปที่จานข้าว แล้วอธิบาย “พ่อดูซี ... กำลังกินสตู พอฟังข่าว เห็นสีสตู นึกเห็นภาพ เลยจะอ้วกน่ะ” แล้วปรารภต่อ “ไม่มีอะไรจะกินแล้วเรอะ แล้วกินเข้าไปได้ไง แถมบอกว่าอร่อยกว่าเนื้อ .... บ้าาา ..!”

     ข้าพเจ้าคว้าจานมา พร้อมถาม “ไม่กินแน่นะ ... งั้น พ่อกิน เสีดาย”

     ป้าพยักหน้าแทนคำตอบ ข้าพเจ้ามองหน้า แล้วก้มลงคว้าจาน ... ลุกขึ้นพร้อมกล่าวอย่างไม่ตั้งใจ “ในพุงแม่ก็เยอะน๊ะ” แล้วเดินเข้าครัว

     “รู้ ... แต่ กินไม่ลง” เสียงกระด้าง ๆ ของป้าตามหลังมา คงไม่สนใจว่าข้าพเจ้าจะฟังหรือไม่ “ไม่มีอะไรทำรีไง คนกินก็กินได้ไง” (คงปรารภด้วยอารมณ์ค้าง)

     แต่ข้าพเจ้า ก็เสวนาตอบไปจากก้นครัว “ช่างเขาเถอะนา .... ก่อนโน้น แม่จำไม่ได้รึไง ที่มีข่าวว่าในประเทศไทยเรานี่แหละ มีคนพนันกินอุจจาระสด ๆ กัน หนึ่งถ้วยของหวานนะ ไม่ได้แปรรูปด้วยซ้ำ”

     “พอเถอะ ... จะออกมาจริง ๆ แล้วนะ” เสียงสวนมาจากป้า

     ข้าพเจ้าหยุดพูด ตักข้าว เข้าปาก เคี้ยว แต่ไม่หยุดคิด (สติมาช้า ปล่อยวางไม่ทัน)

     “เขาคงค้นหา นวัตกรรม นะ

      .... หรือไม่ก็ ... “เขา .. อาจเห็นจริงว่า เป็นแค่ ... สิ่ง ... สิ่งหนึ่งเท่านั้น”  ก็ได้

    ขึ้นกับว่าจะมองอย่างไร

      ถ้ามองความจริง ไม่เอาอารมณ์ปรุงแต่ง เข้ามาเกี่ยวของ เขาก็คือวัตถุอย่างหนึ่ง ไม่มีอะไรน่ารังเกียจ

      ถ้ามองเห็นภัยในตัวเขา เช่น เชื้อโรค ที่ปนเปื้อนอยู่ ก็เป็นการมองที่สมควรรังเกียจ

ความเห็น

 เฮ่อ ฟังแล้วนี่ถ้าไปเที่ยวเมืองจีนคงไม่กล้ากินอะไรแล้วหล่ะค่ะ :shock2:

"ความสุขของชีวิตในวันนี้ คือทำตามวิถีพอเพียงของพ่อ"

ไอ้หยา ....เสียดายไม่ได้ดูข่าว .... อ่านไปขำไปกับหน้าจอคอม จนเพื่อนหันมามอง แล้วร้องถาม ก็เลยเล่าให้ฟัง ร้องยี้ กันแถว แถมใกล้เวลาพักเที่ยงแล้วด้วย 555
:uhuhuh:

เมื่อรู้สึกว่ากำลังแย่ จงให้กำลังใจตัวเอง ด้วยการคิดว่า "ยังมีคนอื่นที่แย่กว่าเราอีก"

คนจีนนี้เขามีอะไรให้แปลกใจอยู่เรื่อยๆ เลยนะ อย่างว่ามากคนก็มากเรื่องแบบนี้แหละ

คิดให้แตกต่าง...แต่อย่าแตกแยก

ข้าพเจ้าชินแล้ว เช็ดอึมาใหม่ๆ ยังหม่ำได้ สบายมาก (แต่น้ำลายยังไม่ชินจะอ้วกทุกที ) ต้องเจออยู่เกือบทุกวันมันไม่น่าโสภาเลยใช่ไหม ดูต้นไม้ดีกว่าเนอะ แต่ว่าอึเนี่ย ตากแดดฆ่าเชื้อจนแห้งไม่มีกลิ่นเลย เอามาทำปุ๋ยได้เคยไปอบรมที่ชุมพรคาบาน่า เขาเรียกปุ๋ยอินเตอร์เพราะมีหลายชาติ แหมก็คนเรานี่กินแต่ของดีๆทั้งนั้น

ดีที่ฮูกเกินเป็นคนไทย ไม่งั้นแย่เลยต้องกิน   ยึ้ยๆๆ

 

 

"ขอบคุณน้ำใจที่แบ่งปัน ขอบคุณบ้านสวนพอเพียง"

   เป็นการทดลอง ไม่ได้มีทานทั่วไป และก็ไม่มีข้อบังคับต้องทาน

ไม่ไดวหรอกค่ะ  หนูไม่เอาด้วยหลอกค่ะ 


:nonono:

แบบนี้ไม่ไหวครับ


อย่าว่าแต่ป้า..เป็นผมก็คงกินไม่ลง แค่นึกก็สยองแล้ว..ลุงนี่เก่งจริง..ดูไปกินไป..ก็ทำได้..ไม่ธรรมดาเลยนะลุง

แสวงหาชีวิตที่สงบ..หลบลี้หนีความวุ่นวาย

   จริง ๆ แล้ว มันแค่ผัสสะทางหู  .... ไม่เห็นของจริง ไม่ได้กลิ่น ไม่ได้ลิ้มรส

     แต่เราถูกใส่ข้อมูลไว้เยอะ เลยปรุงเยอะ เลยสร้างจินตนาการเอาเอง น่ะหลานตั้ม

หน้า